foto1
foto1
foto1
foto1
foto1
ช่วงนี้อากาศปรวนแปรไปทั่วโลก บ้างก็มีพายุรุนแรง แผ่นดินไหว ฝนตก น้ำท่วม ดินพังทลาย จนไร้ที่อยู่ บ้านเฮากะต่างภาคต่างกะพ้อไปคนละแนว บ้างก็ฝนตกจนน้ำท่วม บ้างก็แล้งจนพืชผลแห้งตาย กระจายเป็นหย่อมๆ แบบบ้านเพิ่นท่วมแป๋ตาย นาใกล้ๆ กันนี้ผัดบ่มีน้ำจนดินแห้ง อีหยังว่ะ! นี่ละเขาว่าโลกวิปริตย้อนพวกเฮามนุษย์เป็นผู้ทำลายของแทร่ ตอนนี้ทางภาคเหนือกำลังท่วมหนัก ข่าวว่าภาคอีสานบ้านเฮาก็เตรียมตัวไว้เลย พายุกำลังมาแล้ว ...😭🙏😁

: Our Sponsor ::

adv200x300 2

: Facebook Likebox ::

: Administrator ::

mail webmaster

: My Web Site ::

krumontree200x75
easyhome banner
ppor 200x75
isangate net200x75

e mil

No. of Page View

paya supasit

ju juคันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า

        ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ##

song word

ารเรียนรู้ภาษาอีสานจากเพลง น่าจะเป็นหนทางที่ผู้เรียนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะได้ยินสำเนียงเสียงอีสานจากนักร้อง บางเพลงก็ยังเรียนรู้ความหมายของคำได้ จากละครในมิวสิกวีดิโอได้อีกด้วย ตามคำขอครับสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเพลงอีสานแต่ฟังแล้วเข้าใจความหมายได้ไม่หมด ก็ทำให้ความรู้สึกซาบซึ้งในดนตรีนั้นลดน้อยลง อยากจะทราบเนื้อหาเพลงใด ของนักร้องคนใด ก็บอกกันมาครับ ส่งอีเมล์ไปที่ webmaster (@) isangate.com จะได้นำมาเสนอเป็นลำดับต่อไป ขอแจ้งให้ทราบว่า ผู้จัดทำไม่ได้มีความต้องการโปรโมทเพลงนักร้องคนใด ค่ายใดทั้งสิ้น เพลงที่ถูกคัดเลือกมานำเสนอ จะต้องมีภาษาอีสานแทรกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่แฟนเพลงบางท่านอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ฟังแล้วม่วนแต่บ่เข้าใจ จึงจะได้รับการคัดเลือกมาลงในหน้านี้ครับ

 

สาวผู้ไทฮ่อนคำ : สิริพอน - เม ยูน่า
ສາວຜູ້ໄທຮ່ອນຄຳ : ສິລິພອນ + ເມຢູ່ນາ


ประพันธ์โดย : อาจารย์ดอกเพ็ก แดนจำพอน

 

        โอย...น้อ อ้ายบ่าวฟังลำเอย ชายเอยสาวภูไททางก้ำ แถวเมืองวังอ่างคำ ยังคงคอยอ้ายอยู่ คอยอย่างมีม่อมชู้
  เคียงข้างน้องฮ่อนคำ อ้ายเอย

       (พี่ชายผู้ฟังลำ สาวภูไททางเมืองวังอ่างคำยังคอยพี่อยู่ อยากมีตู่เคียงช่วยน้องมาร่อนทองคำกัน)

        เชิญเยอ เชิญมายามม้อมน้อง อยู่ท้องถิ่นเมืองวิละ เมืองที่มีภูผา หน่วยพะนอมเลียนต้อน ในดงดอนก็มีไม้
  จวงจันอันล้ำค่า สักกุนาลิ้นเหม่น กวางฟานเต้นสนั่นเนือง แท้นา

       (เชิญนะพี่มาเยี่ยมเยือนน้องที่เมืองวิละ ที่มีภูเขา ต้นไม้เขียวขจี อุดมด้วยสัตว์ป่า นกกา กวาง ฟานมากหลาย)

        อันว่า แถวไฮ่นาอั่งเข้า เต้าต่อมอุดมดี สายน้ำมีปูปา ล่องลอยวังกว้าง ปวงประชาสนุกสร้าง ปัวแปงเจ้าขุดก่น
  บ่ได้ฮนฮวนฮ้อน เขินข้อนแต่อย่างใด ดอกเด้อ

       (ในไร่นาดินดีอุดมสมบูรณ์ ในน้ำก็มากมีปูปลา มาช่วยกันสร้างความมั่งคั่ง ถิ่นนี้มีทรัพย์มากมายให้ค้นหา)

        ชายเอย ตามสายธารฮ่องข้าง เพิ่นบ้างฮ่อนเอาคำ อยู่ตามลำเซบาย ฮ่องสายเซน้อย คอยไปตามสายห้วย
  บ่อนไหลลงใส่เซกอก บอกว่าคำหยาดย้อย ตามลำน้ำเสาะหาดทราย นั่นแล้ว

       (พี่ชายตามน้องมาที่ลำน้ำเซบาย เซน้อย เซกอก ที่นี่มีคำร่ำลือว่ามีแร่ทองคำมากหลายในสายน้ำ)

        เคยมีประเพณีตั้งแต่เค้า เฒ่าแก่ตานาย พากันไปหาเขิง ฮ่อนคำนำลำน้ำ สมกับนามที่เขาเอิ้น ว่าเมืองวังบ่อนคำอั่ง
  แดนที่แสนเจ้าเอกอ้าง ว่าเป็นห้องอ่างคำ ว่าเป็นห้องอ่างคำ แท้นา

       (มีประวัติมานานตั้งแต่รุ่นปู่ย่า ว่าพากันเอาเขิง (กระจาดร่อนทอง) ไปร่อนหาทองคำกันเป็นอาชีพ)

        ชายเอย พอว่าลุนสว่างฟ้า เบยเบิกบูรพา สักกุณาแซวๆ เสียง กล่อมดงพงด้าว ซุมบ่าวสาวพากันห้าว
  แพเคียนหัวถือกะต่า พายติบเข้าปิ้งปา พร้อมหมากพลูให้แม่ตู้ หันหน้าสู่นะที พี่เอย

       (พี่ชาย รุ่งเช้าอรุณเบิกฟ้า เสียงการ้องก้องดัง หนุ่มสาวต่างกุลีกุจอใช้ผ้าขาวม้าคาดหัว ถือตะกร้าใส่อาหารและหมากพลู ออกไปที่แม่น้ำกัน)

        อันว่า พากันทำจั่งซี่ กะดีกว่าป่อยเวลา เส็ดจากทำนาสวน ก็ม่วนยินอยู่ลำน้ำ มื้อมันหมานกะพอได้ คำสลึงไว้ใส่กวด
  หัวใจปวดจ้าวๆ ไผบ่ห้าวบ่แม่นคน ดอกเด้อ

       (ทำกันทุกวันแบบนี้ดีกว่าปล่อยเวลาทิ้งไป เสร็จจากนาสวนเราก็ไปสนุกกันในลำน้ำ วันโชคดีก็พอได้ทองคำกันคนละสลึง มีกำลังใจสู้กันทุกคน)

        เชิญเยอ เชิญมานำหม่อมน้อง มาบ้างห่อนคำแดง เมือส่วยแปงสายแนน ฮ่วมสาวผู้ไทนี้ คันบุญมีกะคงได้
  เมือซูเจ้าซ้อนบ่อน เป็นเขยคูนเลี้ยงพ่อเฒ่า เป็นเขยคูนเลี้ยงแม่เฒ่า
มูนสิข้อนแต่ต่อนคำ ดอกนา

       (เชิญพี่มาหาน้องช่วยกันร่อนทองคำ ถ้าวาสนามีก็คงได้ครองคู่กับสาวภูไทคนนี้ เป็นเขยดีของพ่อตาแม่ยาย เรือล่มในหนองทองจะไปไหนเสีย พี่เอย)

คำและความได้แปลในรูปประโยคในวงเล็บสีเขียวครับ

เพลงนี้ อาวทิดหมู มักหม่วน ตั้งใจนำมาเสนอเอง ชอบที่เป็นลำภูไท (สำเนียงลาวฝั่งซ้ายแท้ๆ) เนื้อหาดี นักร้องก็ร้องได้ม่วนถูกใจหลาย ทั้งน้องสิริพอน ศรีประเสริฐ และน้องเม ยูน่า และที่ประทับใจสุดๆ คือ MV PhuThai Orcresta บ้านทุ่ง ที่นำเสนอโดยทีมงาน Una Studio นี่แหละ สร้างสรรค์มากจริงๆ

una orcresta

redline

backled1

 

 

song word

ารเรียนรู้ภาษาอีสานจากเพลง น่าจะเป็นหนทางที่ผู้เรียนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะได้ยินสำเนียงเสียงอีสานจากนักร้อง บางเพลงก็ยังเรียนรู้ความหมายของคำได้ จากละครในมิวสิกวีดิโอได้อีกด้วย ตามคำขอครับสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเพลงอีสานแต่ฟังแล้วเข้าใจความหมายได้ไม่หมด ก็ทำให้ความรู้สึกซาบซึ้งในดนตรีนั้นลดน้อยลง อยากจะทราบเนื้อหาเพลงใด ของนักร้องคนใด ก็บอกกันมาครับ ส่งอีเมล์ไปที่ webmaster (@) isangate.com จะได้นำมาเสนอเป็นลำดับต่อไป ขอแจ้งให้ทราบว่า ผู้จัดทำไม่ได้มีความต้องการโปรโมทเพลงนักร้องคนใด ค่ายใดทั้งสิ้น เพลงที่ถูกคัดเลือกมานำเสนอ จะต้องมีภาษาอีสานแทรกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่แฟนเพลงบางท่านอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ฟังแล้วม่วนแต่บ่เข้าใจ จึงจะได้รับการคัดเลือกมาลงในหน้านี้ครับ

ไทดำรำพัน

"ไทดำรำพัน" ต้นฉบับร้องโดยนักร้องจาก สปป.ลาว ชื่อ ก.วิเสส (มีชื่อจริงว่า กันตัง ราดปากดี) ที่นำมาเสนอเป็นการร้อง Cover ใหม่โดย สิริพร ศรีประเสริฐ จากค่าย Una Studio เมืองเซโปน สปป.ลาว เพลงนี้กลายเป็นเพลงประจำของชาวไทดำทุกที่ทั่วโลกไปแล้ว ไม่ว่าใน สปป.ลาว เมืองเดียนเบียนฟู-เวียดนาม และทุกแห่งรวมในไทย ขอย้ำ "โซ่ง" หรือ "ไทดำ" ไม่ใช่ "คนลาว" (พื้นเมืองดั้งเดิม แต่อพยพมาจากที่อื่น) เพลงนี้มีที่มาและรายละเอียดมากพอควร อ่านต่อด้านล่าง

ไทดำรำพัน : สิริพร ศรีประเสริฐ

  ໄຕດຳລຳພັນ : ສິລິພອນ ສີປະເສີດ

ผู้แต่งภาษาไทดำ : ลาก บากกำ 
ผู้ดัดแปลงเป็นภาษาลาว : อาจารย์สนอง อุ่นวง

 

             * สิบห้าปี ที่ไตเฮาห่างแดนดิน (...เยอเข้าไป) จงเอ็นดูหมู่ข้าน้อยที่พลอยพรากบ้าน
     เฮาคนไตย้ายกันไปทุกถิ่นทุกฐาน จงฮักกันเด้อ ไตดำเฮาหนา

              ** สิบห้าปี ที่ไตเฮาเสียดายเด (...เยอเข้าไป) เมืองเฮาเพ แสนเสียดายปู่เจ้าเซินลา
     เฮือนเคยอยู่ อู่เคยนอนต้องจรจากลา ปะไฮ่ปะนา น้ำตาไตไหล

            *** สิบห้าปี ที่ไตเฮาเสียแดนเมือง (...เยอเข้าไป) เคยฮุ่งเฮืองหมู่ข้าน้อยอยู่สุขสบาย ลุงแก่นตา
      ได้สร้างสาบ้านเมืองไว้ให้ บาดนี้จากไกล ไตเสียดายเด

      (พูด) งำมา น้ำตา ไตไหล ยามเมื่อ จากไกล ปู่เจ้าเซินลา อพยพ หลบลี้ ไฟรีมา ไตดำ นำหา ครวญหา จู่มื้อ จู่วัน

(ซ้ำ * , ** และ ***)

 

         มีคำภาษาลาว (ซึ่งคล้ายๆ กับภาษาอีสาน) ที่น่าสนใจดังนี้

ไตเฮา = ไทเรา (ชาวไทดำ)
หมู่ข้าน้อย = พวกเรา (ที่ต่ำต้อย)
ฮักกันเด้อ = รักกันนะ (มากๆ)
เสียดายเด = เสียดายจัง (เลย)
ปู่เจ้า = ภูเขา (ในภาษาไท) ถิ่นบรรพบุรุษ
เฮือนเคยอยู่ = บ้านเคยพักพึ่งพิง
ปะไฮ่ปะนา = ปะ (ทิ้ง) ไฮ่ (ไร่) ทิ้งไร่นา
ลุงแก่นตา = บรรพบุรุษ (ผู้สร้างบ้านแปลงเมือง)
บาดนี้ = บัดนี้

เยอเข้าไป = เดินกันไป (ข้างหน้า มีความหวัง)
เฮาคนไต = เราคนไทดำ
เฮาหนา = พวกเรา
เมืองเฮาเพ = บ้านเมืองพังทลาย (ล่มสลาย)
เซินลา = เมืองเซินลา (ชื่อเมืองในเวียดนาม)
อู่เคยนอน = ที่เคยเลี้ยงลูกเล็กเด็กแดง (อู่ คือ เปลนอนเด็ก)
ฮุ่งเฮือง = รุ่งเรือง
สร้างสา = สร้างความปึกแผ่น มั่นคง

ก.วิเสส เล่าให้ฟังว่าตัวเขาเกิดที่ บ้านสีไค ใกล้ๆ สนามบินวัดไต เขตนครหลวงเวียงจันทร์ เมื่อ 58 ปีที่แล้ว (สัมภาษณ์เมื่อปี 2010) ในวัยหนุ่ม ก.วิเสส ได้เข้ารับราชการทหาร สังกัดฝ่ายเป็นกลางแห่งราชอาณาจักรลาว เคยผ่านสมรภูมิรบ "ทุ่งไหหิน" ก่อนที่จะลาออกไปเป็นนักร้อง ตามห้องอาหารในเขตนครหลวงเวียงจันทร์

ราวปี 2510 พ.อ.แพงเกี้ยว สุวัติ ผู้บัญชาการกรมราบอากาศวังเวียง (ทหารพลร่ม) ได้จัดตั้งวงดนตรี "ราบอากาศวังเวียง" ขึ้นมา ก.วิเสส จึงถูกเรียกตัวให้เข้ามาประจำการเป็นนักร้อง "ตอนแรกรวมตัวกันที่บ้านพักของแพงเกี้ยว ที่บ้านสีไค หลังจากนั้นก็ย้ายไปประจำที่เมืองวังเวียง มี "หมีดำ" เป็นโฆษก"

kor wises

"หมีดำ" ที่ ก.วิเสส พูดถึงคือ ร.อ.สนอง อุ่นวงศ์ ซึ่งมีความสามารถในด้านการแต่งเพลง โดยเฉพาะเพลง "ไทดำรำพัน" ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการไปร่วมงานบุญของชาวไทดำหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเขตนครหลวงเวียงจันทร์ เป็นการผสมระหว่างเพลงพื้นบ้านชาวไทดำ (เพลง ไทดำรำพัน ต้นฉบับ แต่งโดย Baccam Lac (ลาก บากกำ) ชาวไทดำ นำมาปรุงแต่งใหม่) กับ ทำนองขับทุ้มหลวงพระบาง

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2518 พรรคประชาชนปฎิวัติลาว ยึดอำนาจการปกครองล้มล้างรัฐบาลราชอาณาจักรลาว จึงทำให้ ก.วิเสส ตัดสินใจมาอยู่เมืองไทย จนกระทั่งปี พ.ศ. 2522 เขาจึงทำเรื่องขอเป็นผู้ลี้ภัยและเดินทางไปใช้ชีวิตที่สหรัฐ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

เพลง "ไทดำรำพัน" ร้องโดย ก. วิเสส

ประวัติศาสตร์ไทดำ

ค้นคว้าและเขียน โดย คุณบรรจง ชัชวาลชัยทรัพย์ คนเชื้อสายไทดำ....

ท้าวสรวง อพยพจากน่านเจ้า มาลงหลักปักฐานอยู่ที่เมืองลอ ภูมิประเทศที่เรียกว่า “สิบสองจุไท” ส่วนใหญ่เป็นขุนเขาจนเรียกว่า "แผ่นดินแห่งขุนเขาหมื่นยอด" มีพื้นที่ราบกว้างใหญ่ ทำนาได้ 100% อยู่สี่แห่ง ทุ่งเมืองลอ ทุ่งเมืองถาน ทุ่งเมืองเติ๊ก และ ทุ่งเมืองแถง (แถง ในภาษาไทดำ หมายถึง แถน ในภาษาลาวและไทย)

แม้ทุ่งเมืองแถงจะใหญ่กว่า แต่รวมทั้งเมืองถาน เมืองเติ๊ก ก็ต้องขึ้นกับเมืองลอ ถิ่นฐานบ้านเดิมของไทดำ ที่เป็นศูนย์กลาง ต่อมาในสมัยลูกขุนลอ ชื่อ "ล้านเจื้อง" ปกครองเมืองแถง ทุกเมืองในสิบสองจุไท ก็เปลี่ยนมาขึ้นกับเมืองแถง

ho jiminhวันเวลาผ่านไป จนถึงสมัยที่ดินแดนแถบนั้นอยู่ในปกครองของฝรั่งเศส และกำลังถูก "โฮจิมินห์" ต่อต้านพวกฝรั่งเศส ฝรั่งเศสเองจัดตั้งแนวร่วมต่อต้านโฮจิมินห์ โดยรวบรวมรัฐไทดำ-ไทขาว 16 แห่ง ตั้งเป็นสหพันธรัฐไต เรียกว่า "ดินแดนเผ่าไท 16 เจ้าไต" แล้วให้ "แดววันลอง" ผู้นำไทขาว เมืองไลเจา เป็นประธานาธิบดี

ฝ่ายโฮจิมินห์ ก็แก้ลำด้วยการเกลี้ยกล่อมไทดำ-ไทขาว เข้าเป็นพวก สองฝ่ายใช้เงื่อนไขเดียวกันว่า ทันทีที่ชนะจะแยกดินแดนให้ไทดำ-ไทขาวปกครองกันเอง นับแต่นั้น ไทดำ-ไทขาวก็แตกออกเป็นสองพวก จับอาวุธหันมาฆ่าฟันกันเอง

ผลบั้นปลายใน "สมรภูมิเดียนเบียนฟู" ฝ่ายโฮจิมินห์ชนะ จับเชลยไทดำ - ไทขาวที่เข้าข้างฝรั่งเศสไปฆ่ามากมายถึง 4,500 คน ส่วนไทดำ-ไทขาวฝ่ายสนับสนุนโฮจิมินห์ระดับผู้นำก็ได้รับตำแหน่งสำคัญ ส่วนเรื่องสัญญา ชนะแล้วจะให้ปกครองดินแดน โฮจิมินห์ก็ทำเป็นลืมเสีย ผนวกเอาดินแดน 16 เจ้าไต รวมกับดินแดนเวียดนาม

นับแต่วันนั้น ปี พ.ศ. 2497 ดินแดน 16 เจ้าไต ก็หายไปจากแผนที่โลก และหายไปจากความทรงจำของชาวโลก

ปี 2512 ไทดำ ที่ลี้ภัยไปอยู่ลาว แต่งเพลง "ไทดำรำพัน" เนื้อเพลงท่อนแรก “15 ปีที่ไทดำ ห่างแดนดิน จงอินดู หมู่ข้าน้อย ที่พลอยพากบ้าน เฮาคนไท ย้ายกันไป ทุกถิ่นทุกถาน จงฮักกันเนอ ไทดำเฮาเนอ”

คุณบรรจง... เล่าเรื่องไทดำไว้ว่า พิธีการก่อนตาย... ไทดำ ในไทย ในลาว หรือทุกแห่งหนในโลก จะถูกสั่งสอนให้ให้รู้จัก พิธีบอกวิญญาณ ให้รู้จักเส้นทาง... กลับสู่แผ่นดินแม่ ไทดำที่อยู่ในสหรัฐฯ หรืออิตาลี... จะถูกบอกให้ขึ้นเครื่องบินมาลงสนามบินดอนเมือง ประเทศไทย หารถต่อไปถึงวัดเนินพระเนาว์ ข้ามฝั่งโขงเมืองหนองคาย... แล้วก็ลัดเลาะแต่ละเมืองไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึง เมืองลอ

สภาพของเมืองลอ น่าจะเป็นเมืองในเนื้อเพลงไทดำท่อน 3 รำพันว่า

เฮือนเคยอยู่ อู่เคยนอน ต้องจรจำลา ปะไฮ ปะนา น้ำตาไทไหล”

คุณบรรจง ทิ้งท้ายให้คิด เพราะไทดำ ไทขาว ไร้รักสามัคคี แตกแยกกันเอง เป็นเหยื่อคำหลอกล่อของฝรั่งเศสและญวน เป็นเหตุแห่งการสิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน

 

เพลงนี้เป็นต้นฉบับภาษาไตดำแท้ๆ โดยสมาคมคนไทดำในอเมริกา

[ อ่านเพิ่มเติม : ชนเผ่าไทดำ (ลาวโซ่ง) ]

กว่าจะมาเป็นเพลงไทดำรำพัน ໄຕດຳລຳພັນ Tai dam lam phan

redline

backled1

song word

ารเรียนรู้ภาษาอีสานจากเพลง น่าจะเป็นหนทางที่ผู้เรียนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะได้ยินสำเนียงเสียงอีสานจากนักร้อง บางเพลงก็ยังเรียนรู้ความหมายของคำได้ จากละครในมิวสิกวีดิโอได้อีกด้วย ตามคำขอครับสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเพลงอีสานแต่ฟังแล้วเข้าใจความหมายได้ไม่หมด ก็ทำให้ความรู้สึกซาบซึ้งในดนตรีนั้นลดน้อยลง อยากจะทราบเนื้อหาเพลงใด ของนักร้องคนใด ก็บอกกันมาครับ ส่งอีเมล์ไปที่ webmaster (@) isangate.com จะได้นำมาเสนอเป็นลำดับต่อไป ขอแจ้งให้ทราบว่า ผู้จัดทำไม่ได้มีความต้องการโปรโมทเพลงนักร้องคนใด ค่ายใดทั้งสิ้น เพลงที่ถูกคัดเลือกมานำเสนอ จะต้องมีภาษาอีสานแทรกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่แฟนเพลงบางท่านอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ฟังแล้วม่วนแต่บ่เข้าใจ จึงจะได้รับการคัดเลือกมาลงในหน้านี้ครับ

siripon sipasert

กะถินคืนถิ่น : สิริพร ศรีประเสริฐ

ກະຖິນຄືນຖິ່ນ : ສິລິພອນ ສີປະເສີດ

ผู้แต่ง : คูนทะวี ศรีโคตะบูน

                    ลมเอ๋ยลม ลมหนาวพัดฮวงเข้า ลมเหนือพัดมาเบาๆ ได้ควมเหงาเข้าเต็มห้องใจ
         จากนามาเกือบสองปี อยู่ราชธานีเมืองไทย แดนดินถิ่นสะตอฝักใหญ่ แต่หัวใจห่วงหาบ้านเฮา

                    ลมวอยวอย ใจน้องลอยว้าเหว่ คิดฮอดบ้านเฮาแท้เด คิดเดคิดฮอดผู้บ่าว
         จากกันงานออกพรรษา สัญญาว่าสิคืนบ้านเฮา ไปนั่งเบิ่งบุญส่วงเฮือหม่องเก่า หม่องสองเฮานัดกันมั่นหมาย

                  * คำอ้ายสั่ง ดังก้องอยู่ว่อนวอน วอนว่อนวอน หัวใจสั่งห่วงหาอาวรณ์ ยามนอนก็กอดหมอนแทนอ้าย
         บ่เคยลืมหมากกะถิน เถิงกินสะตอฝักใหญ่ ยามกินหมากสะตอเทื่อใด ก็คิดไกลหมากกระถินบ้านเฮา

                ** คนเอ๋ยคน คนหูเบาเอาง่าย ทั้งที่รอคงบ่ถึงตาย สิโวยวายหยังเด้ผู้บ่าว
         อดใจน้ออีกจักปี เถิงปีนี้นัดกันแล้วฟ่าว ปีสิมาจึงพ้อกันน้อเฮา น้องสิต่าวคืนถิ่นกะถิน..

(ซ้ำ * และ **)

 

         มีคำภาษาลาว (ซึ่งคล้ายๆ กับภาษาอีสาน) ที่น่าสนใจดันี้

ฮวงเข้า = รวงข้าว
บ้านเฮา = บ้านเรา
คิดฮอด = คิดถึง
คิดเด = คิดนะ
สิคืน = จะกลับ
ส่วงเฮือ = แข่งเรือ
สองเฮา = สองเรา
ว่อนวอน = เสียงที่ก้องอยู่ในหัว
เถิง = ถึง
เทื่อใด = ครั้งใด
บ่ถึง = ไม่ถึง
หยังเด้ = ทำไม
ฟ่าว = ไม่สำเร็จ
สิต่าว = จะกลับ (คืนบ้าน)
ควมเหงา = ความเหงา
ลมวอยวอย = ลมพัดเอื่อยๆ (ในฤดูหนาว)
แท้เด = มากๆ นะ
ผู้บ่าว = ผู้ชาย (แฟน)
เบิ่ง = มอง, เฝ้าดู
หม่อง = ที่ (สถานที่)
อ้าย = พี่
หมากกะถิน = ฝักกระถิน
หมากสะตอ = ฝักสะตอ
คิดไกล = คิดถึง (ไปไกล)
สิโวยวาย = จะโวยวาย
จักปี = สักปี
พ้อกัน = พบกัน
ถิ่นกะถิน = ดินแดนกระถิน (เมืองลาว)

 

 

ความหมายในเพลงนี้ กล่าวถึง "สาวลาวที่ได้จากบ้านไปทำงานในประเทศไทย 2 ปี ที่มีสะตอฝักใหญ่ๆ แต่อย่างไรน้องก็ไม่เคยลืมบ้านเกิด ยังคงคิดถึงหนุ่มลาว คิดถึงเทศกาลวันออกพรรษาที่เคยสัญญาว่าจะไปเที่ยวดูการแข่งเรือด้วยกัน แต่ด้วยความจำเป็นอยู่ไกล ยังเก็บเงินได้ไม่มากพอที่จะกลับบ้าน ก็ได้แต่ฝากเสียงลมผ่านไปยังหนุ่มคนรัก ว่าน้องยังไม่ลืมฝักกระถินแม้ที่นี่จะได้กินสะตอฝักใหญ่ กินสะตอคราใดก็ยังคงคิดถึงกระถินทางบ้าน พี่อย่าเพิ่งไปเชื่อคำใครว่าน้องลืมสัญญา ลืมบ้านเกิด รออีกสักปีนะ ปีหน้าสัญญาว่าจะกลับคืนไปบ้านเกิด"

เพลง กระถินคืนถิ่น ได้รับรางวัลเพลง AEC เพลงดีจากเพื่อนบ้าน ในการประกวดรางวัล มหานครอวอร์ด โดย คลื่น FM95 มหานคร อสมท. ประเทศไทย

siripon sipraserd

redline

backled1

 

song word

การเรียนรู้ภาษาอีสานจากเพลง น่าจะเป็นหนทางที่ผู้เรียนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะได้ยินสำเนียงเสียงอีสานจากนักร้อง บางเพลงก็ยังเรียนรู้ความหมายของคำได้ จากละครในมิวสิกวีดิโอได้อีกด้วย ตามคำขอครับสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเพลงอีสานแต่ฟังแล้วเข้าใจความหมายได้ไม่หมด ก็ทำให้ความรู้สึกซาบซึ้งในดนตรีนั้นลดน้อยลง อยากจะทราบเนื้อหาเพลงใด ของนักร้องคนใด ก็บอกกันมาครับ ส่งอีเมล์ไปที่ webmaster (at) isangate.com จะได้นำมาเสนอเป็นลำดับต่อไป ขอแจ้งให้ทราบว่า ผู้จัดทำไม่ได้มีความต้องการโปรโมทเพลงนักร้องคนใด ค่ายใดทั้งสิ้น เพลงที่ถูกคัดเลือกมานำเสนอ จะต้องมีภาษาอีสานแทรกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่แฟนเพลงบางท่านอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ฟังแล้วม่วนแต่บ่เข้าใจ จึงจะได้รับการคัดเลือกมาลงในหน้านี้ครับ

ผัวเมีย

ขับร้อง : ดาหลา ธัญญาพร

คำร้อง/ทำนอง : งัวน้อย, เรียบเรียง : สวัสดิ์ สารคาม

 

                      กว่าสิมาฮอดฮัก กว่าสิมาฮอดมื้อคำว่าเฮา
                    (กว่าจะมาถึงคำว่ารัก กว่าจะถึงคำว่าเรา)
        ผ่านฮ้อนหนาวมาจักฤดู ผ่านทุกข์ยากปากก่ำมันหมก
        (ผ่านร้อนหนาวมากี่ฤดู ผ่านทุกข์ยากปากกัดตีนถีบ)
        ผ่านนรกที่เคยเป็นอยู่ น้ำตาขูใส่กันจักเทื่อ
        (ผ่านความยากลำบาก และคราบน้ำตามาแล้วกี่ครั้ง)

                      กว่าสิได้ร่วมหมอน กว่าสิได้หลับนอนเคียงข้างกัน
                    (กว่าจะได้ร่วมหมอน กว่าจะได้นอนเคียงข้าง)
        ฝ่าวันวานขื่นขมหลายเทื่อ ลื่นคำเว้าพ่อแม่เพื่อนพ้อง
        (ฝ่าความขื่นขมมาหลายครั้ง ไม่เชื่อคำพ่อแม่เพื่อนพ้อง)
        ลื่นฮีตคองที่คนเขาเชื่อ กว่าสิเหลือเจ้าใว้เคียงข้างกัน
        (ลืมจารีตประเพณีและความเชื่อ เพื่อจะมาเคียงข้างกัน)

                      กั่วสิได้ใช้คำว่าผัวเมีย เฮาต้องใช้เวลาท่อใด
                    (กว่าจะได้ใช้คำว่าผัวเมีย เราต้องใช้เวลามาเท่าไหร่)
        ขั่นบ่ตายสิบ่ไปจากกัน มอบหัวใจให้กันไปแล้ว
        (ถ้าไม่ตายจากกัน มอบหัวใจให้กันแล้ว)
        สิบ่แคล้วจากกัน ฟากฝั่งฝันสิมีกันเพียงสองเฮา
        (คงไม่แคล้วจากกัน ในความฝันนั้นมีเพียงสองเรา)

                ** กว่าสิมาฮอดฮัก กว่าสิมาเอิ้นกันถึงขั้นแฟน
                   (กว่าจะมาถึงคำว่ารัก กว่าจะมาเรียกกันว่าแฟน)
         ต้องหวงแหนผ่านเรื่องค้างคา ผ่านลมลิ้นพวกมือที่สาม
          (ต้องหวงแหนผ่านคารมลมลิ้นจากมือที่สาม
         ผ่านลมกามของพวกแฮ้งกา กว่าสิมาฮอดเฮามื้อนี่
          (ผ่านลมปากของผู้ไม่หวังดี กว่าจะมาถึงวันนี้)

              *** กั่วสิได้ใช้คำว่าผัวเมีย เฮาต้องใช้เวลาท่อใด
                   (กว่าจะได้ใช้คำว่าผัวเมีย เราต้องใช้เวลามาเท่าไหร่)
         ขั่นบ่ตายสิบ่ไปจากกัน มอบหัวใจให้กันไปแล้ว
        (ถ้าไม่ตายจากกัน มอบหัวใจให้กันแล้ว)
        สิบ่แคล้วจากกัน ฟากฝั่งฝันสิมีกันเพียงสองเฮา
        (คงไม่แคล้วจากกัน ในความฝันนั้นมีเพียงสองเรา)

                 (ซ้ำ **, *** และ *** ) ฟากฝั่งฝันสิมีกันเพียงผัวเมีย
                                              (ฟากฝั่งฝันจะมีกันเพียง ผัวเมีย)

 

มีคำภาษาอีสานที่น่าสนใจหลายคำดังนี้

สิ = จะ
ฮัก = รัก, ความรัก
ฮ้อน = ร้อน
ขู = หล่น, ไหลหลั่ง (น้ำตา)
ลื่น = ไม่เชื่อ, ทำเกินเหตุ
ฮีตคอง = จารีต, ครรลอง, ประเพณี
เฮา = เรา, สองคน
ขั่น (คั่น) = ถ้า
แฮ้งกา = แร้งกา
ฮอด = ถึง
มื้อ = วัน
ปากก่ำมันหมก = สู้ชีวิต, ปากกัดตีนถีบ
จักเทื่อ = กี่ครั้ง (เทื่อ = ครั้ง)
เว้า = พูด (คำพูด)
กั่ว = กว่า
ท่อใด = เท่าใด
เอิ้น = เรียก
มื้อนี่ = วันนี้

 

 

dala tanyapon

 

redline

backled1

 

isan word tip

isangate net 345x250

ppor blog 345x250

adv 345x200 1

นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)