คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
3 เมษายน 2565 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน แผ่ปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะลดลงกับมีลมแรง โดยภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน และระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
ดูแลสุขภาพกันนะครับพี่น้อง เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในระยะนี้ ณ กระท่อมน้อยอาวทิดหมู ฝนตกตลอดวัน ตลอดคืน แบบปรอยๆ มา 2 วัน เช้าวันที่ 3 เมษานี้แดดแจ่มเลย ฝนเคลื่อนไปทางบุรีรัมย์ นครราชสีมา ชัยภูมิแล้ว พี่น้องทางโน้นก็ระวังกันด้วยครับ
โปรดติดตามข่าวสาร การพยากรณ์อากาศ จาก กรมอุตุนิยมวิทยา กันนะครับ
วันนี้ 18 มีนาคม 2565 กว่า 20 วันแล้วที่เกิดภาวะสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ได้สร้างผลกระทบด้านเศรษฐกิจกระจายไปทั่วโลก ทั้งเรื่องของราคาน้ำมันและก๊าซที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมหาศาล ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อกระจายไปทั่วโลก ข้าวของเครื่องใช้ราคาแพง รวมทั้งอาหารการกินก็ทะยานขึ้นไปด้วย เขาว่าให้ดูราคาทองที่พุ่งทะยานไม่หยุดเป็นดัชนี ทำเอาอาวทิดหมูปวดหัวหนักเพราะตั้งใจว่า จะหาทองไปผูกสัมพันธ์หมายหมั้นสาวสัก 2-3 บาท กำเงินไปร้านทองแล้วหงอยเพราะอาเฮียร้านค้าทองบอกว่า "เงินที่ลื้อเอามานี่ ซื้อได้ไม่ถึงสามสลึงดอก อาวทิดหมู" สงสัยจะได้นอนอ้างว้างว้าเหว่ไปอีกนานแหละถ้าสาวๆ ไม่ยอมลดตัวมารับทองสักสองสลึง พะนะ 😭🙏😁 น้ำมันก็พุ่งทะยานไปไม่หยุดเลยทีเดียว ไม่กล้าเดินทางไปไหนไกลๆ ล่ะครับ
สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ประทุขึ้นเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา ทั้งที่ห่างไกลจากภาคอีสาน ของประเทศไทยเรานับหลายพันกิโลเมตร แต่พี่น้องรู้ไหมว่า "ความเดือดร้อนจากสงคราม" ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะกับประชาชนชาวยูเครน รัสเซีย และประเทศใกล้เคียงเท่านั้น มันกระทบมาถึงบ้านเราด้วย พูดง่ายๆ คือกระทบไปทั่วทั้งโลกนั่นแหละ มีการอพยพหนีภัยสงครามกันซึ่งไม่ใช่เพียงแต่ราษฎรชาวยูเครน พลเมืองประเทศอื่นๆ ที่ไปท่องเที่ยว ไปทำงานในยูเครนก็ต้องหนีตายออกมาเหมือนกัน คนไทยที่ไปทำงานที่นั่น (จากอีสานบ้านเฮาก็มี) ทางสถานทูตไทยในยูเครน ได้ช่วยเหลืออพยพออกมาแล้วหลายร้อยคนทีเดียว ไม่เพียงเท่านี้นะครับ ยังมีอีกมากมายหลายเรื่องที่กระทบกับเราเต็มๆ
สองปีที่ผ่านมา พวกเราต้องพบกับภัยร้ายจากไวรัสโคโรนา-19 ต้องทำการรักษาตัวให้พ้นจากโรคร้าย การงานมีอันต้องหยุดชะงัก มีงานลดน้อยลง หลายคนต้องตกงานกลับถิ่นฐานบ้านเกิด ต้องเปลี่ยนอาชีพหางานใหม่ๆ ทำกัน ซึ่งอาจจะไม่เคยทำมาก่อน ไม่เคยร่ำเรียนศึกษามา แต่ก็จำต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอด อาหารการกินต่างๆ ก็มีราคาที่สูงขึ้น จากเหตุปัจจัยต่างๆ ที่ไม่คาดคิด แล้วพอเกิดสงครามขึ้นมาถึงแม้จะอยู่อีกทางซีกโลกหนึ่งแต่มันก็กระทบมาถึงบ้านเรา ตั้งแต่ราคาน้ำมัน ก๊าซ ที่ทะยอยขึ้นราคาแบบพุ่งกระฉูด เพราะปริมาณน้ำมันและก๊าซจำนวนมากที่ใช้งานกันในโลกนี้ก็มีที่มาจากรัสเซียนั่นเอง
ราคาน้ำมันพุ่งกระฉูดเพราะภาวะสงครามนั่นเอง
ความขัดแย้งหากเกิดขึ้นที่ใดก็ตามย่อมนำมาซึ่งปัญหามากมาย เกิดความสูญเสียมากบ้างน้อยบ้าง แม้แต่ความขัดแย้งของคนในครอบครัวเดียวกัน ในหมู่บ้าน ในตำบล อำเภอ จังหวัด ไปจนถึงระดับประเทศที่คนในชาติขาดความสามัคคีกัน ทำให้มีการพลัดพรากจากกันไป ขาดความสงบสุขแยกกันเป็นฝักฝ่ายดังในบ้านเราเองก็มี หันหน้ามาเจรจาปรับความเข้าใจกันเถอะ ถ้าลดความขัดแย้งประนีประนอมกันได้ ก็จะไม่มีสงคราม ทุกอย่างก็จะกลับคืนมาสู่สภาพปรกติเสียที
ความน่ากลัวของสงครามในครั้งนี้อยู่ที่คู่ขัดแย้งไม่ได้มีเฉพาะรัสเซียกับยูเครน แต่มีประเทศที่เกี่ยวข้องให้การหนุนหลังของแต่ละฝ่ายอีกมากมาย พูดกันง่ายๆ ว่าตอนนี้กระจายอยู่ทั่วโลกเป็น 2 ฝ่าย โดยทางยูเครนจะมีทางสหภาพยุโรป อังกฤษ อเมริกา และคานาดา รวมทั้งประเทศอื่นๆ ที่นิยมชมชื่นฝ่ายอเมริกาหรือมีผลประโยชน์ร่วมกันกับอเมริกา กับอีกฝ่ายที่ถือหางทางรัสเซียหรือเป็นบริวารใกล้ชิดกันอยู่ โดยมีประเทศจีนอยู่ตรงกลางไม่พูดอะไรทำเป็นหลับตาไม่รู้ไม่เห็น มีการต่อต้าน สนับสนุนกันในรูปแบบต่างๆ ที่ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นทั่วโลก
ภาพแสดงการใช้ภาษารัสเซียของประชากรในยูเครน
สงครามครั้งนี้ อาจเป็นสงครามครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 มีปัจจัยหลักอยู่ที่บทบาทและความเคลื่อนไหวของ 4 ฝ่าย ได้แก่
ภาคีสมาชิกของนาโต้ (น้ำเงิน) และที่กำลังอยากจะเข้าร่วมด้วย (เขียว)
สีแดงแสดงเส้นทางท่อก๊าซธรรมชาติที่ส่งมาจากรัสเซียมาหล่อเลี้ยงยุโรป
แนวเส้นทางท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 จากรัสเซียมาเยอรมัน
จากข่าวที่ปรากฏนั้น มีเรื่อง ท่อส่งก๊าซ Nord Stream 2 เป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท Gazprom ของรัสเซีย กับบริษัทเยอรมันและอีกหลายประเทศ สร้างท่อส่งจากรัสเซียลอดทะเลบอลติก ขึ้นฝั่งที่เมือง Greifswald เยอรมนี รวมระยะทาง 1,200 กิโลเมตร สามารถส่งก๊าซจากรัสเซียสู่เยอรมนีปีละ 55,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อรวมกับ Nord Stream (อันเดิม) จะส่งก๊าซได้ถึง 110,000 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ทำให้เยอรมนีกลายเป็นศูนย์พลังงานแห่งหนึ่งของยุโรปตะวันตก
ยุโรปเป็นผู้นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รายใหญ่ที่สุดของโลก นิยมใช้ก๊าซธรรมชาติชนิดนี้ทั้งในครัวเรือน สถานประกอบการ (ส่วนใหญ่ใช้กับเครื่องทำความร้อน LNG คล้าย NGV แต่ NGV ใช้กับยานพาหนะและอยู่ในรูปก๊าซ) ใช้เป็นพลังงานผลิตกระแสไฟฟ้า มักกระจายส่งถึงบ้านและที่ต่างๆ ด้วยระบบท่อ เหตุที่นิยมเนื่องจากราคาถูก เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัย (เป็นก๊าซมีเทนที่เบากว่าอากาศ หากรั่วจะกระจายหายไปในอากาศทันที โอกาสระเบิดน้อย) ด้วยข้อดีเหล่านี้คาดว่าจะใช้เพิ่มขึ้นอีก
คำถามที่พูดกันเสมอคือ หากรัสเซียปิดท่อก๊าซ คนเยอรมันหลายสิบล้านคนที่ใช้ก๊าซจากรัสเซียจะเป็นอย่างไร ในอดีตอาจตอบว่า เยอรมันนำเข้าจากหลายประเทศ แต่ปัจจุบันเยอรมันนำเข้าจากรัสเซียมากกว่าครึ่ง และทำท่าจะเพิ่มขึ้นอีก คำถามนี้จึงมีน้ำหนักมากกว่าเดิม
ข้อโต้แย้งในมุมกลับคือ เพราะเยอรมนี (กับยุโรป) เป็นลูกค้ารายใหญ่ รัสเซียจึงไม่ผลีผลามทำอะไรที่ทำให้ยุโรปรู้สึกไม่ปลอดภัย เช่น ส่งกองทัพบุกยูเครนหรือคิดทำสงครามใหญ่ การอยู่ร่วมอย่างสงบ ทำมาค้าขายระหว่างกันน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า
ในอีกแง่หนึ่ง Nord Stream 2 เป็นท่อเชื่อมรัสเซียกับเยอรมนีโดยตรง ต่างจากบางท่อที่ต้องผ่านประเทศอื่น การไหลของก๊าซไร้การสกัดกั้นจากประเทศที่ 3 ถ้ามองจากความมั่นคงของเยอรมนี การต่อตรงย่อมดีกว่าแบบที่ต้องผ่านประเทศที่ 3 แต่รัฐบาลสหรัฐกลับมองว่า การต่อตรงแบบนี้ส่งสัญญาณว่า เยอรมนีเป็นมิตรกับรัสเซีย เป็นอีกเหตุที่รัฐบาลสหรัฐพยายามขัดขวาง ในขณะที่บางข่าวก็บอกว่า สหรัฐอเมริกาก็อยากขายพลังงานให้เยอรมันและยุโรปแทนที่รัสเซีย
สงครามมันคือผลประโยชน์มหาศาล ที่หลายคนอยากฉกฉวยเพราะ การสู้รบทำให้เกิดการใช้ (อาวุธ) เกิดการทำลายล้าง และมีการซื้อมาทดแทน ซึ่งประเทศผู้ผลิตอาวุธอย่างสหรัฐอเมริกาชอบ เพราะสู้รบในพื้นที่ประเทศอื่น ตัวเองเสียหายเล็กน้อย (จากการส่งทหารไปรบ) แต่ได้ประโยชน์จากการขายอาวุธมากกว่า สิ่งที่ประเทศอื่นๆ ในซีกโลกอื่นๆ กลัวคือ
สงครามนิวเคลียร์ และกัมมันตภาพรังสี ที่จะพัดพาไปทำความเสียหายอย่างมหาศาลต่อชาวโลก กับประเทศอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งนั่นเอง "
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)