เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (26 สิงหาคม 2565) พายุโซนร้อน “หมาอ๊อน” มีศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 21.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 105.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า พายุนี้จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ และจะเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน และประเทศจีนตอนใต้ในระยะต่อไป โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย

ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารและประกาศจาก กรมอุตุนิยมวิทยา อย่างใกล้ชิด ท่านที่อยู่ในบริเวณที่ลุ่มต่ำ ริมแม่น้ำ เชิงเขา ที่อาจได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ดินถล่ม โปรดได้เตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง เตรียมอพยพหนีภัยน้ำท่วมไว้ด้วย โดยเฉพาะจังหวัดที่มีชายแดนติดกับแม่น้ำโขง จะมีปริมาณน้ำมากจากฝนที่ตกหนักทั้งจากในเมืองหลวงพระบาง และเวียงจันทน์ไหลลงสู่แม่น้ำโขง มีการระบายนัำเพิ่มขึ้นจากเขื่อนในลำน้ำโขงอีกด้วย

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ออกประกาศเตือนไปยังจังหวัดริมแม่น้ำโขง เฝ้าระวังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น 14-18 สิงหาคม 2565 ด้านท้ายเขื่อนไซยะบุรี ตั้งแต่ จังหวัด เลย หนองคาย บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี จะมีระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน จากกรณีมีฝนตกหนักต่อเนื่องบริเวณเหนือพื้นที่แขวงหลวงพระบาง สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนไซยะบุรีเพิ่มมากขึ้น จนต้องระบายออกในส่วนที่เกินปริมาณการกักเก็บ ในอัตราประมาณ 9,000 - 10,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขอให้ประชาชนที่อยู่ในบริเวณริมแม่น้ำโขงได้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และเฝ้าระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำโขงด้วย

ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงมีผลทั่วโลก

ไม่เฉพาะแต่ที่เมืองไทยของเรา การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศปีนี้มีความรุนแรง ส่งผลกระทบไปทั่วโลกเดือนก่อนทางโซนยุโรปเกิดคลื่นความร้อน อุณหภูมิสูงผิดปกติ เกิดไฟป่า มาเดือนนี้มีน้ำแข็งจากทางขั้วโลกละลายมากขึ้น ในประเทศสหรัฐอเมริกาต้องเผชิญภัยน้ำท่วมใหญ่ในหลายๆ รัฐ มีการอพยพผู้คนหนีภัยจำนวนมาก ไม่เว้นแม้กระทั่งกลางกรุงนิวยอร์ค

ในประเทศเกาหลีใต้ โดยเฉพาะในกรุงโซลผจญกับภัยน้ำท่วมใหญ่ที่สุดในรอบ 80 ปี มีทั้งผู้เสียชีวิตและสูญหายจำนวนมาก สำนักข่าวยอนฮัป ของ เกาหลีใต้ รายงานว่า ฝนตกกระหน่ำพื้นที่ภาคกลาง วัดระดับน้ำได้ 170 มิลลิเมตร รวมถึงกรุงโซล เมืองหลวง ที่วัดระดับน้ำฝน 90.5 มิลลิเมตรในช่วงสองทุ่ม ส่วนที่เขตดองจัก ทางใต้ของกรุงโซล ระดับน้ำฝนอยู่ที่ 137 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง เป็นระดับที่หนักหนาที่สุดในรอบหลายสิบปี รถราบนท้องถนนถูกน้ำท่วมแทบมิดคัน นอกจากภาพรถยนต์ลอยอยู่กลางถนนแล้ว ยังมีภาพน้ำทะลักลงบันไดไปยังสถานีรถไฟใต้ดินราวกับน้ำตกอีกด้วย มีรายงานว่า กระแสไฟฟ้าดับไปทั่วย่านช์อปปิ้งดัง "กังนัม" คงจำชื่อนี้ได้จากเพลงกังนัมสไตล์ ที่โด่งดังเมื่อหลายปีก่อน

ก็ขอส่งกำลังใจไปยังพี่น้องทุกภาคส่วนของโลกนี้นะครับ ภัยพิบัติทั้งปวง เกิดจากพวกเรามนุษย์นี่แหละที่พากันทำลายสิ่งแวดล้อม ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรจนเกินขอบเขต ทั้งการตัดไม้ทำลายป่า การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล น้ำมัน ถ่านหิน สร้างอุตสาหกรรมมารับใช้ชีวิต แล้วชีวิตสู้กลับ จะแก้ทันไหมนี่...