สภาพอากาศแปรปรวนทั้งโลก

หมดลมหนาว! สภาพอากาศเย็นถึงสิ้นเดือนมกราคม ต้นเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิอากาศจะสูงขึ้น "

การพยากรณ์อากาศในช่วงหลังปีใหม่ปีนี้มีคำเตือน “รีบดื่มด่ำกับลมหนาว” เพราะว่าตั้งแต่ วันที่ 28-30 มกราคม อากาศจะเย็นเพิ่มขึ้น จากนั้นวันที่ 31 มกราคม อากาศจะยังเย็นอยู่ และเริ่มซาลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ แล้วค่อยทยอยอุ่นขึ้น และวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ จะอุ่นขึ้นอีก

กรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน จะแผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือ อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง รวมถึงระวังอันตรายจากอัคคีภัยที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศแห้งและมีลมแรงไว้ด้วย

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๖

ในวาระดีถีปีใหม่ ๒๕๖๖ ขอขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกท่านเคารพ นับถือ บูชา ยึดเหนี่ยวเป็นที่พึ่งทางใจ ได้โปรดดลบันดาลให้พ่อ-แม่ พี่น้อง ญาติมิตร ชาวอีสานบ้านเฮา และมิตรรักแฟนนานุแฟนนักอ่านทั้งหลายที่เข้ามาศึกษาหาความรู้ หรือความบันเทิงจากเว็บไซต์นี้ พบแต่ความสุข มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ไร้โรคาพยาธิมาเบียดเบียนตลอดไปครับ

หลังจากการสังสรรค์รับวันปีใหม่กับครอบครัว ซึมซับเอาบรรยากาศ ทิวทัศน์ ท้องทุ่งนาและอาหารอร่อยๆ แซบๆ แล้วก็คงได้เวลาแยกย้าย บ้างก็เดินทางสู่เมืองหลวงเพื่อสู้กับงานต่อไป บ้างก็ไปยังถิ่นอื่นๆ เพื่องาน หาเงินเลี้ยงชีวิต เก็บเงินทองไว้สร้างฐานะ สร้างครอบครัว หรือเพื่อแต่งเมีย (กะมีคือกัน) หรือหาเงินทองเพื่อส่งมาให้ทางบ้าน พ่อ-แม่ ได้ดูแลชีวิตและสุขภาพ ให้ได้อยู่พ้อหน้ากันอีกช่วงสงกรานต์ หรือเข้าพรรษา พุ้นล่ะ! จั่งสิมาพ้อกันอีก อดเอาเด้อลูกหลาน...

เดินทางไกลก็ขอให้ปลอดภัยกันทุกคน อย่ารีบร้อนเกินไป เหนื่อยก็หยุดพักบ้าง แม้จะเสียเวลาสัก 30 นาที หรือ 3 ชั่วโมง ก็ยังดีกว่าไปเสียเวลาที่โรงพัก หรือโรงพยาบาล หรือโชคร้ายอาจจะไปถึงวัด ไปขึ้น "เมรุเผาศพ" ก็เป็นได้ ใจเย็นๆ เด้อพี่น้อง...

ปีใหม่ 2566 นี้ พ่อ-แม่ พี่น้องก็จะได้พบกับการหาเสียงสนับสนุนของบรรดาผู้หวังจะได้เป็น สส. เข้าสู่สภา เดินชนกระทบไหล่กันมากมายแน่นอน เพราะจะครบวาระของรัฐบาลชุดเก่าแล้ว ก็จะมีการเลือกตั้ง สส. ชุดใหม่ (ในช่วงเดือนเมษายนหรือพฤษภาคม นี่แหละ) เพื่อแย่งกันจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นให้จงได้ ไม่ว่าจะหนทางใดๆ จะใช้เงินเพื่อซื้อเสียง หรือจะอามิจสินจ้างแบบอื่นๆ เขาให้มากะเอาโลดเด้อพี่น้อง ส่วนเฮาสิเลือกหรือบ่เลือกมันเป็นสิทธิของเฮาเอง (บ่มีดอก บุญคุณ บุญบาป ถ้าบ่เลือกเพิ่น) ให้เฮาเลือกเอาคนดีที่จะไปออกกฏเกณฑ์บริหารบ้านเมือง ใช้สิทธิ์ใช้เสียงแทนเฮา พัฒนาประเทศชาติ ถ้าไปลงเสียงให้พวกใช้เงินซื้อเสียง พอพวกเขาไปจัดตั้งรัฐบาลก็ต้องหาทางถอนทุนคืนจากงบประมาณต่างๆ ซึ่ง "เงิน" หรือ "งบประมาณ" เหล่านี้ก็ล้วนแต่ภาษีอากรของพวกเฮาทั้งสิ้น จากการซื้อสินค้าต่างๆ ก็ถูกเก็บภาษีในรูปของ VAT 7% หรือจากค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมต่างๆ สำหรับผู้มีรายได้บ่ถึงเกณฑ์ที่ต้องยื่นแบบภาษีประจำปี จงใช้คำว่า...

พ่อบ่ถิ่มเจ้าดอก

ภาษาการเลือกตั้งวันละประโยค ขอเสนอคำว่า "พ่อบ่ถิ่มเจ้าดอก"

เมื่อ ว่าที่ "ส.ส." หรือ "สจ." หรือ "สท." หรือ "ส.อบต." ไปหาเสียงแถวหมู่บ้านในภาคอีสาน ได้แนะนำตัวต่อพ่อใหญ่แม่ใหญ่ ไหว้งามๆ พร้อมน้อมส่งใบแนะนำตัวและซองผ้าป่าใส่มือพ่อใหญ่ พร้อมเอ่ยวาจาว่า "ผมอาสามาเป็นตัวแทนครับ เลือกผมแหน่เด้อครับ"

พ่อใหญ่ยิ้มกว้างพร้อมก้มหน้าแง้มดูในซอง แล้วยิ้มที่มุมปาก เอ่ยตอบว่า "พ่อบ่ถิ่มเจ้าดอก" ว่าที่ ส.ส. คนนั้นก็ยิ้มโค้งคำนับด้วยความมั่นอกมั่นใจ

คำพูดของพ่อใหญ่ที่ว่า "พ่อบ่ถิ่มเจ้าดอก" (พ่อไม่ทิ้งลูกดอก) มีความหมายเป็น 2 นัยยะ

• พ่อไม่ทอดทิ้งแน่ต้องเลือกลูก (เลือกแน่นอน เพราะรับซองมาแล้ว)
• พ่อไม่หย่อนบัตรให้ลูกดอก (ซองรับได้ไม่จำกัด แต่ไม่เลือก)

ภาษาอีสานนี่สุดๆ ไปเลยพี่น้อง บ่ฮู้ว่ามื้อหย่อนบัตรลงคะแนนพ่อใหญ่เลาใช้ความหมายในข้อแรก หรือข้อที่สอง เอาไว้มื้อวันที่พ่อแม่พี่น้องไปกาบัตรแล้วนี่ละ สิได้ฮู้ว่า ไผเป็นหมู่หรือจ่า กันแน่ (หนาวๆ แบบนี้ ในมือถือแก้วเบียร์เย็นๆ แต่เหงื่อแตกพลั่กๆ กันทุกรายแน่นอน)