กลอนลำเหมิดคืน
"ลำเหมิดคืน" คือการลำตั้งแต่หัวค่ำจนสว่างคาตา ก็ไม่หมดสิ้น กลอนลักษณะนี้จะเป็น กลอนวนไปวนมา ไม่มีจุดสิ้นสุด นอกจากจะหยุดลำเอาเลย มีตัวอย่างดังนี้
- ลำเหมิดคืนบ่ลำความเก่า พี่สิเล่าเรื่องผ้าผืนเดียว ผ้าผืนเดียวมีเก้ากะเตี่ยว เก้ากะเตี่ยวเกาะเกาะกังกัง ผืนหนึ่งกั้งผืนหนึ่งปูนอนฯ ลำเหมิดคืนบ่ลำความเก่า พี่สิเล่าเรื่องผ้าผืนเดียว ผ้าผืนเดียวมีเก้ากะเตี่ยว ฯ
- ลำเหมิดคืนบ่ลำความเก่า พี่สิเล่าเรื่องนกกะสา นกกะสาหากินเลียบฝั่ง นกเจ่าตั้งงอยฝั่งจอนจอ งอยอยู่ตอนกเต็นขี้จวก งอยอยู่บวกแม่นนกกะสาฯ ลำเหมิดคืนบ่ลำความเก่า พี่สิเล่าเรื่องนกกะสา นกกะสาหากินเลียบฝั่ง ฯ
- ลำเหมิดคืนบ่ลำความเก่า พี่สิเล่ากับแก้เข้าโกน กับแก้เข้าโกนโพนโลนหัวออก กำปั้นกูตอกมันหลุบเข้าไป ปุ้มแพยัดมันกัดแพออก กำปั้นกูตอกมันหลุบเข้าไป ลำเหมิดคืนบ่ลำความเก่า พี่สิเล่ากับแก้เข้าโกน กับแก้เข้าโกนโพนโลนหัวออก ฯ
|
กลอนโต้น
กลอนโต้น เทียบได้กับ ผญาโตงโตย หรือ ยาบสร้อย บางถิ่นเรียก ตวบต้อย หรือ ยาบส้วง คือคำกล่าว เพื่อให้เข้ากับเหตุการณ์หรือสถานการณ์ เป็นข้อความเชิงอุปมาอุปไมยที่คมคาย ลึกซึ้ง ชวนให้คิด มีลักษณะทำนองเดียวกันกับผญาภาษิต ต่างกันที่กลอนโต้นไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรง เพียงแต่เป็นคำเปรยๆ เตือนสติหรือให้ข้อคิดเท่านั้น กลอนประเภทนี้อาจเป็นคำกลอนคล้องจองกัน อาจเป็นวลีหรือเป็นประโยคก็ได้ กลอนโต้น เป็นกลุ่มคำที่มีความหมายพิเศษ หรือพูดให้ตีความ บางครั้งอาจจะใช้ความหมายโดยนัยของคำ อาจจะเปรียบได้กับ "คำพังเพย" ของภาคกลาง
- โต๋ต่งโต๋ นารีต่งโต้น
โต๋ต่งโต้น โต๋ต่งคันยอย ผู้สาวกินแกงหอย อย่าลืมไม้จิ้ม โต๋นี่ตายแล้ว โต๋ใหม่โต๋ใหญ่โตขึ้นท่อกัน
- โต๋ต่งโต๋ นารีต่งโต้น
โต๋ต่งโต้นผู้สาวโย้นนมมา โหย่นนมมาผักแม่นนมเหี่ยว คันบ่คั้นย้านเกี่ยวกินมือ
- โต๋ต่งโต๋ นารีต่งโต้น
โต๋ต่งโต้นผู้สาวขี้งอยโพน ก้อนขี้กลิ้งผู้สาวสิ้งตานำ หักไม้แก้งแม่นไม้หนามคอม หนามคอมเกาะเต้นเดาะเต้นด่อง
|