![]()
|
12 กุมภาพันธ์ ไปวัดไปวาเอาบุญมาฆบูชาก่อนเด้อ อย่าสิห้าว! หาดอกไม้ "วันวาเลนไทน์" ในวันที่ 14 ดอกเด้อ โดยเฉพาะซุมอายุเกิน 30 นั้นบ่ต้องไปโพดในโซเชียลเอิ้นหาดอกไม้ อดใจรอไปรับ "ดอกมะลิ" ในวันแม่ 12 สิงหาคม พุ้น! เหอๆๆๆ หยอกๆๆๆ อย่าหน้างอตี้ล่ะ
กรมอุตุนิยม คาดหมายลักษณะอากาศ 7 วันข้างหน้า (17 - 23 กุมภาพันธ์ 2568) ระยะนี้บริเวณประเทศไทยตอนบนอากาศ แปรปรวน โดยมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน กับมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางแห่ง
วันที่ 22 - 23 กุมภาพันธ์ 2568 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง รวมทั้งฟ้าผ่า ที่อาจจะเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตร
ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
คาดการณ์ว่า ช่วงนี้จะเป็นฤดูหนาวระยะท้ายๆ ปลายกุมภาพันธ์อากาศจะเริ่มอุ่นขึ้นเรื่อยๆ หลายๆ คนสนใจว่า ฤดูร้อนปีนี้จะร้อนแรงและจะแห้งแล้งขนาดไหน น้ำดื่มน้ำใช้จะเพียงพอ หรือน้ำในเขตชลประทานยังจะสามารถทำการเกษตรเพียงพอไปจนถึงฤดูฝนไหม และฝนจะพอมีเกิดขึ้นไหม
เนื่องจากสถานการณ์ของปรากฏการณ์ใหญ่อย่างเอนโซบ่งชี้ว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม 2568 ยังมีโอกาสเป็นลานีญาอ่อนๆ หรือเป็นกลาง จึงมีผลต่อกระแสลมที่พัดปกคลุมซึ่งจะเปลี่ยนเป็นลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น
ช่วงเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม 2568 จึงยังพอมีความชื้นอยู่บ้าง ทำให้มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนองเป็นระยะๆ แม้ในเดือนมีนาคม-เมษายน 2568 จะเป็นช่วงฤดูร้อน อากาศร้อนถึงร้อนจัด อุณหภูมิเฉลี่ยมากที่สุดในช่วงนี้ แต่ปีนี้คาดว่าจะไม่ร้อนแรงเหมือนปีที่แล้ว เนื่องจากมีฝนฟ้าคะนองและมีความชื้นสูง แต่บางวันอาจจะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดได้เป็นช่วงๆ ไม่ร้อนจัดติดต่อกันเหมือนปีที่แล้ว
โดยฝนคาดการณ์ให้สูงกว่าค่าปกติ ช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม แต่จะต่ำกว่าค่าปกติในเดือนมิถุนายน 2567 อาจมีฝนทิ้งช่วงได้ ต้นปีฝนยังพอมี แต่กลางปียังต้องลุ้นและติดตามเป็นระยะๆ
อย่างไรก็ตาม กรมอุตุนิยมวิทยาระบุหมายเหตุว่า ข้อมูลนี้ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามข้อมูลนำเข้าใหม่ เนื่องจากเป็นการพยากรณ์ระยะนาน ค่าความคลาดเคลื่อนสูง
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) คาดการณ์ว่า ปรากฏการณ์ลานีญาจะยังมีอิทธิพลในภูมิภาคเอเชียจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ส่งผลให้ภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออกเฉียงใต้มีปริมาณฝนเพิ่มขึ้น และอากาศเย็นลง อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป ปรากฏการณ์ลานีญาจะอ่อนกำลังลงและเข้าสู่เอลนีโญในระดับต่ำถึงปานกลาง ส่งผลให้อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน 2568 คาดว่าประเทศไทยจะเผชิญกับอุณหภูมิสูงสุดถึง 45 °C ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์
นับตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงตอนนี้ รัฐบาลได้ออกมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 หลากหลายนโยบายด้วยกันในฐานะที่ปัญหานี้เป็นวาระแห่งชาติ แต่ยังไม่สามารถทำให้ปัญหาดังกล่าวดีขึ้นจนผู้คนรู้สึกได้ ขณะเดียวกันคนไทยต่างเผชิญปัญหานี้มานานกว่า 20 ปี ซึ่งพบว่าสถานการณ์รุนแรงมากขึ้นในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมา
ปัญหาเรื่องฝุ่น PM 2.5 นี้มีที่มาแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่มาจาก "การเผา" ไม่ว่าจะเป็นการเผาป่า เผาไร่ เผานา ในพื้นที่เกษตรกรรม หรือการเผาถ่าน เผาขยะ ก็ล้วนก่อเกิดปัญหาในทุกพื้นที่ ตั้งแต่สร้างควัน สร้างกลิ่นรบกวน จนไปถึงการเกิดฝุ่นละอองลอยข้ามพื้นที่ไปยังพื้นที่อื่นๆ ประเทศไทยทั้งประเทศเกิดกลุมควันครอบคลุมไปทั่ว ก็เกิดมาจากการเผาในพื้นที่ประเทศเราเองจำนวนมาก เช่นเผาใบอ้อยก่อนการตัดสู่โรงงาน เผาฟางข้าวหรือตอซังในนา เผาป่าเพื่อหาล่าสัตว์ในเขตภูเขาสูงชัน รวมทั้งที่ลอยข้ามประเทศมาจากเพื่อนบ้านทั้งพม่า ลาว เขมร
คงต้องช่วยกันให้มากกว่านี้นะครับปีนี้รุนแรงมากกว่าปีก่อนๆ จริงๆ
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)