mp3

ekkaponเอกพล มนต์ตระการ

เอกพล มนต์ตระการ เจ้าของผลงานอัลบั้ม "หยาดเหงื่อเพื่อแม่" นักร้องชายคนล่าสุด ในสังกัดแกรมมี่โกล์ด โดยการสนับสนุนของครูสลา คุณวุฒิ

ekkapon album3เอกพล มนต์ตระการ หรือ นายหนูกร ทีรวม เป็นคนตำบลบ้านแดง อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ครอบครัวมีอาชีพทำนา และต้องการช่วยเหลือครอบครัวจึงไป สมัครเป็นนักร้องอยู่ที่ หมอลำคณะเงาฟ้าอัศวิน จนได้มาเจอกับครูสลา จากนั้นครูสลาพาไปฝากกับ คณะพิณแคนแดนอีสาน ของ ศิริพร อำไพพงษ์ และมีงานเพลงชุดแรกคือ "อวยพรน้องเพ็ญ" เป็นอัลบั้มแรก

ครูสลา คุณวุฒิ กล่าวถึงลูกศิษย์คนนี้ว่า "นักร้องรุ่นใหม่ส่วนมากจะมีนํ้าเสียงเหมือนกันหมด ไม่มีใครที่โดดเด่นออกมาเลยเท่าที่ดู ซึ่งเราจะหานักร้องที่มีนํ้าเสียงนุ่มเหมือนกับนักร้องเมื่อสมัยก่อนนั้นยากมาก ผมว่าเอกพลเขาเป็นนักร้องที่มีนํ้าเสียงนุ่มซึ่งตรงนี้ถือเป็นจุดเด่น ของเขาอย่างชัดเจนเลย และเขายังมีความเป็นลูกทุ่งจริงๆ อยู่ในตัวเองซึ่งตรงนี้คิดว่า น่าจะเป็นตัวแทน ของคนระดับรากหญ้าที่มีความรักในเสียงเพลง "

"เห็นว่าเขามีคุณสมบัติที่พร้อมแต่ขาดโอกาส และโดยปกติผมจะไม่ค่อยออกมาสนับสนุนใคร เพราะว่าสังคมรู้จักผมในฐานะคนเขียนเพลง ไม่อยากที่จะให้คนมองภาพอื่น"

นายร้อยหน้าลิฟท์ อัลบั๊มชุดที่ 3 ของ เอกพล มนต์ตระการ

"เอกพล มนต์ตระการ" นักร้องหนุ่มสู้ชีวิต จาก ตำบลบ้านแดง อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ทำให้แฟนเพลงทุกสถานที่ บ่นคิดฮอด และ ถามถึงผลงานชุดใหม่ของเขาอย่างต่อเนื่อง ครูสลา คุณวุฒิ และ ทีมงานแกรมมี่โกลด์ ใช้เวลาฟูมฟักร่วม 2 ปี เอกพล มนต์ตระการ จึงได้ออก อัลบั้มชุดที่ 3 "นายร้อยหน้าลิฟต์" มาให้แฟนเพลงได้สัมผัส เนื้อหายังคงยืนหยัด บอกเล่าเรื่องราว สู้ เศร้า เหงา รัก ของคนรากหญ้า หนุ่มบ้านนาผู้ไฝ่ฝันอยากมีเครื่องแบบสวมใส่ สอบ "รตอ." ไม่ได้จนสุดท้ายได้ "รปภ." นอกจากนี้ยังมีบทเพลงเพราะ อื่นๆ อาทิ จม.ขอลา, อกหักแม่นบ่, อยู่หม่องใด๋ก็คึดฮอด, ขอแรงมาช่วยลืม ฯลฯ

akapol 01

เอกพล มนต์ตระการ ให้สัมภาษณ์ถึงการเดินออกจากค่ายแกรมมี่โกลด์อย่างเป็นทางการ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา (พฤษภาคม 2553) ว่า

"ทางพี่ตี่ กริช ทอมมัส คืนสัญญาให้ผมมาแล้ว คุยกันเมื่อช่วงวันที่ 4-5 พฤษภาคม ที่ผ่านมานี่แหละครับ พี่เขาก็ตามใจผมจะอยู่ต่อก็ได้ไปก็ได้ ผมเลือกไปสาเหตุเพราะการออกเทปมันห่างหลายปี ชุดสุดท้าย ”นายร้อยหน้าลิฟท์” ปี 2549  ทำออกมาแล้วไม่ค่อยประสบความสำเร็จ อาจสู้เด็กรุ่นใหม่ไม่ได้ ก็โทษตัวเราอย่างเดียวก็ไม่ได้ ผมว่ามีหลายๆ อย่าง”

akapol 02

ผู้สื่อข่าวถามว่า มาจากความแก่และแนวเพลงในตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่ลูกทุ่งอีสานเหมือนเดิมหรือเปล่า นักร้องชายยอดเยี่ยมรางวัลคมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 2 กล่าวตอบว่า "สภาวะหลายๆ เรื่อง คงไม่ใช่เรื่องแก่หรือแนวเพลง พี่นาง ศิริพร พี่ไมค์ทุกคนก็อายุเพิ่มขึ้น แต่เขาก็มีงานเพลงออกมาตลอด เปลี่ยนแนวไปบ้าง อย่างผมก็ยินดีเปลี่ยน สำคัญว่าเขาจะเปลี่ยนให้ไหมเท่านั้น ถ้าทำก็อยู่ได้ กลุ่มแฟนเพลงของผมก็มี ไม่ใช่ไม่มีอะไรเลย อันนั้นน่ากลัว ผมเจอครูสลาปรึกษาท่านตลอดก่อนที่จะไปยกเลิกสัญญา ท่านให้เราคิดดูดีๆ พอเราตัดสินใจออกครูก็บอกว่าจะไม่ทิ้ง“

นายร้อยหน้าลิฟท์ - เอกพล มนต์ตระการ

จากประสบการณ์อยู่แกรมมี่โกลด์มาหลายปีได้อะไรบ้าง และทิศทางของตัวเองจากนี้จะเป็นอย่างไร เอกพล ตอบด้วยเสียงเนิบๆ ว่า "ผมมาอยู่ที่แกรมมี่เพราะครูสลา ชุดแรกปี 2545 “หยาดเหงื่อเพื่อแม่” ถ้าถามว่าได้อะไรจากตรงนั้นบ้าง อันแรกเลยได้รู้วิธีการทำงาน ผมว่าได้ทุกอย่างเลยไม่เฉพาะการร้อง การใช้ชีวิตอยู่อย่างไรให้ถูกต้อง อยู่กับแกรมมี่ดีมากๆ ครับ"

แล้วทำไมเลือกมาอยู่ที่ค่ายท็อปไลน์ เอกพลบอกแบบซื่อๆ ว่า

“ส่วนตัวแล้วชอบตลาดเพลงแนวท็อปไลน์ น่าจะใช่ตัวผมลูกทุ่งอีสานคนรากหญ้า น่าจะเป็นตัวเรามากที่สุด ผมไม่ได้คุยกับค่ายไหน ไม่ค่อยยุ่งกับใคร พอมาคุยกับคุณทวีชัย จริยะเอี่ยมอุดม (ผู้บริหารค่ายท็อปไลน์) ท่านก็บอกว่ายินดีต้อนรับ แต่ว่าเป็นการคุยเบื้องต้นยังไม่เป็นทางการแค่รับรู้ข้อมูล”

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ที่ว่าแนวเพลงท็อปไลน์น่าจะเข้ากับสไตล์ของตัวเองนั้น คิดว่าจะเป็นแนวเพลงแบบเดิมที่เคยทำกับแกรมมี่ใช่ไหม เอกพลอธิบายว่า

akapol 03

“ตอนอยู่ที่แกรมมี่โกลด์เพลงช้าหวานๆ จะมาก ถ้ามาอยู่อีกค่ายก็ควรเพิ่มสีสันจังหวะเร็วๆ ที่ฟังง่าย แต่หวานซึ้งก็ยังมีอยู่ ต้องทำออกมาให้ดีที่สุด เปลี่ยนหลายๆ อย่างคือต้องมีสิ่งที่แตกต่างจากเดิม แต่คงต้องดูอีกทีว่าจะไปทางไหนให้มันเข้ายุคสมัย ไม่ทิ้งแฟนเพลงกลุ่มเดิมและเพิ่มแฟนเพลงกลุ่มใหม่ มีเตรียมไว้หลายเพลงแล้วครับ“ นักร้องหนุ่มกล่าวทิ้งท้าย

"เอกพล มนต์ตระการ" หลังจากทำงานเพลงมาแล้ว ในชุด "ฝันว่าได้เมื่อบ้าน" ในสังกัด "นายพลเอนเตอร์เท็นเม้นท์" หลังจากออกอัลบั้มใหม่ กับค่ายนายพลเอ็นเตอร์เทนเม้น ก็ถือว่า ผลการตอบรับจากแฟนเพลง เป็นที่น่าพอใจ เอกพล กล่าวว่า "จากชุดแรก ที่ทำกับค่ายนายพลฯ ก็ถือว่าน่าพอใจมากครับ แฟนเพลงรู้จัก และชื่นชอบกันมาก เหมือนเราได้กลับมาทำในสิ่งที่เรารักอีกครั้ง มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เงียบหายไป เพราะไปโชว์ตัวต่างประเทศครับ ตอนนี้ทางบริษัทก็เรียกตัวด่วน ให้ทำซิงเกิ้ลสำหรับอัลบั้มชุดใหม่แล้วครับที่เสร็จไปแล้ว พร้อมจะปล่อยออกมาให้ฟัง ก็มีเพลง 1. คนหลายใจห้ามฟัง 2. ฝากดาวข่าวใจ ส่วนอัลบั้มเต็ม อดใจรออีกนิด ได้ฟังกันครบแน่นอนครับ ก็ต้องขอบคุณแฟนเพลง และพี่ๆ สื่อทั้งหลาย และดีเจคลื่นวิทยุ ที่ยังไม่ลืม เอกพล มนต์ตระการ คงได้พบกันเร็วๆ นี้ ที่สถานีนะครับ เพราะทางทีมงาน กำลังวางโปรแกรมในการไปสัมภาษณ์ให้อยู่แล้วพบกันครับ" เอกพล กล่าวปิดท้าย

อ้ายฮักเจ้าที่สุดในโลก - เอกพล มนต์ตระการ

เอกพล กล่าวว่า "งานตอนนี้ลดลงไปจากเดิมประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากระยะการออกผลงานมันทิ้งช่วงห่างกันมาก มีการโปรโมตผลงานผ่านสื่อน้อย ทำให้ชื่อค่อยๆ หายไป แต่ที่ยังมีงานอยู่ยอมรับเลยว่า กินบุญเก่าสมัยเป็นนักร้องแกรมมี่ โกลด์ ก่อนออกมาผมขออนุญาตพี่ตี่ (กริช ทอมัส) ขอใช้เพลง หยาดเหงื่อเพื่อแม่ สัญญาปลาข่อน นั่งเฝ้าเขาจีบ และนายร้อยหน้าลิฟต์ ร้องทำมาหากิน พี่ตี่ก็อนุญาตโดยไม่เก็บลิขสิทธิ์ ต้องขอบคุณพี่ตี่และแกรมมี่ให้สัญญาคำไหนคำนั้น พี่ตี่เป็นคนน่ารักมีสัจจะ ถ้าไม่มีเพลงเหล่านี้ผมอยู่ไม่ได้แน่นอน"

ปัจจุบัน ผันตัวเองทำการเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ตามรอยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมอาชีพเสริมผลิตสินค้าเพื่อการเกษตรในนาม “สารมาเต็ม” แม้จะยังไม่มีผลงานเพลงใหม่ๆ ออกมา แต่เอกพลยังมีงานเดินสายร้องเพลงทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง แฟนเพลงยังให้การยอมรับในความสามารถอยู่เหมือนเดิม

ส่วนช่วงที่ว่างเว้นจากงานเพลง เอกพลจะทำการเกษตรปลูกทุกอย่างที่กิน และกินทุกอย่างที่ปลูก ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่ของพ่อหลวง ซึ่งเมื่อลงมือทำ พิสูจน์แล้วด้วยตนเองแล้ว ยืนยันได้ว่า “ศาสตร์พระราชา” คือของจริง

akapol 09

“ผมเป็นเด็กบ้านนอก พ่อแม่ทำนา ตอนเด็กๆ ก็ช่วยพ่อแม่ทำนามาตลอด แต่มาว่างเว้นเมื่อมาเป็นนักร้อง เพราะต้องเดินสายบ่อย แต่ช่วงนี้พอจะมีเวลา จึงลงมือทำการเกษตรอย่างจริงจัง โดยนำ “ศาสตร์พระราชา” มาใช้ในการดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพ เพื่อเป็นภูมิคุ้มกัน และสร้างความมั่นคงยั่งยืนให้กับชีวิต ตามที่พ่อหลวงทรงชี้นำไว้ รวมถึงการถ่ายทอดแนวทางพอเพียงควบคู่เกษตรทฤษฎีใหม่ไปสู่พี่น้องเกษตรกรในชุมชนที่ผมอยู่ ผมว่าในโลกนี้ไม่มีพระราชาพระองค์ไหนเหมือนท่านอีกแล้ว ผมโชคดีมากที่เกิดเป็นข้ารองพระบาทพระองค์ท่าน โดยในเร็วๆ นี้ ผมวางแผนจะใช้สวนของตัวเองเปิดศูนย์เรียนรู้ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง ให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำไร่ทำนา ที่สามารถลดต้นทุนการผลิต เพิ่มปริมาณผลผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยขณะนี้ได้ทำแปลงนาสาธิตไว้แล้ว นอกจากนี้ ผู้ที่เข้ามาที่ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้ ยังสามารถมาเรียนรู้ด้านปศุสัตว์ ประมง ฯลฯ ได้ด้วย เพราะผมได้รับความอนุเคราะห์จากหลายหน่วยงาน ที่ให้การสนับสนุนด้านองค์ความรู้และปัจจัยที่จำเป็นต่างๆ”

อย่างไรก็ตาม เอกพล ยืนยันว่า อนาคตไม่ว่าจะประสบความสำเร็จกับการทำธุรกิจมากเพียงใด ก็จะไม่ทิ้งการร้องเพลง จะร้องเพลงไปจนกว่าหมดลมหายใจ "ผมออกมาเป็นศิลปินอิสระครับ ปล่อยซิงเกิ้ลตัวเองเรื่อยๆ ล่าสุดก็มีฮักอิหลีหรือฮักเล่น อ้ายสิเชื่อเป็นเทื่อสุดท้าย ทางช่อง เอกพล มนต์ตระการ ที่มีความสุขสุดๆ คือไปอยู่บ้านเกิด อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ทำเกษตรพอเพียง ปลูกผักออกาไนซ์ ปลอดสาร คะน้า สลัด หอม พริก ข่า ตะไคร้ใบมะกรูด ทำมาหลายปีแล้ว ทำกินเอง เหลือก็แจกชาวบ้าน ซึ่งผมเปิดร้านอาหารอีสานชื่อ ร้านเฮือนครัวมหาลาภ ที่ตระการพืชผลด้วยครับ อย่างผักที่ปลูกปลอดสารพิษ พวกหอมใส่ลาบ แตง ถั่ว ผักต่างๆ ก็นำมาใช้ที่ร้านตัวเอง ปลูกไม่ใช้สารเคมี ผมทำนา ทำเกษตรกับญาติพี่น้อง ครอบครัว เลี้ยงเป็ด ไก่ วัว พื้นที่ก็ราวๆ 40 ถึ ง50 ไร่ครับ

มนต์ฮักทางหินแห่ - เอกพล มนต์ตระการ

เมื่อถามว่า "เสียดายไหมเคยอยู่ค่ายใหญ่ 10 ปี วันนี้ออกมาทำไร่ ทำนา" เอกพลตอบว่า "ไม่ครับ คือด้วยกาลเวลาเดินไปข้างหน้า วันหนึ่งก็ต้องปรับเปลี่ยน เราวางแผนไว้ก่อน ดีกว่าให้เวลาลงโทษเรา อีกอย่างงานเพลงก็ไม่ได้ห่างหาย ร้องเพลงเหมือนเดิม รับคอนเสิร์ตแฟนๆ ยังแน่นหนานะ เพลงเขียนเองบ้าง ทำกับทีมซำบายใจ ของ ครูสลา คุณวุฒิ บันทึกเสียงที่ ซำบายใจสตูดิโอ เหมือนเดิม

ผมรักการเป็นนักร้อง จะเป็นไปจนวันตายโน่นครับ ไม่ทิ้งอาชีพนี้แน่นอน ส่วนธุรกิจเสื้อผ้าเป็นอาชีพเสริม ซึ่งผมไม่ได้มีความถนัด แต่มองว่ามันเป็นช่องทางหารายได้เพิ่ม ช่วยต่อลมหายใจให้เรา ในช่วงที่งานลดน้อยลง" เอกพลกล่าว

เมื่อถามว่า "ชีวิตตอนนี้มีความสุขมากๆ ใช่ไหม" เอกพลตอบว่า "ใช่ครับ พอเรามาทำเกษตรสวนผสม คิดว่าวันหนึ่งก็ต้องกลับมาตรงนี้ ทำไร่ทำสวนก็มาก่อนซะเลย มีความสุขได้อยู่บ้านเกิดตัวเอง วันว่างคอนเสิร์ต ก็เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ เลี้ยงวัว เลี้ยงปลา กลางคืนก็ออกหากินประสาลูกทุ่ง มีความสุขมากๆ ครับ"

หอบใจไปเจ็บ - เอกพล มนต์ตระการ

และขอฝากผลงานเพลงซิงเกิ้ลใหม่ๆ ที่ได้ลงทุนทำเองกับแฟนๆ ด้วยครับ

ว่าที่แฟนเก่า - เอกพล มนต์ตระการ

redline

backled1