คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
การระบาดของไวรัสร้ายที่ชื่อ โคโรนาไวรัส-19 ที่ผ่านมาปีครึ่งแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงง่ายๆ เรายังคงเห็นรายงานพบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มในหลักพันคน ยอดผู้เสียชีวิตหลักสิบหรือหลายสิบต่อวัน ยอดผู้รักษาหายกลับบ้านได้น้อยกว่ายอดผู้ติดเชื้อใหม่ จนเกิดความวิตกกันว่า ระบบสาธารณสุขของเราจะรับมือไหวไหมหนอ? เรื่องอาคารสถานที่เราอาจจะเร่งระดมสร้างโรงพยาบาลสนามได้เพียงพอ แต่อุปกรณ์การแพทย์บางชิ้น เช่น พวกเครื่องช่วยหายใจ เราจะมีเพียงพอไหม และสำคัญสุดคือ กำลังเจ้าหน้าที่ทางด้านสาธารณสุข ทั้งแพทย์ พยาบาล บุคลากรอื่นๆ ที่ต่อสู้อยู่กับสถานการณ์นี้มายาวนานร่วมปี เริ่มอ่อนล้า และอาจจะมีไม่เพียงพอหากการระบาดเพิ่มมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ (สถานการณ์ตอนนี้ ต้องส่งกำลังเสริมจากจังหวัดที่มีการระบาดน้อยเข้าไปช่วยจังหวัดที่มีการระบาดมาก ในโรงพยาบาลสนามหลายๆ แห่งกันแล้ว) ประชาชนคนไทยหลายภาคส่วน ต่างก็ร่วมมือกันช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์เหล่านี้ ทั้งมอบกำลังใจ จัดหาเครื่องมือทางการแพทย์ รวมทั้งสนับสนุนอาหาร น้ำดื่มและผลไม้มากมาย 🙏🙏🙏👏👏😍
การระบาดที่ลุกลามไปทั่วครั้งนี้ มาจากการเคลื่อนที่ของประชากร จากแหล่งที่มีการระบาดรุนแรงไปยังท้องที่อื่นๆ จากการที่ไม่มีการเข้มงวดกวดขัน หรือการล็อคดาวน์ตั้งแต่วันหยุดยาว 'เทศกาลสงกรานต์' เป็นต้นมา สาเหตุก็มาจากความกลัวจากโรคประการหนึ่ง การไม่มีงานทำหรือตกงานจากการสั่งปิดสถานที่ เช่น ตลาด โรงงาน ทำมาค้าขายไม่ได้ เมื่อ 'อด' ก็นึกถึงบ้าน อยากกลับบ้านไปตั้งหลักก่อน อย่างน้อยๆ ก็มีบ้านซุกหัวนอน มีข้าวปลาอาหาร หากินตามท้องไร่ท้องนาได้ มีญาติพี่น้องคอยดูแลให้กำลังใจ อีกประการหนึ่ง เหตุผลหลังนี่แหละที่ทำให้การระบาดของโรคแพร่อย่างรวดเร็ว เพราะอะไร?
เพราะโควิดที่พบเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่ไม่แสดงอาการให้เห็นเร็ว แต่กลับแพร่กระจายได้รวดเร็วมาก การกลับบ้าน คืนถิ่น ผิดไหม? ก็ไม่ผิด แต่... ตามเหตุผลที่บอกนั่นแหละ มันไม่แสดงอาการให้เห็นชัดเจน แอบๆ อยู่ และติดต่อกันเร็วมาก ดังนั้นแทนที่เราจะกลับมามีความสุขได้อยู่กับครอบครัว กลายเป็นเรานำความทุกข์กลับบ้านเกิด เป็นพาหะโรค ตรวจพบเจอว่า ติดไวรัสโควิดก่อน จนต้องเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาล แล้วญาติพี่น้องเราที่มาพบ มาหา มาถามสารทุกข์สุกดิบก็กลายเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง (วัฒนธรรมบ้านเรา ใครเดือดร้อนกลับมาบ้าน ก็จะมาถามไถ่ให้กำลังใจกัน) ต้องถูกกักตัวในทันทีอาจะเป็น 10 หรือ 20 คน แต่ถ้าโชคร้ายอาจจะติดเชื้อทั้งหมู่บ้านจนต้องล็อคดาวน์ ปิดห้ามเข้า-ออกเด็ดขาด ดังที่เป็นข่าว
ถ้าจะกลับบ้าน ท่านต้องรู้ตัวว่า "เราเป็นบุคคลที่มีความเสี่ยงสูง" ต้องใช้มาตรการสูงสุด ไม่เดินทางด้วยยานพาหนะสาธารณะ (รถโดยสาร รถทัวร์ รถไฟ เครื่องบืน) เพราะจะแพร่ให้กับผู้อื่นที่ร่วมเดินทางด้วย เมื่อถึงที่หมายต้องแจ้งผู้เกี่ยวข้อง ฝ่ายปกครอง สาธารณสุข (กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.) เพื่อการกักกันโรคตามมาตรฐาน 14 วัน ตรวจหาเชื้อเพื่อความสบายใจของทุกคน อย่าคิดว่า "เราไม่ติด เราไม่เสี่ยงหรอก" แค่คิดก็เดือดร้อนกันทั้งหมู่บ้านแล้วครับ
ตอบสั้นๆ แต่ไม่ง่ายก็คือ จนกว่าประชาชนไม่ต่ำกว่า 70% ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส (คือเมื่อผ่านการฉีดเข็มที่ 2 ไปสัก 2 สัปดาห์ มีภูมิคุ้มกันเต็มที่) การระบาดจะน้อยลงเรื่อยๆ แล้วเมื่อไหร่ล่ะ? ผมคงตอบชัดเจนไม่ได้ว่าเดือนไหน ได้แต่คาดการณ์ว่า ถ้าเราได้รับวัคซีนตามการสั่งซื้อมาตามกำหนดเวลา มีปริมาณมากเพียงพอต่อการฉีด ภายในเดือนธันวาคมประเทศไทยเราคงจะฉีดได้ถึงเป้าหมายแน่นอน (ตามข่าวก็มีการล่าช้าออกไปบ้าง จากการส่งมอบวัคซีนที่อาจไม่เป็นไปตามกำหนด และปริมาณความต้องการที่ประดังเข้ามามากมาย ด้วยกลัวตายกันมากขึ้น ต่างจากตอนแรกที่ต้องกราบให้มาฉีด สำหรับคนที่ลงทะเบียนไว้ผ่านหมอพร้อมในระยะแรกๆ การฉีดยังเป็นไปตามนัดฆมาย หากมีการเลื่อนจะมีการแจ้งผ่านทางแอพและ SMS โปรดติดตามข่าวสารแต่ไม่ต้องวิตกกันมากนัก)
สำหรับผมผู้เขียนเองก็จะเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มแรกในวันที่ 11 มิถุนายน 2564 เวลา 11.00 น. ที่ โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ (ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใช้บริการประจำ พบหมอ รับยา ด้วยเป็น สว (สูงวัยอายุเกิน 60) และมีโรคประจำตัว 7 อย่างที่ต้องฉีดก่อนนั่นแหละ) ก็มีทั้งคนที่เป็นห่วงสนับสนุนให้ฉีด และที่ไม่อยากให้ฉีด โดยบอกว่า "ทำไมไม่รอฉีดวัคซีนตัวนั้น ตัวนี้ล่ะ" (ไม่เอ่ยชื่อ เพราะคงอีกนานกว่าจะนำเข้ามา) ผมบอกตรงๆ นะ เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมารอนู้น รอนี่ เล่นตัวกัน ไวรัสมันไม่ได้กลัวคุณและมันมาเตร็ดเตร่หน้าบ้านแล้ว จริงอยู่ที่ คนติดโควิดถ้ารักษาหายจะมีภูมิคุ้มกัน ถ้ารักษาไม่หายคือตาย การฉีดวัคซีนอาจมีความเสี่ยง (เพราะเป็นวัคซีนฉุกเฉิน คือยังทดลองไม่ครบขั้นตอนนั่นแหละ ทุกยี่ห้อที่ใช้ฉีดทั่วโลกตอนนี้อยู่ในสถานะเดียวกันหมด) คนฉีดแล้วตายก็มี แต่น้อยมากจากล้านคนพบที่มีความเสี่ยงไม่ถึงสิบคน ผมยินดีเสี่ยงกับวัคซีนมากกว่าเสี่ยงติดโควิดนะ ผมไม่ลังเลที่จะฉีดมันแน่นอน
ใครยังลังเลอยู่ก็ชีวิตคุณนะ เลือกกันเองครับ มีคำถามว่า "ถ้าฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว จะติดเจ้าโควิด-19 นี่ไหม?" ทางการแพทย์ยืนยันมาแล้วนะครับว่า "ติดครับ" ดังนั้นหลังการฉีด เราก็ยังคงต้องใช้มาตรการไปในที่สาธารณะต้อมสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ กินร้อนช้อนกลางกันอยู่ เพียงแต่คนที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว อาการติดเชื้อโควิดจะไม่รุนแรงและรักษาให้หายได้ง่ายกว่าคนที่ไม่ฉีดครับ
ถามเจ้าของก่อน มักแบบใด๋ ซ้ายหรือขวา
สถานการณ์ในการเริ่มฉีดวัคซีนปูพรมทั่วประเทศวันแรก 7 มิถุนายน คึกคักดีครับ มีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนจำนวนมาก ไม่มีใครยอมสละสิทธิ์กันเลย มีแต่วัคซีนไม่เพียงพอต่อผู้ที่ต้องการฉีด รอการจัดส่งให้มากกว่านี้ก่อนได้รับการฉีดแน่นอนทุกคน ส่วนคนที่มีเงินและอยากฉีดยี่ห้ออื่นๆ ไม่มั่นใจหรือเกลียดรัฐบาล ตอนนี้ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน กำหนดราคาออกมาแล้ว โมเดอร์น่า จะนำเข้ามาให้ฉีดเข็มละ 1,900 บาท ต้องฉีด 2 เข็มก็ตก 3,800 บาท ให้บริการสำหรับประชาชนที่ประสงค์ฉีดวัคซีนโมเดอร์นา ในอัตราเดียวกันทุกโรงพยาบาลทั่วประเทศ เป็นราคาสุทธิรวมต้นทุนวัคซีน อัตราค่าบริการของโรงพยาบาล และประกันวัคซีนโควิด-19 ทั้งหมดแล้ว คงฉีดได้ในช่วงเดือนตุลาคม ก็เลือกเอานะครับ ไม่ว่ากันใครเป๋าตุงก็จัดไปเลยลงทะเบียนจองที่โรงพยาบาลเอกชนกันได้เลย
ฤดูฝนปีนี้เริ่มมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว ช่วงแรกมีฝนมาให้ชื่นใจกัน เริ่มคราดไถ หว่านข้าว แต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ร้อนจัดมาก (ที่บ้านผมอุบลราชธานี ที่อื่นไม่น่าต่างกันเนาะ) สภาพอากาศเป็นอย่างไร กรมอุตุนิยมวิทยารายงานไว้ดังนี้ วันที่ 7 มิ.ย. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักในระยะนี้ไว้ด้วย
อากาศร้อนจัด เมื่อมีลมฝนให้ระวังพายุฤดูร้อนกันไว้ด้วย "
สองวันที่ผ่านมา มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นทางบ้านญาติพี่น้องอาวทิดหมูหลายแห่งครับ ...!!
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)