ความหมายของภูมิปัญญา | ภูมิปัญญาอีสานที่น่าสนใจ
ภูมิปัญญาคืออะไร?
ภูมิปัญญา หมายถึง แบบแผนการดำเนินชีวิตที่มีคุณค่า แสดงถึงความเฉลียวฉลาดของบุคคลและสังคม ซึ่งได้สั่งสมและปฏิบัติสืบต่อกันมา ภูมิปัญญาจะเป็นทรัพยากรบุคคล หรือทรัพยากรความรู้ก็ได้
ภูมิปัญญาพื้นบ้าน หมายถึง การเอาทรัพยากรความรู้ ทรัพยากรบุคคลที่มีอยู่ในท้องถิ่นแต่ละแห่ง ซึ่งอาจเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตน หรือเป็นลักษณะสากลที่หลายๆ ท้องถิ่นมีคล้ายกันก็ได้ ภูมิปัญญาพื้นบ้านในแต่ละท้องถิ่นเกิดจากการที่ชาวบ้านแสวงหาความรู้เพื่อเอาชนะอุปสรรคทางธรรมชาติ ทางสังคมที่จำเป็นในการดำรงชีวิต ภูมิปัญญาพื้นบ้านจึงเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและวิถีชีวิตชาวบ้าน เช่น
การประกอบประเพณี พิธีกรรมของชุมชน เป็นกิจกรรมที่ทำให้ผู้กระทำสบายใจ รู้สึกอบอุ่นไม่โดดเดี่ยว ให้คุณค่าทางจิตใจและความรู้สึกถือว่าเป็นพลังทางศีลธรรมหรือประเพณี การรวมกำลังช่วยกันทำงานที่ใหญ่หลวงที่เกินวิสัยที่จะกระทำได้สำเร็จด้วยกำลังเพียงคนเดียว เช่น การลงแขกสร้างบ้าน สร้างวัด สร้างถนนหนทาง หรือขุดลอกแหล่งน้ำ เป็นกิจกรรมที่แสดงถึงความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือกันภายในชุมชน ทำให้เกิดความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน โดยทั่วไปภูมิปัญญาพื้นบ้านเป็นรูปแบบการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อนเป็นประโยชน์แก่คนทุกระดับ มีลักษณะเด่นคือ สร้างสำนึกเป็นหมู่คณะสูง ทั้งในระดับครอบครัวและเครือญาติ
ถึงแม้ผู้คนไม่น้อยเห็นว่า ชุมชนอีสาน เป็นดินแดนแห่งความแห้งแล้ง ความโง่ ความจน ความเจ็บไข้ได้ป่วยอันน่าเวทนา แท้ที่จริงไม่มีมนุษย์ผู้ใดและสังคมใดที่ปล่อยให้วันเวลาผ่านเลยโดยไม่สั่งสมประสบการณ์ หรือไม่เรียนรู้อะไรเลยจากช่วงชีวิตหนึ่งของตน ไม่ว่าในภาวะสุขหรือทุกข์ คนอีสานได้ใช้สติปัญญาสั่งสมความรู้ ดังจะเห็นได้จากภาษิตอีสาน (ผญาก้อม) จำนวนไม่น้อย ที่แสดงทัศนะชื่นชมคุณค่าของความรู้ในการประกอบอาชีพ และค่านิยมประการหนึ่งของชาวอีสานคือ ยกย่องความรู้และการใช้ความรู้อย่างมีคุณธรรม ดังความว่า
- เงินเต็มภา บ่ท่อผญาเต็มปูม (ภา = ภาชนะ, ท่อ = เท่า, ผญา = ปัญญา, ปูม = ภูมิ)
- บ่มีความฮู้อย่าเว้าการเมือง บ่นุ่งผ้าเหลืองอย่าเว้าการวัด (ความฮู้ = ความรู้, เว้า = คุย)
- เกิดเป็นคนให้เฮียนความฮู้ เฮ็ดซู่ลู่เขาบ่มียำ (เฮียน = เรียน, เฮ็ดซู่ลู่ = ทื่อมะลื่อ, ยำ = เคารพ)
- ให้เอาความฮู้หากินทางชอบ ความฮู้มีอยู่แล้ว กินได้ชั่วชีวัง
- บ่ออกจากบ้าน บ่เห็นด่านแดนไกล บ่ไปหาเฮียน ก็บ่มีความฮู้
- แม้นสิมีความฮู้เต็มพุงเพียงปาก สอนโตเองบ่ได้ ไผสิย่องว่าดี (โตเอง = ตนเอง, ย่อง = ยกย่อง)
ผู้ที่สามารถประกอบการงานได้ผลดี โดยใช้ภูมิปัญญาชาวอีสาน เรียกว่า หมอ เช่น หมอลำ คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านการร้องลำนำประกอบเสียงแคน หมอแคน คือ ผู้เชี่ยวชาญในการเป่าแคน หมอมอ คือผู้รอบรู้ด้านโหราศาสตร์ ทำนายทายทักโชคชะตาราศี หมอว่าน คือ ผู้รอบรู้ด้านสมุนไพรต่างๆ หมอยา คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรค หมอผึ้ง คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านการหาน้ำผึ้ง ผู้มีภูมิปัญญาทุกวิชาชีพได้รับการยกย่องจากชุมชนเสมอหน้ากัน ดังความว่า
ครั้นสิเป็นหมอว่าน หมอยา หมอป่า
ครั้นสิเฮียนบีบเส้น เอ็นคั้นให้ส่วงดี (บีบเส้น = การนวด, ส่วง = หาย) หรือสิเฮียนคงค้อน คงหลาว หอกดาบ เฮียนให้เถิงขนาดแท้ ดีถ้วนสู่อัน หรือสิเฮียนหนังสือให้ เฮียนไปสุดขีด ครั้นแม้เฮียนแท้ให้ เป็นคนฮู้สู่คน (คนฮู้ = คนดี) หรือสิเฮียนเป็นหมอเต้น หมอตี หมอต่อย ให้เฮียนแท้ๆ คนจ้างสู่วัน หรือสิเป็นหมอน้ำ ตึกปลาแหหว่าน ทำให้ได้เต็มข้อง สู่วัน (ข้อง = เครื่องจักสานใช้ใส่ปลา) หรือสิเป็นหมอสร้าง นา สวน ฮั่วไฮ่ เอาให้ได้เกวียนซื้อ แก่ขาย (ที่มา : พระยาคำกองสอนไพร่)
|
นอกจากมนุษย์จะใช้ "ภูมิปัญญา" เพื่อประกอบอาชีพที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศแล้ว มนุษย์ยังสังเกตลักษณะที่เป็นคุณและโทษของธรรมชาติ แล้วนำมาเป็นแบบอย่างการดำเนินชีวิต กระบวนการทางสังคม คือ การอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัว เป็นหมู่บ้าน เป็นเมืองและประเทศชาติ ชาวอีสานมีทัศนะในการใช้ชีวิตว่า อยู่เป็นหมู่ดีกว่าอยู่โดดเดี่ยว เพราะขีดจำกัดทางกายภาพและภูมิปัญญา การช่วยกันคิด ช่วยกันทำ การพึ่งตนเอง และการพึ่งกันเอง น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ทำอย่างไร? การอยู่ร่วมกันจึงจะเกิดประโยชน์สุข ผู้ฉลาดจึงร่วมกันกำหนดฮีตบ้าน-คองเมือง เช่น ฮีตสิบสอง-คองสิบสี่ กฎหมายท้องถิ่น วรรณกรรมคำสอน นิทานพื้นบ้าน บทเพลงและคติธรรม ซึ่งถ่ายทอดจากคนรุ่นหนึ่งไปยังคนอีกรุ่นหนึ่ง แม้บางส่วนอาจไม่เหมาะสมกับสภาพสังคมปัจจุบันต้องมีการเปลี่ยนแปลง แต่กระบวนการทางสังคมหลายส่วนยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ในสภาพสังคมปัจจุบัน
กระแสทุนนิยมกับการดูหมิ่นภูมิปัญญาชาวบ้าน
การพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติ ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน เป็นไปตามกระแสทุนนิยม รัฐใช้อำนาจในการจัดการเปลี่ยนแปลงวิถีชาวบ้าน ด้วยการส่งเสริมให้ปลูกพืชเศรษฐกิจเพื่อค้าขาย เช่น ปลูกอ้อย มันสำปะหลัง ปลูกปอ ข้าวโพด การปลูกข้าว การผลิตเพื่อขายทำให้ขยายพื้นที่การเกษตร เกิดการทำลายสภาพป่าไม้และแหล่งน้ำ การผลิตเพื่อขายทำให้มีการโยกย้ายผลผลิตออกจากหมู่บ้าน ชาวบ้านได้รับผลตอบแทนที่ไม่สมดุลย์ ถูกเอารัดเอาเปรียบในตลาดการค้า กำไรตกอยู่ในมือพ่อค้าคนกลางมากกว่าตกอยู่ในมือชาวบ้านผู้ผลิต พ่อค้าซื้อราคาถูกแต่ขายราคาแพง ชาวบ้านในกระแสทุนนิยมจึงประสบปัญหาหนี้สิน เพราะต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทั้งค่าปุ๋ย ค่ายาปราบศัตรูพืช ค่าแรงงาน ค่ารถไถ (ค่างวดมอเตอร์ไซค์และสิ่งฟุ่มเฟือยอื่นๆ)
ปัญหานี้เอง ทำให้เกิดการแสวงหาแนวทางที่เป็นทางรอด และทางเลือกของท้องถิ่น จึงมีการศึกษาภูมิปัญญาพื้นบ้าน ทั้งด้านทรัพยากรบุคคล และทรัพยากรความรู้เพื่อเลือกตัวแบบ หรือแนวทางที่เหมาะสมแก่ชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการทำไร่นาสวนผสม การดำรงชีวิตความเป็นอยู่แบบพอเพียง แนวทางการดำเนินชีวิตของปราชญ์ชาวบ้านอีสาน อย่างเช่น
- มหาอยู่ สุนทรธัย ปราชญ์ต้นตำรับผู้สร้างเกษตรผสมผสาน แห่งจังหวัดสุรินทร์
- นายชาลี มาระแสง ปราชญ์ผู้พลิกนาแล้งสู่ความอุดมสมบูรณ์ด้วยความเพียร แห่งอำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ
- นายทองดี นันทะ ปราชญ์ชาวบ้านผู้ถือติ "เฮ็ดน้อยได้หลาย เฮ็ดหลายได้น้อย" ชาวอำเภอหนองแวง จังหวัดขอนแก่น
- นายคำเดื่อง ภาษี ผู้สร้างอาณาจักรสีเขียวหมื่นปี แห่งจังหวัดบุรีรัมย์
- นายบุญเหล็ง สายแวว ปราชญ์ชาวบ้านผู้ทำตามแนวทางเกษตรพอเพียง แห่งจังหวัดอุบลราชธานี
ล้วนแต่เป็นต้นแบบที่ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน การใช้ธรรมชาติเป็นแม่แบบของวิถีชีวิต การศึกษาอย่างเข้าใจ ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เหมาะสม ล้วนแต่เป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ การผลิตเพื่อให้เพียงพอต่อการอยู่การกินในครอบครัว เหลือแล้วขายหรือนำไปแลกกับสิ่งอื่นๆ ที่ต้องการ จะช่วยลดปัญหาหนี้สิน ชีวิตมีความสุขมากกว่าการที่จะมุ่งผลิตเพื่อขายนำเงินไปซื้อสิ่งฟุ่มเฟือยมากมายนัก และด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลของพ่อหลวงของเรา (รัชกาลที่ ๙) ที่ทรงย้ำเตือนให้คนไทยได้รู้จักกับเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้หลายๆ ฝ่ายได้หันมามองถึงความผิดพลาดในนโยบายเศรษฐกิจที่ผ่านมา และกลับไปศึกษาภูมิปัญญาดั้งเดิมอีกครั้งหนึ่ง วันนี้เราจึงได้ยินคำว่า ภูมิปัญญาท้องถิ่น กันมากขึ้น
แล้วลูกหลานไทย ยังจะดูถูกความรู้ ความคิด ภูมิปัญญาของบรรพชน อยู่อีกละหรือ? "
ภูมิปัญญาชาวบ้านกับการอ้างเพื่อกระแสธุรกิจ
กรณีศึกษา ที่น่าสนใจและเป็นข่าวครึกโครมมาช่วงหนึ่งคือ เรื่อง สุรา/เหล้าพื้นบ้าน มีคนบางกลุ่มได้หยิบประเด็นของภูมิปัญญาชาวบ้านมาอ้างว่า ต้องสนับสนุนส่งเสริมให้มีการผลิตเพื่อการจำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย จนในช่วงปีก่อนๆ นั้นตามริมถนนหนทางเกือบทั่วประเทศ จะมีซุ้มจำหน่ายสาโท กระแช่ ไวน์ผลไม้ท้องถิ่น เหล้าพื้นบ้านกันไปทั่วสารทิศ
ความจริงเราน่าจะมองที่ 'ภูมิปัญญาชาวบ้าน' จริงๆ เป็นอย่างไร? ก่อนที่จะมาตีเหมารวมอย่างนั้นก่อนดีไหมครับ
ภูมิปัญญาชาวบ้านเรื่องเหล้า (ในวิถีชีวิตคนอีสาน) "การทำเหล้าสาโทของคนอีสาน จะทำเพื่องานบุญประจำปี หรือเพื่องานกิจกรรมใหญ่ๆ ของหมู่บ้าน ของท้องถิ่น ไม่ได้ทำตลอดทั้งปี ดื่มกินตลอดทั้งปีก็หาไม่" เช่น ทำเหล้าสาโทในงานบุญบั้งไฟตอนเดือนหก ทำเหล้าสาโทในการลงแขกเกี่ยวข้าว หรือนวดข้าว ซึ่งจะมีกิจกรรมเหล่านี้เพียงปีละครั้งเท่านั้น การถ่ายทอดทางภูมิปัญญา จึงเป็นการบอกเล่าผ่านจากรุ่นหนึ่งไปสู่อีกรุ่นหนึ่ง เป็นทอดๆ ไม่ได้มีมาตรฐานใดๆ รองรับ จึงมักจะได้ชิมเหล้าสาโทที่มีรสชาติแตกต่างกันไป ตามความรู้หรือความชำนาญของผู้ทำ ทั้งเปรี้ยวบ้าง หวานบ้าง ขมบ้าง ไม่แน่นอน
การที่จะส่งเสริมให้มีการผลิตขายจึงไม่ใช่ภูมิปัญญาแน่นอน เพราะบรรพบุรุษของเรา ไม่เคยส่งเสริมให้ลูกหลานเป็นคนขี้เหล้าเมายา ต้องซื้อมาดื่มกินกันได้ทุกวี่วัน อย่าไปคิดแบบนักการตลาดโง่ๆ (คนภาคราชการที่ไม่เคยค้าขาย) ที่มาบอกว่าจะร่ำรวย ขายได้เป็นร้อยล้านพันล้าน เพราะไม่มีใครจะซื้อสินค้าที่ขาดมาตรฐานรองรับ การส่งเสริมให้ทำสิ่งใดต้องดูตลาดก่อน
เดี๋ยวจะช้ำหัวใจเป็นหนี้สิน ธกส. เข้าให้อีก เหมือนคราวปลูกพริก ปลูกมะม่วงหิมพานต์ ปลูกมันสำปะหลัง ปลูกปอ ปลูกยางพารา ปลูกมะนาว ปลูกกล้วยหอมทอง เห็นเขารวยเร็ว เขาว่าดีก็แห่ไปปลูกตามกัน สุดท้ายก็น้ำตาตกเพราะราคาต่ำเตี้ยเรี่ยดินนั่นเอง ล่าสุดหลอกให้ ปลูกมันญี่ปุ่น (ที่ความจริงเป็นการปั่นราคาขายตันพันธุ์แต่ไม่ซื้อคืนตามที่โฆษณาไว้) ส่งเสริมให้ปลูกแต่ไม่เคยหาตลาดให้ สุดท้ายก็หนี้ท่วมหัว เหล้าสาโทนี่ก็มาทำนองเดียวกันนั่นแหละท่าน
แล้ววันนี้ เห็นสุรา สาโท ไวน์พื้นบ้าน ขายตามข้างทาง ร่ำรวยกันหรือยังครับ?
ภูมิปัญญาอีสานที่น่าสนใจของบ้านเฮา
- วิญญาณ ๕ ของชาวอีสาน อัตลักษณ์ที่บ่งบอกชัดเจนว่าคุณเป็น "ฅนอีสาน" แท้จริงเพียงใด
- ก่องข้าวและกระติบข้าว ภาชนะแห่งภูมิปัญญาในการบรรจุข้าวเหนียวกักเก็บความร้อนและเหนียวนุ่มของข้าว
- หวดนึ่งข้าวเหนียว อุปกรณ์สำคัญในการทำให้ข้าวสุก เหนียวนุ่ม และนวัตกรรมของหวดนึ่งข้าวสมัยใหม่
- ข้าวฮางงอก การเพิ่มคุณค่าทางวิตามิน แร่ธาตุ ให้กับข้าวทำให้ร่างกายได้ประโยชน์จากการบริโภคมากยิ่งขึ้น
- อาหารการกินของหมู่เฮาชาวอีสาน มีอะไรที่อร่อยและกลายเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในภาคอื่นๆ
- ผักพื้นบ้านอีสาน : สมุนไพรใกล้ตัว คุณค่าที่น่ารู้ คู่ครัวไทย มีมากมายที่เราอาจจะยังไม่รู้
- ผงนัว อุมามิอีสาน ที่เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้าน คุณค่าความอร่อยที่ปลอดสารเคมี
- ปลาแดก ปลาร้า ความมั่นคงในชีวิตของชาวอีสานมาอย่างยาวนานจากอดีตสู่ปัจจุบัน
- เครื่องใช้ประจำบ้าน ที่กำลังจะสูญไปจากครัวเรือนอีสานบ้านเฮา ไผยังมีใช้อยู่บ้างน้อ ไปเช็คดูหน่อย!
- ยาฮากไม้ สมุนไพรไทอีสาน ภูมิปัญญาที่สั่งสมมานานของบรรพบุรุษ ยารักษาโรคที่กำลังได้รับความสนใจพัฒนา
- สมุนไพรในป่าภาคอีสาน หนังสือความรู้ด้านสมุนไพรที่พบได้ในผืนป่าภาคอีสานของเรา โดย มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
- พิธีกรรมประจำชีวิต ตั้งแต่เกิดมา จนวันอำลาโลกนี้ไป ทุกคนล้วนผ่านพิธีกรรมต่างๆ ในช่วงชีวิตมาแล้ว
- ตำนานนกหัสดีลิงก์ การประกอบพิธีศพเจ้านาย และพระเถระเถระผู้ใหญ่ในภาคอีสาน
- พานบายศรี การทำพิธีบายศรีสู่ขวัญจะต้องมี พานบายศรี เป็นอุปกรณ์สำคัญประกอบในพิธี
- เครื่องทองเหลืองบ้านปะอาว หัตถกรรมทองเหลืองเลื่องชื่อมาแต่โบราณของชาวบ้านปะอาว อุบลราชธานี
- ผ้ากาบบัวเมืองอุบลราชธานี เอกลักษณ์ลายผ้าท้องถิ่นที่สืบทอดต่อกันมายาวนาน
- การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เส้นใยแห่งความงดงามองชาวอีสาน มีคุณค่าน่าสนใจ
- เครื่องมือในการประกอบสัมมาชีพคนอีสาน ที่มีมายาวนานควรค่าแก่การศึกษาและอนุรักษ์
- บทพิสูจน์ว่าคุณเป็นคนอีสานบ้านนอก รู้จริงป๊ะ ใช่จริงไหมไปพิสูจน์กันหน่อย
เครื่องดนตรี การแสดง และการละเล่น อีสานบ้านเฮา
- หมอลำ : ตำนานที่มีชีวิตไม่มีวันตาย ความม่วนซื่นของฅนอีสานที่กระจายไปกลทั่วทุกภาค
- หมอลำเมืองอุบลราชธานี ที่มีมานานเป็นตำนานที่กล่าวถึงอยู่เสมอ
- หนังปราโมทัย การแสดงฮูปเงาของชาวอีสานที่มีมานาน
- แคน มหัศจรรย์เสียงจากลำไผ่ ออร์แกนแบบอีสานที่เสียงมีเสน่ห์ ชวนให้คิดฮอดบ้าน
- โหวด เสียงออดอ้อน อ้อยอิ่งจากลำไผ่เชนเดียวกับแคน
- พิณ ซุง กีตาร์อีสานสไตล์ เครื่องดนตรีเอกลักษณ์อีสานอีกชิ้นหนึ่ง
- โปงลาง ขอลอ เสียงอันไพเราะจากการเคาะไม้
- ซออีสาน เครื่องดนตรีประเภทเครื่องสายที่ให้เสียงอ้อยอิ่ง ใช้คลอประกอบการร้องรำ
- กลอง เครื่องดนตรีประเภทตีกระทบ เพื่อคุมจังหวะดนตรี หรือตีใช้บอกเหตุต่างๆ
- กันตรึม ท่วงทำนองดนตรี ของชาวอีสานใต้ที่สนุกสนานเร้าใจ
- เจรียง จำเรียง การแสดงของชาวอีสานใต้ ที่เคียงคู่กันมากับกันตรึม
- ซอกันตรึม เสียงอันเป็นเอกลักษณ์คู่กับท่วงทำนองดนตรีกันตรึม
- นาฏศิลป์และการร่ายรำ อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชาวอีสาน
- การเซิ้งแบบต่างๆ ท่วงทำนองของความสนุกสนาน การแสดงออกแบบฅนอีสาน
- กลอนลำตามคำขอ ทั้งกลอนลำเก่าๆ หรือใหม่ที่ท่านขอกันมา
การแสดงทางศิลปวัฒนธรรมอีสานบ้านเฮา