คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
เมื่อวันก่อน... นอนหลับๆ สะดุ้งตื่นด้วยความตกใจจากเสียงโทรศัพท์ (แอบงีบกลางวัน ใส่หูฟังฟังเพลงจากโทรศัพท์ แล้วม่อยหลับไป) งัวเงียกดรับสาย ทางปลายสายยิงคำถามมาว่า "ปิดตรุษจีน 12 กุมภาพันธ์ แพลนจะไปเที่ยวไหนดีค่ะ" อุ๊ย! งงสิครับ ก็ผมมันเชื้อสายลาวเข้มข้นไม่มีเชื้อจีนสักนิด เลยอึ้งไป ทางปลายสายเห็นผมงงๆ เลยเอ่ยต่อว่า "ดิฉันโทรมาจากมหาวิทยาลัย...แห่งหนึ่ง เพื่อสำรวจว่าวันหยุดที่ทางราชการกำหนดให้พิเศษนี้ ประชาชนจะมีส่วนร่วมเพียงใด ขออภัยที่โทรมารบกวน ขอสอบถามความคิดเห็นสัก 2-3 ข้อคะ" ก็เลยได้ให้ความเห็นไปหลายเรื่องราวพอควร ที่ไม่ถามก็ตอบไปบ้างเหมือนกัน ไม่นานคงมีผลโพลออกมาให้เห็น
ตั้งแต่ปีที่แล้วที่วันหยุดสงกรานต์ เราไม่ได้รดน้ำสงกรานต์ และก็มีวันหยุดชดเชย วันหยุดพิเศษเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้มีการจับจ่ายใช้สอย เดินทางท่องเที่ยว ซึ่งก็ได้ผลบ้างนิดหน่อยเพราะถูกกักตัวมานาน พอให้มีการเดินทางจึงหลั่งไหลกันมืดฟ้ามัวดิน แต่ก็เป็นเพียงระยะสั้นๆ เพราะน้องโค (ไม่ โยตี้) มาอีกรอบ คราวนี้ก็เลยมีแพลนวันหยุดราชการ หยุดพิเศษแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนให้เห็น แต่จะช่วยเรื่องเศรษฐกิจได้แค่ไหนนั้นอีกเรื่อง
ตั้งแต่เกิดมา ปีนี้นับเป็นปีแรกที่ได้สัมผัสกัน วันหยุดตรุษจีน สาเหตุตามที่บอกข้างต้นว่า ผมไม่เคยไปไหว้บรรพบุรุษในวันนี้ จะทำก็ตอนสงกรานต์โน่นแหละแบบไทอีสาน แล้วการที่ให้เป็นวันหยุดราชการ เพื่อให้คนไทยทุกคนได้ไปพักผ่อนท่องเที่ยว ใช้จ่ายเงิน จะได้ผลไหม? ให้ผมคาดเดา "คงได้ แต่น้อยมาก" เพราะสถานการณ์ตอนนี้ เงินทองในกระเป๋ามันไม่อำนวยครับ ไม่ว่าจะเป็นใคร อาชีพอะไร ก็ล้วนแต่ระมัดระวังในการใช้จ่ายกันทั้งนั้น ปริมาณคนตกงานหรือรายได้ลดลงนั้นมีมากกว่าปีก่อนๆ การกระตุ้นด้วยวันหยุดแบบนี้อาจจะไม่มีผลอะไรเลยก็ได้ กอร์ปกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงโดยเร็ว บางจังหวัดยังใช้มาตรการเข้มข้นในการควบคุมการเดินทางอยู่ จึงทำให้การเดินทางไปมาไม่สะดวก ไม่มั่นใจ ไม่สนุกที่จะไปพบปัญหาคาดไม่ถึง
ทุกปีจะรู้จักวันตรุษจีนเพราะเพื่อนๆ หรือลูกศิษย์ที่มีเชื้อสายจีน เอาของไหว้มาฝาก หรือไม่ก็ชวนไปกินของไหว้ (หมู เป็ด ไก่ ขนม ผลไม้) หลังพิธีเสร็จสิ้น ได้พบปะสังสรรค์กันบ้างเล็กน้อย (ด้วยผมเป็นคนของทุกตรุษและเทศกาล จะไทย จีน ญวณ ฝรั่ง ฯลฯ ก็มีเพื่อนที่รู้จักชักชวนทุกเทศกาลแหละ) แต่ปีนี้ดูท่าจะลดน้อยลงเพราะถามเพื่อนแล้ว บอกมาว่า ปีนี้คงลดปริมาณของเซ่นไหว้บรรพบุรุษลง เพราะค้าขายไม่ดี ว่างั้น
ว่าด้วยวันหยุดราชการปีนี้ มีทั้งให้หยุดเหมือนกันทั่วประเทศ กับที่พิเศษคือหยุดเฉพาะภาคใดภาคหนึ่ง (อันนี้พิเศษที่สุด และก็ไม่ทราบว่าใช้เกณฑ์อะไรด้วย) ตัวอย่างวันที่ว่า มีอยู่ 4 วัน วันหยุดภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคใต้ ซึ่งวันหยุดประจำภาคไหน ก็ให้หยุดเฉพาะภาคนั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบให้รายละเอียดว่า
"วันหยุดประจำภาคไหน ก็ให้หยุดเฉพาะภาคนั้น และ "หยุดเฉพาะหน่วยงานของรัฐ" โดยดูจากสถานที่ตั้งของหน่วยราชการ รัฐวิสาหกิจ โรงเรียน ว่าอยู่ในจังหวัดไหน ก็ให้หยุดตามวันหยุดประจำภาคนั้น เท่ากับว่า 1 คน จะมีวันหยุดประจำภาค 1 วัน ส่วนพนักงาน ลูกจ้าง ของภาคเอกชนและธนาคาร ให้พิจารณาตามความเหมาะสม แต่รัฐบาลก็ขอความร่วมมือเพื่อให้เกิดความพร้อมเพรียงกัน" ซึ่งภาคอื่นไม่ได้หยุดด้วยนะ มาดูกัน
ก็ตามนั้นแหละครับ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า แต่ละท้องถิ่นเขาก็มีงานประเพณีที่สำคัญไม่เหมือนกัน แม้จะภาคเดียวกันก็เถอะ ไม่เหมือนกันเลย และก็มีกิจกรรมที่สำคัญมากๆ ด้วย ทำไม? ไม่ให้อิสระให้แต่ละจังหวัดเขาได้กำหนดกันเองบ้างนะ ยกตัวอย่างภาคอีสานบ้านเฮานี่แหละ เข้าใจได้ว่า "บุญบั้งไฟ" เป็นประเพณีร่วมกันของเกือบทั้งภาค แต่จังหวัดที่ยึดถือว่าประเพณีนี้มีความสำคัญมากก็มี จังหวัดยโสธร ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ เขาก็น่าจะหยุดกันได้และชอบใจ แต่ว่า จังหวัดสกลนคร นครพนม เขาอยากหยุดกันใน "วันออกพรรษา" มากกว่า เพราะทางสกลนครนั้นเขามีงานบุญประเพณีใหญ่คือ "แห่ปราสาทผึ้ง" และนครพนม เขาก็มีงานประเพณีใหญ่คือ "ไหลเฮือไฟ" ในวันออกพรรษาไงครับ แต่ก็ไม่หยุดราชการให้สำหรับพวกเขา ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ก็มักจะมีกลุ่มข้าราชการในหน่วยงานต่างๆ นักเรียน นักศึกษามาร่วมทำกิจกรรมด้วยจำนวนมาก
ในภาคอื่น จังหวัดอื่นๆ ก็คงจะมีเหตุผลที่แตกต่างกัน น่าจะช่วยให้เกิดกิจกรรมประเพณีที่เป็นของท้องถิ่น แล้วประชาชนในถิ่นนั้นๆ ได้หยุดตรงกันมาประกอบกิจกรรมร่วมกันก็คงจะดีนะครับ หรือท่านมีความคิดเห็นกันอย่างไร?
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)