คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
เวลา 07.29 น. วันนี้ (19 มกราคม) เขตอากาศหนาวที่เส้น 1020 ถอยกลับขึ้นไปทางด้านบนแล้ว เส้นความกดอากาศแต่ละเส้นจะห่างๆ กัน แสดงว่า มวลอากาศเย็นจากประเทศจีนคลายตัวลง แรงกดอากาศจึงเบาบางลง การเคลื่อนไหวของลมจึงลดแรงลงตามไปด้วย มวลอากาศเย็นถึงหนาวก็จะอยู่ในประเทศไทยบ้านเราไม่เกิน 2-3 วัน ทางตอนบนๆ ของประเทศ (เหนือ-อีสานตอนบน) และไม่เกิน 1-2 วัน ทางตอนล่างๆ (อีสานตอนใต้-ภาคกลาง-ตะวันออก) อากาศก็จะอุ่นขึ้นแล้วนะครับ แต่... หัวใจน้อยๆ ของอาวทิดหมูกะยังสั่นๆ ต้องการคนดูแลอยู่เด้อสาวเอย 😍😁
อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ การ์ดอย่าตก "
ภาพถ่ายอากาศดาวเทียมล่าสุด วันที่ 12 มกราคม 2564 เวลา 10.00 น. เส้นความกดอากาศที่ 1020 ลงไปถึงภาคกลางแล้ว คนกรุงเทพฯ คงได้อวดเสื้อกันหนาวหลากสีกันแล้วแน่นอน ส่วนคนอีสานบ้านเฮานั้นหนาวคักกว่าเก่าแน่นอนเพราะเส้น 1025 ลงมาแตะแถวมุกดาหาร นครพนมแล้ว เตรียมรับมือความหนาวกันได้ ระวังฟืนไฟกันให้ดีเด้อสำหรับท่านที่ก่อไฟผิง เพราะว่าลมมันพัดแรงด้วย เตือนมายังผู้เฒ่าผู้แก่ และเด็กน้อยให้ทราบทั่วกัน
รักษาสุขภาพกันนะครับ ช่วงนี้อากาศหนาวและลมแรงมากทั้งในภาคเหนือและภาคอีสานของเรา เนื่องจากเส้นความกดอากาศที่ 1020 แผ่ลงมาครอบคลุมในภาคอีสานของเรา (คราวก่อนแค่เส้นที่ 1015 ถ้าเส้นที่ 1030 ลงมาคงได้เห็นแม่คะนิ้งในตอนเช้าๆ แน่นอน) พยากรณ์อากาศใน 7 วันข้างหน้าก็ตามภาพล่างนะครับ
ไหนจะอากาศหนาว ไหนจะการแพร่ระบาดของโควิด-19 ก็หมั่นดูแลรักษาสุขภาพทั้งของคนในครอบครัวและสัตว์เลี้ยงกันหน่อยนะครับ มีหลายคนถามมาว่า "กระท่อมน้อยอาวทิดหมูเป็นจั่งใด๋" บอกตรงๆ "ไพหญ้าเพิงแวบๆ ย้อนลมแฮง ฝาเฮือนใบตองขัดแตะลมหวื่อๆ เข้าทางฮูใบตองขาด หนาวสะท้านพุ้นแหล่วน้อ ย้อนบ่มีผ้าห่มกาคนคือหมู่เพิ่น เช้ามื้อนี้ได้ก่อไฟผิง โยนมันแกวลงหมกขี้เถ่าเอามาคลายหนาว แซ้บ แซบ เด้อพี่น้อง ทั้งหวานทั้งหอม มาๆๆ มากินนำกัน"
จากสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 รอบสอง ที่รุนแรงกระจายไปเกือบทั่วประเทศครั้งนี้ จะไม่เขียนถึงก็ไม่ได้เพราะมีผลกระทบกับพวกเรามากมายเหลือเกิน เริ่มจากจุดเล็กๆ เชื้อนำเข้าของคนไทยเองที่ลักลอบข้ามแดนกลับมาจากประเทศเพื่อนบ้านที่ ท่าขี้เหล็ก เชียงราย ตอนแรกก็ทำท่าว่าจะเอาอยู่ ควบคุมได้ แต่เพียงอีกไม่นานนัก ก็เกิดการแพร่เชื้อแบบไฟลามทุ่งจาก ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาคร ลามไปนับสิบจังหวัดทั้งกลาง เหนือ ใต้ อีสาน เพราะตลาดคือแหล่งที่คนไปซื้อหาอาหาร ไม่เฉพาะคนใกล้ๆ แถวนั้นแต่รวมถึงพ่อค้าคนกลางที่ไปซื้อแล้วนำไปจำหน่ายทั่วประเทศ แล้วมันก็ลามไปสู่แหล่งอโคจร (ที่ไม่ควรไป ไม่ควรมี)"บ่อนการพนัน" ซึ่งเป็นสถานที่ปิดอยู่กันแออัด (โกดังอะไรว๊า ติดวอลเปเปอร์อย่างสวย ติดแอร์เย็นฉ่ำ) แล้วก็ตะโกนเชียร์ จนน้ำลายกระเด็นกระดอนใส่กัน เชื้อโควิดมันก็ชอบเพราะไม่มีใครระวังตัว ไม่สวมหน้ากากอนามัยกันสักคน แล้วก็ลามจากโกดังยันไปถึงพวกสนามชนไก่ พวกไปเล่นไพ่ ไฮโล กันกลางทุ่งนา น่ากลัวจริงๆ ครับพี่น้อง
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. อัพเดทสถานการณ์โควิด เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2564 ว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 365 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยสะสมในประเทศไทยอยู่ที่ 9,331 คน มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 66 คน มีผู้รักษากลับบ้านเพิ่ม 21 คน รวมยอดผู้ป่วยที่รักษาหายกลับบ้านได้จำนวน 4,418 คน ยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 4,847 คน
ถ้าพวกเรายังทำตัวสบายๆ ชิวๆ กันแบบนี้ก็คงจะลำบากกันไปอีกนาน ต้องช่วยกันระมัดระวังตัวไม่ไปอยู่ในที่เสี่ยง ที่ผู้คนพลุกพล่าน แออัดกัน ต้องกลับมา "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" กันอีกรอบ แน่นอนว่ามันมีผลกระทบกับการทำมาหากิน การประกอบอาชีพ แม้แต่การศึกษาของลูกหลานที่มีการสั่งปิดโรงเรียน สถานศึกษา ให้อยู่บ้านเพื่อเรียนออนไลน์กันอีกรอบ จะได้ผลไหม? คงตอบได้ว่า "ถ้าใส่ใจ ก็พอได้อยู่" ปัญหาเดิมๆ ก็กลับมาอีกรอบทั้งเรื่องความพร้อมของอุปกรณ์การสื่อสาร ความพร้อมของครูผู้สอน และความพร้อมทางฝั่งผู้เรียน ผู้ปกครองที่จะมีโอกาสมาช่วยลูกหลาน (หรือมีความสามารถพอที่จะสอนลูกหลานไหม นี่แหละคือปัญหาใหญ่)
ต้องบอกว่า สถานการณ์การระบาดครั้งนี้หนักหนาเอาการ แม้ว่าประเทศไทยเฮาเคยปิดเมือง ปิดประเทศไปแล้วครั้งหนึ่งในช่วงต้นปี 2563 เรามีบทเรียนในการป้องกัน การต่อสู้กับโรคร้ายนี้มาแล้ว แต่ก็ยังมาเกิดปัญหาซ้ำเติมอีกจาก "ความไม่รับผิดชอบและตระหนักถึงภัยของคนบางคน ความโลภ จนเกิดการทำผิดกฎหมายขึ้น และนำไปสู่การกระจายแพร่ระบาดโรคอย่างรวดเร็ว" ทั้งพวกที่คอยช่วยเหลือพาคนข้ามแดนผิดกฎหมายที่เห็นแก่เงิน (ลักลอบนำพาแรงงานเถื่อน) พวกที่สนับสนุนให้มีการตั้งบ่อนการพนัน ซึ่งควรจะค้นหานำเอาคนเหล่านี้มาลงโทษให้หมดสิ้น
คนบางกลุ่มตกงานจากการระบาดโควิด-19 ในครั้งที่แล้ว เพิ่งจะได้กลับมาทำงานไม่นานก็ต้องมาตกงานซ้ำอีก เป็นการเฉลิมฉลองปีใหม่ที่เศร้าสร้อยที่สุดปีหนึ่ง กินบ่แซบนอนบ่หลับ การระบาดโดวิด-19 ว่าน่ากลัวแล้ว แต่อุบัติเหตุจากช่วงเทศกาลปีใหม่กลับน่ากลัวกว่า เพราะตายเป็นเบือเลยทีเดียว เรื่องนี้แก้ยากหากคนไทยเรายังขาดวินัยจราจร ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย คิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ กันอยู่
คนไทยยังชอบคิดแบบว่า "จะมีบ้าน มีรถ ต้องหลังใหญ่ๆ คันใหญ่ๆ ไว้ก่อน" อันนี้คือปัญหา คำพระท่านว่า "ไม่ประมาณตน" สร้างบ้านหลังใหญ่ก่อหนี้มากมายเผื่อไว้ให้ลูกหลานจะได้มาอยู่โฮมกัน แต่สุดท้ายก็อยู่กันแค่ 2-3 คน เพราะลูกหลานร่ำเรียนจบชั้นต้นที่บ้านเฮา แล้วก็ขอไปเรียนต่ออยู่ที่อื่น (มันจั่งได้ขอเงินเป็นรายเดือน มีอิสระอยู่หอพัก เพิ่นหว่า) เฮียนจบแล้วก็ไปอยู่ที่อิื่น ปล่อยให้ 2 เฒ่าอยู่กันอย่างเดียวดาย นี่บ่แม่นสอยเด้อ มันคือความจริง
จะซื้อรถ เขามีรถอีโค่คาร์ (eco car - ขนาดประหยัด สมฐานะ) ก็ไม่ซื้อเพราะคิดมาก คิดเผื่อไว้ว่า ต้องซื้อคันใหญ่ๆ นั่งกันได้หลายคน ต้องรถปิ๊กอัพยกสูงๆ หนีน้ำท่วม จะได้บรรทุกข้าวของได้ เครื่องต้องแรงเพราะจะบรรทุกหนัก แต่ความเป็นจริง! บ่เคยนั่งเกิน 2 คน บ่เคยใส่กระสอบถ่าน (มันสิเปื้อน มันสิดำ) บ่เคยไปลุยน้ำทางใด๋ ย้านมันเปื้อนขี้คร้านล้าง สุดท้าย รถแฮงๆ ก็เลยพาลงไปกินกล้า (หญ้า) ข้างทาง มักแต่ความเท่ห์ อยากให้เขาเหลียวมอง แต่งใส่ล้อแม็กยางใหญ่ๆ ใส่ท่อดังๆ ควันดำๆ แล้วยังมีหน้ามาถามว่า "อาวทิดหมู รถผมมันคือกินน้ำมันแท้หือ?" โอ๊ย! น้อ "มึงกะไปถอดของแต่งบ้าๆ บอๆ นั่นออก หรือขายไปซื้อรถอีโค่คาร์เลยตี้ล่ะ อย่าสิซื้อรถอีโก้คาร์ (ego car) มาโชว์ ท่อนั้นล่ะ จบ!"
ช่วงนี้เป็นช่วงวิกฤตในการรักษาในโรงพยาบาลครับ การระบาดของโควิด-19 ทำให้การบริจาคโลหิตลดลง แต่สวนทางกับอุบัติเหตุที่เพิ่มขึ้น ทางสภากาชาดได้รับบริจาคเลือดน้อยลง ซึ่งไม่เพียงพอต่อการแจกจ่ายให้กับสถานพยาบาลทั่วประเทศ ดังนั้นจึงขอความร่วมมือจากคนไทยทุกคนที่มีสุขภาพดีได้ร่วมใจกันไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือชีวิตเพื่อนมนุษย์กัน ทุกหมู่โลหิตเลยนะครับ ณ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ภาคบริการโลหิตแห่งชาติทั่วประเทศ และโรงพยาบาลต่างๆ คลิกที่แบนเนอร์ข้างล่างดูสถานที่รับบริจาคได้เลย
ส่งท้าย "ฮักลูกหลานให้ดูแล อย่าสิไปออกรถมอเตอร์ไซค์ให้มันมาแว๊นซ์กวนบ้านกวนเมือง สั่งสอนให้ฮู้จักทำมาหากิน อยู่บ้านเมาะ แมะๆ อย่าไปแรดให้ติดโควิด ขอให้ทุกท่านผ่านพ้นวิกฤต ม้มปีนี้ไปแบบหม่อนๆ สู่คนเด้อ" สวัสดีครับ
ด้วยความปรารถนาดีจาก อาวทิดหมู มักหม่วน
กระท่อมน้อยฮิมมูล 7 มกราคม 2564
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)