1 มกราคม 2564 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ทำให้ ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลงกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียสในภาคเหนือ ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส โดยพื้นราบของภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยและยอดภูมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 2-10 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงไว้ด้วยติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจาก กรมอุตุนิยมวิทยา ได้นะครับ ด้วยความห่วงใยรักษาสุขภาพให้แข็งแรงรับปีใหม่กันครับ

ท่ามกลางมวลอากาศหนาวและลมแรง เราก็ผ่านพ้นปีเก่า 2563 มาถึงวันใหม่ในปี 2564 ได้อย่างราบรื่น ปีใหม่นี้ขอให้ลืมเรื่องราวในอดีต จดจำไว้เป็นบทเรียนเพื่อการก้าวย่างที่มั่นคงในการทำงาน สร้างชีวิตและอนาคตในปีใหม่ สิ่งใดที่เราทำไม่ทันในปีที่แล้วแสดงว่ากำหนดเป้าหมายไว้มากมายเกินไป ปีนี้ลดเป้าลงให้เล็ก ชกให้มั่นด้วยหมัดตรงๆ มุ่งมั่นเราต้องสำเร็จแน่นอน ขอให้ทุกคนผ่านพ้นไปด้วยดีโดยเฉพาะโควิด-19 เพื่อให้เศรษฐกิจเดินต่อไปได้ไม่ต้องรอให้ใครช่วยเราจะก้าวข้ามด้วยสองมือของเราเอง สู้ๆๆๆ... ชัยชนะอยู่เบื้องหน้าแล้ว 😁😁😀😀♥️♥️

เมื่อวานลมหนาวๆ พัดมา "ใครบางคนมือถือแก้วเบียร์เย็นๆ ในห้องแอร์ แต่เหงือซึมเปียกหน้าผาก เพราะเจอทีเด็ด 'พ่อบ่ถิ่มเจ้าดอก' จื่อบ่ล่ะ ทำความดีต้องทำมาดน ทำมาตลอด บ่ต้องให้ไผมาขอ บ่แม่นไฟไหม้ป่าจั่งได้เห็นหน้าหนู ซั่นตั่ว" แม่นผู้ใด๋กะไปคิดเอาเองเด้อพี่น้อง ตอนนี้ขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าเอาไว้ก่อน เพราะถ้ารอให้ถึงมื้อถึงวันย้านว่าสิลืม เพราะปีนี้อยู่บ้านลูกหลานทางไกลสิกลับมาเยี่ยมบ้าน (หรือว่า มันย้านโควิดกะบ่ฮู้คือกัน) อาวทิดหมูกะคือสิคาม่วนกับลูกหลานและทีมงานจนอาจจะลืมวันเวลามาสวัสดี กะขอยกมือไหว้สาก่อนครับ

ปีที่แล้วกะบ่ม่วนย้อนเกิดโควิดระบาดรอบแรก มาปีนี้ว่าสิได้ฉลองม่วนๆ กะอกหักอีกรอบเพราะโรคระบาดรอบที่สอง ถืกพม่าโจมตีแตกแตนไปหลายเมือง เริ่มตั้งแต่เชียงราย เชียงใหม่ เจอกลุ่มใหญ่ๆ ก็สมุทรสาคร ถึงขั้นผู้ว่าฯ สังปิดเมือง ล็อกดาวน์กันอีกรอบ ไทอีสานบ้านเฮากะสิอย่าประมาทเด้อครับ ไปไสมาไสให้ระวังกันอย่างเข้มงวดเรื่องของความสะอาด หลีกเลี่ยงการไปที่เป็นแหล่งชุมชนใหญ่ๆ หนาแน่น เลี่ยงได้ให้เลี่ยง เลี่ยงบ่ได้ให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ คุยกันห่างๆ เข้าไว้ แนวเฮาส่องบ่ซอด แนมบ่เห็นโตมัน กินฮ้อนช้อนกูเข้าไว้เด้อครับ สุราพาให้ประมาทพลั้งพลาดถึงตาย ขอให้พี่น้องบ้านเฮาปลอดภัย เดินทางเมือยามบ้านก็ขอให้ปลอดภัยทุกคน ได้พบพ้อพี่น้องที่อยู่ห่างไกลกันให้พ่อใหญ่ แม่ใหญ่เพิ่นได้ดีใจยามลูกหลานมาโฮมกัน

ยาอายุวัฒนะสำหรับผู้เฒ่าผู้แก่ก็คือ "มีลูกหลานมาเยี่ยม มายามในช่วงเทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ หรือเข้าพรรษา ได้ทำบุญฮ่วมกัน" กะอย่าลืมไปให้ยาดีนี้แก่พ่อ-แม่ทางบ้านกันเด้อ อย่าสิเอาแต่เฮ็ดเวียกหาเงินจนลืมบ้าน พ่อแม่เพิ่นบ่อยากได้ปานใด๋ดอกเงินนั้น เพิ่นอยากได้อายุวัฒนะขนานนี้ คือ บ่ลืมไลบ้านเกิดของพวกเฮา กลับเมือเอาบุญถวายทานอยู่วัดบ้านเฮาพุ้นหล่ะ

สำหรับการเดินทางจากกรุงเทพฯ มุงหน้าสู่อีสานบ้านเฮาในช่วงเทศกาลของทุกปี การจราจรมีความคับคั่งรถติดหนึบตลอด ท่านที่ใช้ยานพาหนะส่วนตัวเดินทางกลับต้องมั่นใจว่า ท่านได้ศึกษาเส้นทางเลี่ยงสำหรับการเดินทางให้ดีพอ ปีนี้เส้นทางพิเศษ บางปะอิน-โคราช ก็ยังไม่เปิดใช้งาน เพราะฉะนั้นก็ทำใจไว้เลยครับว่ารถติดแน่นอน ลองศึกษาเส้นทางเลี่ยงข้างล่างนี้ดู

การเดินทางจากกรุงเทพฯ - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ดูได้จากภาพบนและสรุปจาก กรมทางหลวง ด้านล่าง

• เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ไป จ.สระบุรี (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน)-อ.ม่วงค่อม (ทางหลวงหมายเลข 205)-อ.ท่าหลวง (ทางหลวงหมายเลข 2256)-อ.ด่านขุนทด (ทางหลวงหมายเลข 2148)-อ.ขามทะเลสอ (ทางหลวงหมายเลข 2068) จากนั้นมุ่งหน้าสู่ จ.นครราชสีมา
• เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ไป อ.วังน้อย (ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน)-จ.สระบุรี-อ.ปากช่อง-อ.สีคิ้ว (ทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่ จ.นครราชสีมา
• เส้นทางที่ 3 จากกรุงเทพฯ ไป จ.นครนายก (ทางหลวงหมายเลข 305)-อ.บ้านนา (ทางหลวงหมายเลข 3051, 33)-อ.แก่งคอย (ทางหลวงหมายเลข 3222)-อ.ปากช่อง (ทางหลวงหมาย-เลข 2 ถนนมิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่ จ.นครราชสีมา
• เส้นทางที่ 4 จากกรุงเทพฯ ไป จ.ฉะเชิงเทรา (ทางหลวงหมายเลข 314)-อ.พนมสารคาม-อ.กบินทร์บุรี-อ.วังน้ำเขียว-อ.ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) จากนั้นมุ่งหน้าสู่ จ.นครราชสีมา

ท่านที่จะเดินทางไปยังบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ สามารถเดินทางแยกออกไปไม่เข้านคคราชสีมาได้ 2 จุด คือ

• ถ้ามาจากเส้นทางที่ 1, 2, 3 เมื่อถึงต่างระดับสีคิ้วสามารถใช้ทางเบี่ยงไปเข้าทางหลวงหมายเลข 24 ได้ (โดยการสังเกตป้ายบอกทางไปบุรีรัมย์) จะผ่านแยกอ.ปักธงชัย เข้าอ.โชคชัย - อ.หนองบญมาก - อ.หนองกี่ - อ.นางรอง (ตรงนี้แยกซ้ายไปบุรีรัมย์ได้) - อ.ปราสาท (ตรงนี้แยกซ้ายไปสุรินทร์ได้) - อ.ประโคนชัย - อ.สังขะ - อ.ขุขันธ์ (ตรงนี้แยกซ้ายไปศรีสะเกษได้) - แยก อ.กันทรลักษณ์ (ตรงนี้เลี้ยวซ้ายไป อ.สำโรง- อ.วารินชำราบได้) - อ.เดชอุดม - จ.อุบลราชธานี
• ถ้ามาจากเส้นทางที่ 4 เมื่อถึงแยก อ.ปักธงชัย ตรงไปจะเข้า จ.นครราชสีมา แต่ถ้าเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 24 วิ่งตรงไป อ.โชคชัย ก็จะไปจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานีได้เช่นกัน

การเดินทางในปัจจุบันนี้นอกจากจะใช้ GPS นำทางแล้ว การใช้ Google Map ในอุปกรณ์พกพา เช่น แท็ปเล็ต หรือสมาร์ทโฟนก็สะดวกดี เพราะสามารถค้นหาปลายทางได้ง่าย และคำนวณระยะทาง เวลาที่ใช้ในการเดินทาง รวมทั้งความหนาแน่นของการจราจรในเวลานั้นๆ ได้ตามเวลาจริง (Real Time) ด้วย

เดินทางปลอดภัย ถึงบ้านมีสุข

การเดินทางในช่วงนี้ แน่นอนว่าต้องมีด่านตรวจมากมายตามนโยบาย "ลดอุบัติเหตุ กลับบ้านปลอดภัย" และผนวกกับสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 รอบสอง จึงมีการตั้ง "ด่านคัดกรองด้านสาธารณสุข" เพิ่มเข้ามาอีก ก็ขอให้พี่น้องให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ในการตรวจวัดอุณหภูมิ สอบถามข้อมูลการเดินทาง สถานที่มาและที่จะเดินทางไป สวมหน้ากากอนามัยกันทุกคนนะครับ เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรค รวมทั้งเอาโรคร้ายไปให้คนที่เรารักและห่วงใย ช่วยกันนะครับ เราจะผ่านพ้นภาวะวิกฤตอันเลวร้ายนี้ไปด้วยกัน

เดินทางขอให้ทุกท่านมีสติ ใจเย็นๆ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อเพื่อนร่วมทาง งดเว้นของมึนเมา พักผ่อนให้เพียงพอก่อนการเดินทาง ง่วงแล้วหยุดพักตามจุดบริการต่างๆ เสียเวลาเพียง 30 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมงดีกว่าไปเกิดอุบัติเหตุ ไปไม่ถึงจุดหมาย หมดสนุก เสียทรัพย์หรือเสียชีวิตได้ ขอให้ทุกท่านปลอดภัยครับ...