ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 (80/2566) วันที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2566 เวลา 17.00 น. แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 26 - 29 มีนาคม 2566 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด

ลักษณะเช่นนี้ทำให้ ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มมีผลกระทบในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และด้านตะวันออกของภาคเหนือ จะได้รับผลกระทบในระยะถัดไป จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจจะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหาย ที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 9 (79/2566) (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 13-14 มีนาคม 2566) บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ประกอบกับคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกได้เคลื่อนผ่านภาคเหนือ เข้าปกคลุมประเทศลาวตอนบนแล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนลดลง แต่ยังคงมีฝนฟ้าคะนองเป็นบางพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือตอนบน

ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกรธโชกแรง อาจมีลูกเห็บตกเป็นบางแห่ง ซึ่งก็คงจะพอลดคุณภาพอากาศที่เลวร้ายการการเผาทำลายป่ากันพอสมควร

กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศว่า ประเทศไทยไทยจะเข้าสู่ "ฤดูร้อน" ในวันที่ 5 มีนาคม 2566 โดยในตอนกลางวันพื้นที่ส่วนใหญ่บริเวณประเทศไทยตอนบน จะมีอากาศร้อนโดยทั่วไปอย่างต่อเนื่อง อุณหภูมิสูงสุดตั้งแต่ 35 องศาเซลเซียสขึ้นไป ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ได้เปลี่ยนเป็น ลมตะวันออกเฉียงใต้ หรือลมฝ่ายใต้ พัดปกคลุมแทน ซึ่งเป็นสัณญาณการเข้าสู่ฤดูร้อนของประเทศไทย แต่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังมีอากาศเย็นในตอนเช้าๆ อยู่ ส่วนยอดภูและยอดดอยรวมทั้งเทือกเขายังคงมีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีกระยะหนึ่ง และคาดว่า "ฤดูร้อน" ปีนี้ จะสิ้นสุดราวกลางเดือน พฤษภาคม 2566 นี้

"มีนาแล้ว มีแฟนหรือยัง?" แคปชั่นคำคมเด้งขึ้นมาทางหน้า Facebook มะส่างหยามน้ำใจอาวทิดหมูแท้นอ ปีใหม่แป๊ปๆ บ่ทันส่วงผัดหว่า "มีนาคม" แล้วคือไวแท้วัน/เวลานี่แหม? ตอบตรงๆ อาวทิดหมู่ มักหม่วน ขวัญใจชายไทยไร้คู่ ยังบ่ทันมีแฟนเด้อครับ สาวใดสนใจติดต่อมาได้เลย รักจริงหวังแต่งไม่ทอดทิ้ง ส่งความฮักความคึดฮอดมาจอดหน้ากระท่อมทำใจฮิมมูลได้เลยครับ (เปิดเพลงเศร้าๆ ชายอกหักคลอไปนำเด้อครับ 😅😂🤣😭)

พายเฮือกลับมาจากยามมองเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา ท่านเว็บมาดเซ่อเพิ่นเว้ามาตามสายว่า "เขียนบทนำในเว็บให้แหน่เด้อ อาทิตย์หน้าสิพาไปกินปิ้งไก่ห้วยทับทัน งานดอกลำดวนบานศรีสะเกษ" พะน่ะ! โอย..น้อ คือบ่พาไปกินข้าวปุ้น-เอาบุญผะเหวดเมืองเกินร้อยวันเสาร์นี่แหม่ เผื่อได้พ้อคนงามทางเมืองร้อยเอ็ดซั่นดอกวา คึดฮอดอยู่เด้อสาวๆ

ได้รับมอบหมายให้มาเขียน แต่พะวงเรื่องกินหลายกว่าก็เลย "นึกไม่ออก-บอกไม่ถูก" กันเลยทีเดียวว่าจะเขียนเรื่องอะไรดี ข่าวคราวงานบุญประเพณีก็มีให้เห็นแล้ว พอดีช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ทั้งฮ้อนทั้งหนาว จนบอกไม่ถูกว่าตอนนี้เป็นฤดูอะไร ทางกรมอุตุนิยมวิทยาเพิ่นก็ยังไม่ทันได้ออกประกาศฤดูร้อน แต่จักจั่นทางข้างกระท่อมฮิมมูลอาวทิดหมูนี่มาฮ้องสนั่นสู่มื้อว่า ฤดูฮ้อนมาแล้วเด้อ!

พอเอ่ยถึงฤดูร้อนปุ๊บ ค่าไฟฟ้าก็มาสะกิดใจปั๊บทันทีเลย แหม่นบ่ครับ! หลายๆ บ้านสมัยนี้เพิ่นมีเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายแท้ได๋ แต่ก่อนมีคีไฟ หวด หม้อนึ้ง หม้อแกง กระทะ ถ้วยโถโอชาม ก็พอเพียงทำอาหารเลี้ยงปากเลี้ยงครอบครัวได้จนใหญ่มาปานนี้แหละ แต่ด้วยความทันสมัยเพิ่นหว่า "จุดฟืน ก่อไฟ ใช้เตาถ่าน มันบ่ทันสมัย ทำให้หม้อ กระทะก้นดำ ไม่สะดวกเท่าเตาแก๊ส เท่าเตาแม่เหล็กไฟฟ้า หุงข้าว-นึ่งข้าวเหนียว เดี๋ยวนี้ใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าก็ได้ ทันสมัยไม่ต้องนั่งเฝ้ากลัวหม้อนึ่ง-หวดไหม้อีกต่อไป"

ไทอีสานบ้านเฮากะเลยลืม คีไฟ ลืมขี้ไต้ ขี้กะบอง ไปเสียแล้ว หันมาใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหลักเพื่ออำนวยความสะดวก ความทันสมัยให้บ้านเรือนสมัยใหม่ เป็นบ้านตึกทาสีสันสวยงาม พื้นบ้านหินขัด หินอ่อน บ่แม่นกระท่อมมุงหญ้าคาแบบเดียวกับวิมานทิพย์(สวรรค์)ของอาวทิดหมู ที่ยังใช้เตาฟืน เตาถ่านอยู่ ซึ่งมันก็มีข้อดีตามฮีตคอง การดำรงชีวิตของพ่อ-แม่เฮาในอดีต บ่ได้มีตู้เย็นถนอมอาหาร เพราะอาหารได้มาสดๆ จากการปลูกผักอางนางหญ้าข้างบ้าน ปู ปลา กุ้ง หอย กบ เขียด ก็ได้มาจากห้วย หนอง แม่น้ำใกล้บ้าน เลยไม่มีความจำเป็นต้องใช้ตู้เย็น น้ำกินก็เอาใส่แอ่งดินตั้งไว้ซึ่งให้ความเย็นธรรมชาติชื่นใจ อาหารที่เหลือก็ย่างไฟ รมควัน เก็บไว้กินได้ จะเห็นว่าบนคีไฟจะมีชั้นวาง/แขวนไว้ข้างบนสำหรับเก็บของแห้งพวก พริก หอม กระเทียม ทำให้เก็บไว้ได้นาน มดแมลงไม่มาใกล้

ก็ไม่ได้ว่า คนมีบ้านเรือนสมัยใหม่ดอกครับ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไป ของมันต้องมีก็มากขึ้น ความสะดวกสบายก็มีมากมายขึ้น จำเป็นต้องหา ต้องมีไว้ให้ทันเพื่อนบ้าน จากเคยใช้พัดใบจาก ใบตาล ไม้ไผ่มาพัดคลายร้อน ก็เติมเสริมด้วยพัดลมไฟฟ้า ครั้นมีบ้านที่ปิดทึบด้วยผนังคอนกรีต มีหน้าต่างบานเลื่อน มุ้งลวดมาบังลม การใช้พัดลมอย่างเดียวก็ไม่พอเพียง ต้องมีเครื่องปรับอากาศเข้ามาเสริม มิฉะนั้น แอร์กี่ (อีแก่) ที่บ้านมันจะไม่พอใจเอาได้ (หรือเพราะเหตุนี้ อาวทิดหมู เลยไร้คู่ หือส์สส...)

ฤดูร้อนบ้านเฮา แดดแจ่มๆ หลายคนบ่มัก ย้อนว่ามันฮ้อนฮนใจหลายๆ ทั้งค่าไฟฟ้าที่ต้องจ่าย ทั้งการเดินทางที่ฮ้อนหัวเหลื่อมแมบๆ เพราะว่าต้องหย่างข้ามท่ง หรือปั่นจักรยานหรือขี่มอเตอร์ไซค์ฮ้างข้ามบ้าน บ่ได้สบายคือเพิ่นผู้มีรถนั่งติดแอร์แหล่ว ผู้ข้าจะแหม่นอิจฉาเด้อผู้มีรถแอร์ บ้านติดแอร์ นั่งนอนซำบายใจ กะย้อนว่ายังบ่ร่ำรวยคือเพิ่น กระท่อมน้อยฮิมมูลมุงหญ้าคา ฝาแอ้มด้วยไม้ไผ้สานแซมใบตอง มันกะติดแอร์บ่ได้ซั่นแหล่ว แต่กะยังดีมีฮ่มไม้ อยู่ใกล้แม่น้ำ เลยพออยู่ได้แบบซำบายๆ โตผู้เดียว หาอยู่หากินตามอัตภาพไป

ค่าไฟฟ้าแพงหันมาใช้แผงโซลาร์เซลล์กันดีกว่า

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีแสงแดดดีมากเกือบตลอดทั้งปี จึงมีศักยภาพในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ โดยเฉพาะทางใต้และเหนือของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และบางบริเวณพื้นที่ในภาคกลาง ประมาณ 14.3% ของประเทศ มีการรับพลังงานแสงอาทิตย์ได้ประมาณ 19-20 MJ/ตารางเมตร/วัน ในขณะที่ 50% ของประเทศได้รับประมาณ 18-19 MJ/ตารางเมตร/วัน จึงมีความเหมาะสมที่จะนำพลังงานจากแสงอาทิตย์มาใช้งานกัน

หลายคนสงสัยว่า อาวทิดหมู มักหม่วน เลาอยู่กระท่อมปลายนาหลังคามุงหญ้า คือมามีไฟฟ้า มีอินเทอร์เน็ตใช้ มาเล่น Facebook แอบส่องผู้สาว หาเรื่องราวมาส่อยเขึยนเว็บไซต์นี่ได้ โอ้ย! น้อพี่น้อง ตอนแรกกะบ่มีอีหยังนำเพิ่นดอกมีตะเกียงใช้น้ำมันก๊าด โทรศัพท์เก่าๆ โนเกี๊ยะสมัยโยนใส่หัวหมาฮ้องพุ้นล่ะ พอได้มารู้จักคุ้นเคยกับเว็บมาดเซ่อ (เพิ่นเป็นครูบาอาจารย์น้อ) เพิ่นกะมีความฮู้มาบอกเล่าสู่ฟัง เพิ่นหาแนวมาให้เล่นให้ลองจนได้ดีซั่นแหล่ว

อยู่บ้าน... โอ๊ะ! กระท่อม ของอาวทิดหมูขอรับ เดี๋ยวนี้มี แผงโซลาร์เซล์ชุดนอนนา ประกอบขึ้นเองใช้งานอยู่ พอได้เสียบพัดลมไล่ความฮ้อน เสียบหม้อหุงข้าว ชาร์ทแบตโทรศัพท์กับโน้ตบุ๊คเก่า (ของเว็บมาดเซ่อเพิ่นให้มาใช้งาน) แถมยังให้เราเตอร์อินเทอร์เน็ตแบบใส่ซิม 4G มานำเข้ากันเบิดชุดเลย ได้ความฮู้มาจากอาจารย์สมชายคลิปข้างล่างนี่แหละ

ชุดนอนนาโซลล่าเซลล์ 24 โวลท์ : SomchaiDIY

นี่คือประโบชน์จากการใช้แดดที่แท้จริง ผู้ข้าไปเห็นอยู่หลายบ่อนเพิ่นใช้แผงโซลาร์เซลล์นี้ เอาไปใช้สูบน้ำเข้าไฮ่ เข้านา ทำการเกษตรบ่ได้ง้อมาใช้น้ำมันเลย ลดต้นทุนได้หลายอีหลี คันแม่นเฮาเฮ็ดปุ๋ยบำรุงดินเอง หมักน้ำยาไว้ไล่แมลงศัตรูพืชร่วมด้วย อาชีพการทำมาหากินของพวกเฮากะสิลดต้นทุน เพิ่มพูนกำไรได้บักหลายเด้อพี่น้อง ข้างล่างนี้ บ้านของเว็บมาดเซ่อ เพิ่นดอกเด้อ

มาเบิ่งเทิงหลังคาเพิ่นแหน่ แม่นกระเบื้องบักงามหนึ่ง แล้วเอาโซลาร์เซลล์มาติดตั้งอีกบ่หน่อยหลายแผ่นอยู่ เป็นระบบผลิตไฟฟ้าใช้ภายในบ้านได้แบบหลายทั้งเครื่องปรับอากาศ 4 เครื่อง ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เตาไฟฟ้า หม้ออบ สารพัดเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ก็ยังเหลือกระแสไฟฟ้าส่วนเกินขายคืนให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้อีก

บ่ได้เว้าเล่นได๋ครับ ไปอ่านที่ท่านเว็บมาดเซ่อเพิ่นได้เขียนบทความเรื่องนี้ไว้ ให้รายละเอียดต่างๆ ครบครัน ใช้อ้างอิงหรือนำไปติดตั้งต่อได้ครับ ตามลิงก์ข้างล่างนี้เลย

การติดตั้ง Solar Rooftop เพื่อประหยัดค่าไฟฟ้าและจำหน่ายคืน ตอนที่ 1 | ตอนที่ 2 | ตอนที่ 3 | ตอนที่ 4