looktung morlum artists

hongtong 01หงษ์ทอง ดาวอุดร

เป็นนักร้องลูกทุ่งหญิงเสียงดี ที่ถนัดในแนวเพลงลูกทุ่งอีสาน และหมอลำ ปัจจุบันได้อำลาวงการเพลงไปแล้ว หงษ์ทอง ดาวอุดร เริ่มโด่งดังมาจากเพลง “รักติ๋มแน่หรือ”

ก่อนจะมาเป็นดาว

หงษ์ทอง ดาวอุดร มีชื่อจริงว่า กุหลาบ ยศอ่อน เป็นชาวอำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี เริ่มก้าวเข้าสู่วงการเพลงด้วยการตระเวนประกวดร้องเพลงตามงานวัดต่างๆ มากมาย ตั้งแต่อายุแค่ 7 – 8 ขวบ เธอบอกว่าเคล็ดลับในการคว้าชัยชนะมากมายของเธอก็คือ "การศึกษาว่า คู่ต่อสู้บนเวทีของเธอจะร้องเพลงอะไร" จากนั้นเธอก็จะคิดหาเพลงมาสู้ แต่โดยมากตัวเธอจะร้องเพลงของ นกน้อย อุไรพร เป็นหลัก

เข้าสู่วงการ

เมื่อ พ.ศ. 2519 อดีตนักร้องและผู้นำวงดนตรี “ศรีไพร ใจพระ” ได้จัดการประกวดหานักร้องเวทีใหญ่ เพื่อค้นหานักร้องรุ่นเยาว์ที่มีความสามารถ 4 คน ตอนนั้น “กุหลาบ ยศอ่อน” อายุ 16 ปี เป็นคนที่สามที่ได้รับการคัดเลือก ด้วยพรสวรรค์ ทำให้สามารถคว้าชัยชนะในการประกวดรอบเดือน ที่เวทีวัดป่าโนนนิเวศน์ จังหวัดอุดรธานี ซึ่งมีการประกวดอยู่ 3 เดือน

hongtong 02

ศรีไพร ใจพระ เดินทางไปพบพ่อแม่ของเธอ และสัญญาว่าจะทำให้เธอนักร้องที่มีชื่อเสียงให้ได้ โดยพานักร้องประกวดที่เข้ารอบทั้ง 4 คนเข้ากรุงเทพฯ แต่ไปๆ มาๆ ก็เหลือเธอคนเดียว แต่ ตในขณะนั้นศรีไพรเองก็ต้องการโปรโมต “หงส์หยก” ซึ่งเป็นยี่ห้อครีมรองพื้นของตัวเองที่ทำออกมาจำหน่าย เขาเลยต้องตั้งชื่อนักร้องทั้ง 4 คนที่ได้รับการคัดเลือกมาเป็น “หงษ์น้อย”, “หงษ์ฟ้า”, “หงษ์ทอง” และ ”หงษ์เงิน” ตามลำดับ

ตอนแรก “หงษ์ทอง” ถูกมองว่ามีแววจะรุ่งน้อยที่สุดในกลุ่ม แต่เมื่อเพื่อนร่วมวงของเธออย่าง “หงษ์น้อย” ไม่สามารถร้องเพลงหนึ่งเพลงคือ “บั๊มพ์…ลำเพลิน” ได้ตามที่คาด “หงษ์ทอง” จึงใช้โอกาสนี้ให้เป็นของเธอ ด้วยพื้นเพความสามารถการร้องเพลงหมอลำมาก่อน หงษ์ทอง ดาวอุดร ทำให้เพลง “บั๊มพ์…ลำเพลิน” กลายเป็นเพลงฮิตของเธอได้

ต่อมาก็เริ่มเห็นได้ชัดเจนว่า ชีวิตของพวกเธอ ("หงษ์" ทั้งสี่คน) ภายใต้การชี้แนะของศรีไพรนั้นไม่ตรงกับที่คาดฝันไว้ เมื่อครูเพลงของวง ดอย อินทนนท์ เขียนเพลงเสร็จเรียบร้อย “หงษ์ทอง” ต้องรีบท่องจำเนื้อเพลงให้ได้ ถ้าจำเนื้อเพลงไม่ได้ “ศรีไพร” จะลงโทษพร้อมขู่ว่า “ร้องไม่ได้ก็กลับบ้าน” ด้วยความที่ “หงษ์ทอง” เป็นคนรูปร่างอวบ บางครั้ง “ศรีไพร” ก็จะบังคับให้เธออดอาหารสามวัน ให้ดื่มแต่น้ำเปล่าเพื่อลดหุ่นให้ได้

ไม่นานหลังจากนั้น “หงษ์น้อย” ก็ชวนนักร้องรุ่นน้องอีกสองคนไปเข้าร่วมวงดนตรีของ ศรชัย เมฆวิเชียร แต่ หงษ์ทอง ดาวอุดร ก็ยังร้องเพลงอยู่กับ “ศรีไพร” เพราะรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณเขาอยู่ เธอเล่าว่า “ศรีไพร” มีความรู้มากมายที่จะสั่งสอนส่งต่อให้กับเธอ แต่มีอยู่ไม่กี่คนเท่านั้นหรือจริงๆ แล้วอาจจะมีแค่ “หงษ์ทอง” คนเดียว ที่สามารถทนอยู่กับ “ศรีไพร” และเรียนรู้ทุกอย่างจากเขาได้

แม้ว่าเพลงของ หงษ์ทอง ดาวอุดร จะได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่การอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ก็เป็นเรื่องยากสำหรับเธอ เพราะหงษ์ทอง ดาวอุดร ต้องอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์แออัดร่วมกับนักร้องคนอื่นๆ ในสังกัดและคนงานโรงงานครีมทาหน้าของ “ศรีไพร ใจพระ”

hongtong 06

หงษ์ทอง เล่าว่าทุกๆ 5 วัน นักร้องทุกคนจะได้รับเงิน 100 บาทจาก “ศรีไพร” แต่บางทีเขาก็ลืมแล้วก็เงียบหาย บางครั้งก็เดินทางไปต่างจังหวัด แม้ว่าหงษ์ทอง และนักร้องคนอื่นๆ ก็มีเงินแทบไม่พอใช้อยู่แล้ว บางทีมีเพื่อนบ้านที่เป็น นักศึกษา ม. รามคำแหง ที่อาศัยอยู่ห้องใกล้ๆ กันก็ขอยืมเงินจากเธอและเพื่อนนักร้อง ด้วยความผูกพันผ่านสภาพชีวิตอันยากลำบาก เพื่อนร่วมอพาร์ตเมนต์เหล่านี้ก็จะร่วมกันทำต้มจืดเต้าหู้ใส่น้ำเยอะมากๆ มาแบ่งกันกิน

เมื่อครอบครัวของ หงษ์ทอง ดาวอุดร เดินทางไกลจากอีสานมาเยี่ยมเยือนถึงกรุงเทพฯ พวกเขาก็ต้องตะลึงกับสภาพความเป็นอยู่อันคับแค้น และแทบไม่มีข้าวปลาอาหารไว้หุงกินเลย ดังนั้น ปลาที่ครอบครัวนำมาจากบ้านเกิด จึงถูกแบ่งสรรให้กับเพื่อนบ้านร่วมอพาร์ตเมนต์ที่ขอไปทำกับข้าวให้ประทังต่อชีวิต

รายได้สูงจากการร้องเพลง

เมื่อปี 2521 การตัดสินใจของ หงษ์ทอง ดาวอุดร ที่เลือกอยู่ต่อภายใต้สังกัดของ ศรีไพร ใจพระ ก็เริ่มส่งผลลัพธ์ด้านบวกให้กับชีวิตนักร้องของเธอ ในปีเดียวกันนี้เอง หงษ์ทอง ได้มีโอกาสร้องเพลงแก้ (เพลงที่มีเนื้อเพลงทำนองโต้ตอบกับเพลงเดิม) กับนักร้องลูกทุ่งชื่อดังถึง 2 เพลง ได้แก่ “รักติ๋มแน่หรือ” ซึ่งเป็นการร้องแก้เพลงของ สายันต์ สัญญา ในเพลง “รักติ๋มคนเดียว” กับเพลง “บัวหลวงรอรัก” ซึ่งเป็นเพลงแก้เพลง “บัวหลวงบึงพลาญ” ของ ศรชัย เมฆวิเชียร

หลังจากที่ หงษ์ทอง ดาวอุดร ผ่านการสอบได้รับใบผู้ประกาศเพื่อจัดรายการวิทยุ เธอก็เริ่มต้นอาชีพเป็นดีเจ อีกทั้งยังทำงานเขียนบทและจัดทำซิงเกิ้ลประกอบโฆษณารายการวิทยุ และแสดงในโฆษณาทางทีวี สำหรับเพลงโฆษณาอย่าง “ฉันรักจักรยานมิกกี้ ดูสิสง่าสวยดี ขี่ไปไหน” หงษ์ทองเล่าว่าเธอได้รับค่าตอบแทนมากถึง 100,000 บาทหลังจากนั้น หงษ์ทอง ดาวอุดร ก็ปรากฏตัวบนหน้าหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ โพสต์ท่าถ่ายรูปกับจักรยานมิกกี้ เธอยังเป็นคอลัมนิสต์ประจำของหนังสือพิมพ์บ้านเมือง ภายใต้นามปากกาว่า “ช่อผกา”

hongtong 03

การแสดงภาพยนตร์

หงษ์ทอง ดาวอุดร ยังเป็นหุ้นส่วนทาฝธุรกิจกับ ศรีไพร ใจพระ ซึ่งบ้านบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ชั้นบนของเขาเป็น โรงงานผลิตครีมทาหน้า และชั้นล่างเป็น บริษัท เอส.เอ.เอส.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทจัดหาแรงงานอีสานส่งไปยังประเทศซาอุดิอาระเบีย ซึ่งยุคนั้นคนงานไทยชอบไปทำงานกันก็คือ ตะวันออกกลาง

หงษ์ทองคะนองลำ : หงษ์ทอง ดาวอุดร

ศรีไพร ใจพระ จึงคิดสร้างภาพยนตร์โปรโมทธุรกิจจัดหาแรงงานชื่อ “คุณนายซาอุ” เมื่อปี 2525 โดยดาราที่ร่วมแสดงหนังเรื่องนี้ได้แก่ สรพงษ์ ชาตรี ลลนา สุลาวัลย์ และ เนาวรัตน์ ยุกตะนันท์ ส่วนดารานำหญิงอีกคน คือ หงษ์ทอง ดาวอุดร เพราะนักร้องหญิงคนอื่นๆ ได้ออกจากสังกัดไปหมดแล้ว โดยหงษ์ทอง รับบทบาทแสดงเป็นภรรยาของแรงงานอีสาน และร้องเพลงประกอบถึง 3 เพลงด้วยกัน ได้แก่ “หงษ์ทองคะนองลำ” ผลงานของครูดอย อินทนนท์ เพลง “ถ่าพี่” (รอพี่กลับมา) และ “คุณนายซาอุ” ในแบบสไตล์ญี่ปุ่น

เรื่องราวในภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ศรีไพร  ใจพระ หลอกแรงงานคนอีสานโดยพาพวกเขาขึ้นเครื่องบินไปกรุงเทพฯ แล้วบินกลับไปอุดรธานี พวกเขาคิดว่าตัวเองนั้นได้เดินทางไปถึงซาอุฯ แล้ว จนกล่าวติดตลกว่า “คืออุดรแท้.. เอิ้นมันว่า ‘ซาอุดร’ ซะบ้อ” อีกมุกเด็ดคือมุกที่แรงงานอีสานไม่รู้จักเนย เมื่อตอนอยู่บนเครื่องบินจึงไม่รู้ว่าจะเอาเนยไปทำอะไร ก็เลยพากันเก็บใส่กระเป๋ากางเกงจนเนยละลายเปื้อนหมด

รอรักจากซาอุ : หงษ์ทอง ดาวอุดร

มีบทหนึ่งตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ หงษ์ทอง ดาวอุดร ได้รับบทบาทให้แสดงถูกถามว่า ทำไมเธอถึงมีเพชรพลอยใส่เยอะแยะมากมายขนาดนี้ เธอตอบว่า “ก็ส่งควายไปทำงานเมืองนอกยังไงล่ะ” ซึ่งบทพูดนี้มีที่มาจากการที่คนมักพูดกันว่า “ควายเมืองอุดรแข็งแรง” ซึ่งหงษ์ทองได้แสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้ว่า “คนกรุงเทพฯ ไม่เข้าใจว่าประโยคนี้มีที่มาอย่างไร และคิดว่ามันเป็นคำที่มีความหมายทางเพศ”

ถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ได้ประสบความสำเร็จด้านรายได้ แต่ก็มีชื่อเสียงมากพอที่จะทำให้คนที่ต้องการไปทำงานที่ซาอุฯ คิดถึงบริษัทของ “ศรีไพร” ก่อนใคร บทบาทของ “หงษ์ทอง” ในภาพยนตร์ยังทำให้เธอมีงานเพลงเข้ามาอีกมากมาย สร้างรายได้ให้กับเธอมากถึงเดือนละประมาณ 30,000 บาท จำนวนมากพอที่ทำให้เธอสามารถซื้อบ้านหนึ่งหลังได้ก่อนจะมีบัตรประจำตัวประชาชนเสียอีก

hongtong 05

จากนั้น หงษ์ทอง ดาวอุดร ก็ตั้งวงดนตรีรับงานแสดงทั่วไป ซึ่งก็ประสบความสำเร็จอย่างมาก พอถึงหน้าฝนเมื่อมีการหยุดเดินสาย เธอก็เข้าห้องอัดเสียง ช่วงระหว่างปี 2521-2525 หงษ์ทอง ดาวอุดร มีผลงานออกอัลบั้มเทปคลาสเซตต์ 15 อัลบั้ม โดยเจ้าตัวบอกว่า ผลงานของเธอก็มีทั้งที่ประสบความสำเร็จบ้าง และไม่ประสบความสำเร็จบ้าง วงดนตรีหงษ์ทอง ดาวอุดร เดินสายอยู่ 4 ปีก็ยุบวง เพราะภาวะขาดแคลนน้ำมันในยุคนั้น (ระหว่างปี 2525-2526) ที่ทำให้ทางการประกาศปิดปั้มน้ำมันตอน 4 ทุ่ม แต่วงดนตรีต้องเดินสายกันตลอดวันตลอดคืนเพื่อไปทำการแสดงที่ต่างๆ เมื่อไม่มีน้ำมันเติม ก็ทำให้ต้องพบกับความลำบากกันมาก กอร์ปกับการที่ในช่วงนั้น หงษ์ทอง ดาวอุดร เริ่มมีปัญหาเส้นเสียงอักเสบ ทำให้เธอต้องลดรับงานคอนเสิร์ตลง

หลังหยุดวง หงษ์ทอง ดาวอุดร เข้ามาช่วยงานบริษัทจัดหางานของศรีไพร ใจพระ นอกจากนั้นก็มาจัดรายการวิทยุควบคู่ไปด้วย หลังจากหยุดวงดนตรีไม่นาน ปี 2528 หงษ์ทอง ดาวอุดร ก็แต่งงานมีครอบครัว และหายหน้าไปจากวงการเพลงลูกทุ่ง หงษ์ทองให้กำเนิดลูกชายเมื่อปี 2530 และหย่ากับสามีในปี 2537 เธอย้ายจากกรุงเทพฯ กลับไปอยู่อุดรธานีบ้านเกิด

hongtong 04

พอถึงปี 2539 หง ษ์ทอง ดาวอุดร มีปัญหาเรื่องการใช้เสียงมากขึ้น ก็เลยเข้ารับการผ่าตัดต่อมไธรอยด์ หลังการผ่าตัดในครั้งนั้นก็ทำให้เธอพูดไม่ได้นานถึง 6 เดือน เวลาจะสื่อสารต้องใช้วิธีการเขียนหนังสือเอา แต่ล่าสุด (ปี 2550) เธอบอกว่า เสียงของเธอกลับมา 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว

หงษ์ทอง ดาวอุดร : รายการไมค์ทองคำหมอลำฝังเพชร

ปัจจุบัน หงษ์ทอง ดาวอุดร ผันตัวเองมาเป็นนักจัดรายการวิทยุ ประเภทข่าวและเพลงคลื่นทางวิทยุ ที่จังหวัดอุดรธานี รวมทั้งรับเป็นพิธีกรตามงานของสมาชิกผู้ฟังคลื่น และขึ้นร้องเพลงบ้างเป็นครั้งคราว

redline

backled1