ผญาปัญหาภาษิต
- กากินปลิงไปคาคอแฮ้ง เฮือคาแก้งไปล่มเคิ่งวัง
- กกบ่เตื้องติงตายตั้งแต่หง่า หง่าบ่เหลื่องไปเตื้องแต่ใบ
- กรรมสังโอ้ โอทองสังมาแตก บาดกะโป๋หมากพร้าวสังมาหมั้นกว่าโอ
- เก้าสิฆ่าสิบสิฆ่าให้เอาแก่นคะยูงตี อย่าได้เอาบาลีต่อยตีตางค้อน
- เก็บเห็ดให้เจ้าแงงลงห้วย อยากได้ผักผีพวยให้เจ้าแงงลงบุ่ง
อยากได้กุ้งพายข้องขึ้นหง่ายาง อยากเป็นขุนนางเกือกขี้หมิ่นหม้อ
อยากเป็นคนชั่วให้เข้าวัดจำศีล - คึดเลิ้กๆ คือปลาซิวลอย คึดตื้นๆ คือบัวยื้อหยั่ง
คึดให้มันถ่องถองบาลีให้มันแตก เคี้ยวแหลกๆ เสียแล้วจั่งค่อยกลืน - ไซหลังหล่าบ่หมานปลาถืกแต่เต่า ไปยามแต่เช้าคลำพ้อว่าแม่นโพน
- ใดๆ มีแต่หญ้าทางหน้าไซมีแต่ยุ้งฮากไผ่ ทางในมีแต่ยุ่งคือกุ้งสิแก่นดี
- ตาดีไปคล้องซ้างสามคืนมาเปล่า ตาบอดไปคล้องคราวมื้อขี่มา
- บ้านเมืองข่อนขุนกวานยาดไพร่ เมืองขวาได้ไก่โจ้นเมืองซ้ายได้ไก่ยอง
เมืองซองได้ไก่แจ้ คราวนี้แพ้ไพร่เมือง - เป็นสังพากันโตนลงน้ำหากินตั้งแต่เต่า สังบ่ขึ้นโคกกว้างหาช้างค่าแพง
- ไปบ่กลับ หลับบ่ตื่น ฟื้นบ่มี หนีบ่ม้ม ก้มบ่หวิด
- ผัดแต่เป็นมันอีอ้อนไผกะซอนเสียมใส่ ผัดแต่เป็นมันอีมู้ไผกะหิ้วกะต่ากาย
- ผักหมเหี้ยนกลางทางเจ้าอย่าฟ้าวเหยียบย่ำ บาดห่าถอดยอดขึ้นยังสิได้ก่ายเกิน
- ไม้ลำเดียวล้อมฮั้วบ่ข่วย ไพร่บ่พร้อมแปลงบ้านบ่เฮือง
- สั้นข้อหล่อมือยื้อบ่เถิง สูงเจวเววชั่วสามวาฮี้น
- สองเขือเฒ่าเฮ็ดนากลางโคก ปีบ่โชคได้สาม ปี่งามได้สี่ ปีบ่ได้ดี้ๆ ขายให้สู่คน
- หาบบ่หนัก ตักบ่เต็ม เค็มบ่จืด มืดบ่แจ้ง
- อัศจรรย์ใจแข้หางยาวบ่ได้ฮองนั่ง บาดกระต่ายหางก้อมๆ สั่งมาได้นั่งฮอง
- ให้เอายาวไว้คือกาคาบเต่า อย่าได้เฮ็ดอุ้งปุ้งคือฮุ้งคาบงู
ให้เอายาวไว้คือศิลป์ชัยฟันไฮ่ ปีนี้ป้ำ ปีหน้าจั่งฮอน - กำขี้ดีกว่ากำตด หำหดดีกว่าโคยเสียก
- บ่เป็นนายอย่าเว้าการเมือง บ่ได้ตดใส่ผ้าเหลืองอย่าเว้าการวัด
- สนุกในเมืองฟ้ามีแต่แดดกับฝน สนุกในเมืองคนมีแต่กินกับสี้
(อย่าถือว่า ผญาเหล่านี้ คือ คำหยาบ ขอให้ถือว่าเป็นวรรณกรรมท้องถิ่น)
สามัคคีกันไว้ |
|
คนเฮานี้ ต้องเผิ่งอาศัยกัน คือดังปลาอาศัยน้ำ น้ำกะเผิ่งวังปลา ปลาอาศัยวังเวิน จึ่งล่องลอยนาน้ำ ทามอาศัยห้วย งัวควยอาศัยแอก ตาแฮกอาศัยไก่ต้ม จึงโดนตุ้มจากคอน คือดังคอนอาศัยไม้ นกใส่อาศัยโกน คนกะอาศัยคน เผิ่งกันโดยด้าม คามอาศัยหม้อ หมอมออาศัยส่อง ฆ้องอาศัยไม้ฆ้อน ตีต้องจึงค่อยดัง |
|
สามัคคีกันไว้ คือข้าวเหนียวนึ่งใหม่ อย่าได้เพแตกม้าง คือน้ำถืกข้าวเหนียว สามัคคีกันไว้ คือฝนแสนห่า ตกลงมาจากฟ้า ไหลโฮมโห่งอยู่หนอง |
ผญา ภาษิตอีสาน สืบฮอยตา..วาฮอยปู่ (ฮีตสิบสอง)
ตกฤดูเดือนอ้าย สายลมมาหนาวหน่วง เฮามาพากันค้ำ ทำบุญตักบาตร |
เดือนนี้ตกหว่างช่วง สังโฆเจ้าเพิ่นเข้ากรรม ปริวาสซ่อยยู้ ซูค้ำศาสนา |
ฮอดเดือนสองอย่าฟ้าวซ้า ข้าวใหม่ปลามัน เชิญเจ้ามาโฮมเต้า อย่าพากันขี้ถี่ |
ให้เฮามาโฮมกัน แต่งบุญประทายข้าว บุญคุณลานตั้งแต่กี้ พากันให้ฮักษา |
ฮอดเดือนสามท้องฟ้า ปลอดโปร่งสดใส่ เหลียวเห็นซุมสาวน้อย พากันปั้นข้าวจี่ พ่องกะบีบข้าวปุ้น ตกแต่งอาหาร |
ไปทางใด๋เห็นแต่คนใจบุญ ซะแซวเป็นคุ้ม เฮือนละสี่ห้าปั้น พอได้เข้าใส่บุญ มีเทิงหวานและคาว หนุ่มสาวมาโฮมต้อม |
ให้คอยซอมไปทางหน้า เดือนสิมาเป็นเดือนสี่ ขวางเขตบ้าน ย่านถิ่นดินอีสาน ตกหว่างตอนคนตั้ง ใจฟังวอนวี่ มีเพียงปีละครั้ง ให้เฮาซ่อยกันสาน |
หลังจากบุญข้าวจี่ สิมีบุญพระเวสเจ้าเฮาสิได้แต่งทาน สุขสำราญเหลือหลาย ม่วนมิ่งกะเลยต้อน ตอนกัณหาชาลี สิพากพ่อแม่แก้วคนสิให้นั่งฟัง จัดเป็นงานประเพณี ให้คนรุ่นหลังฮู้ |
ตกฤดูเดือนห้า สายลมบ่มาผ่าน เดือนนี้บ่ได้ช้า ปีใหม่มาเถิง เต่าสิถามหาบุ้น คนบุญสิมาปล่อย เดือนนี้ม่วนจ้นๆ คนกะหลั่งมาหลาย |
เห็นแต่ดอกจาน บานแย้มเต็มทั่วท่งนา ให้พากันทำบุญ ปล่อยปลาลงน้ำ นกสิงอย ง่ายไม้คอยถ้าตั้งแต่ฝน เอาพระทรายมากอง ก่อเป็นเจดีย์ไว้ |
ฮอดเดือนหกเสียงฟ้า ไขบอกข่าวทางคน สายตามองเห็นแล้ว ในใจกะให้ม่วน เห็นปลาข่าว ปลาซิวปลานิลปลากะเดิด เดือนนี้เหมิดโทษฮ้าย บ่มีเรื่องเลิงหลง เห็นแต่สิใส่เน้น วันเพ็ญสิบห้าค่ำ ไผกะยิ้มเป้ยๆ ลงวัดเวียนเทียน |
มีแต่ฝนกับลม ส่งเสียงกึกก้อง ส่วนว่าเขียดอีโม้ ลำเกี้ยวใส่ผู้สาว แล่นหยอกล้อ กันเล่นเหลือหลาย อัศดงดวงอาทิตย์ ค่ำลงปลายไม้ วิสาขะเลิศล้ำ ชาวบ้านบ่อยู่เสย ได้เวียนมาเถิง นพคุณคลองเค้า |
เดือนเจ็ดเผาความฮ้าย อันตรายบ่มาผ่าน บุญสิมาซ่อยค้ำ ซูส่งราศรี ตั้งแต่คนเฮาได้ เคยได้ยินแต่ปางก่อน |
นิมนต์พระขึ้นบ้าน เล็งเป้าเข้าสู่ธรรม บารมีผลทาน สิไล่มารเลยพ้น บุญชำฮะสละความเดือดฮ้อน เมืองบ้านสิซุมเย็น |
จันทร์เพ็ญแจ้ง ทอแสงใสสง่า เดือนนี้สงฆ์เพิ่นยั้ง เข้าอยู่จำพรรษา เฮามาพากันเข้า ทำบุญพร้อมพร่ำ เดือนแปดคล้อย เห็นลมทั่งใบเสียว กบเพิ่นนอนคอยถ้า ฝนลงมาสิได้ม่วน |
เดือนแปดมาฮอดแล้ว สิแววขึ้นลึ่นหลัง ภาวนาอบรม ข่มใจสู่แลงเช้า ถวายผ้าอาบน้ำ ให้ยาท่านเพิ่นใช้สอย เหลืยวเห็นฝูงปลาขาว แล่นมาโฮมต้อม ลงเล่นน้ำ โซะซะซัวแซว |
เดือนเก้ามาฮอดแล้ว บ้านป่าขาดอน เถิงฤดูเดือนเก้า อีสานเฮาท้องถิ่น พ้นจากมารหยาบฮ้าย พากันอยู่เป็นสุข มีแต่สดใสจ้นๆ คนจนแสนม่วน ขวางเขตบ้าน ย้านป่านาหวาย |
เห็นนกเขางอยคอน ส่งเสียงหาซู้ เคยได้ยินประดับดิน ทานฮอดทอดถวาย โพยภัยทุกข์ อย่าผ่านผายมาใกล้ ต่างกะชวนพี่น้อง ลงโต้งแต่งทาน |
เถิงเดือนสิบสิก่นมันมาต้ม พ่องกะคนต่าน้อย ลงห้วยฮ่องนา ข้าวสากลงไปวัด ให้หมู่สังโฆเจ้า ซุบบักมี้ กะมาพร้อมพร่ำกัน |
พ่องกะงมกอข้าว หาเทากำลังอ่อน เดือนนี้บ่ได้ช้า พากันแต่งทานถง มีลาบเทา พร้อมหมกดักแด้ของดีคั่วกุดจี่ |
เดือนสิบเอ็ดว่านั้น หัวลมอ่วยโซยหนาวสาแล้ว ได้ยินเสียงลมต้อง ปลายสำสาอยู่เวิ่นๆ นกแจนแวนออกฮ้อง หาคู่ผสมพันธ์ ฝูงปลาขาวลงโฮมต้อน ผู้สาวนอนขึ้ค้านตื่น ฟังเสียงฟ้าฮ้องตุ้ม เอิ้นสั่งฤดูฝน เดิกออนซอนจันทร์ใสแจ้ง ทอแสงใสสง่า บัดนี้แล้ววัดสิเป็นกำพร้า บ่มีพระสิมานอน ได้ยินเสียงกลองโย้น วันเพ็ญสิบห้าค่ำ |
ยามผู้สาวสิขาลาย ผู้ชายสิขาเกลี้ยง หมาจอกเอิ้นสั่งซู้ กะปูหม่นเข้าฝั่งหนอง ควายบักเทิกตกมัน แล่ต่ำแต่ต่อพร้าว ปลาดุกบื่นค่อนสิแจ้ง หันหน้าเข้าใส่หลุม ฝูงหมู่คนลงเลาะ ไฮ่นาปลาข่อน ออกพรรษาห่อข้าวต้ม ลมล่อแต่หมู่ปลา มาออนซอนแต่ทายก ไล่แต่งัวเข้ามาเลี้ยง พระสิลาแม่ออกค้ำ ไตรมาสสิสั่งลา |
เหลียวขึ้นเบิ่งท้องฟ้า เห็นแต่ว่าวเดือนสิบสอง พอสมควรหาผ้า กฐินทานมาทอด |
ลมคะนองโชยพัด งายงมกะเลยมั่น ตลอดเดือนหนึ่งพุ้น หาได้ดั่งประสงค์ |
คลิกอ่านต่อ ความทวย