คนอีสานโบราณนั้นนับว่าเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอนอยู่พอสมควร จะเห็นได้จากนิทาน หรือวรรณกรรมพื้นบ้านหลายต่อหลายเรื่อง จะเล่าในลักษณะเป็นคำกลอน อย่าง พญาคำกอง (สอนไพร่) หรือ ท้าวก่ำกาดำ หรือขูลูนางอั้ว ดังนั้นคำสอนของผู้เฒ่าผู้แก่ ปู่ย่าตายาย ก็มักจะออกมาในรูปคำกลอน
หมายเหตุ : การอ่านกลอนต่อไปนี้ต้องออกเป็นสำเนียงอีสานจึงจะคล้องจองสัมผัสกันได้ดี คำทุกคำที่เขียนพยายามจะให้ใกล้เคียงกับการออกเสียงมากที่สุด กรุณาออกเสียงตามที่เขียนดูนะครับ
- ญิงใดทันตาแข้วขาวเจิงพ้นออก แม่นว่าเลี้ยงลูกเต้ามีได้ใหญ่สูง (คำสอน)
- ญิงใดขัวมัวหน้าไกวแขนกับเกี่ยว ญิงนั้นทุกข์เท่าเถ้าถือกระเบื้องคั่วขอ (คำสอน)
- ญิงใดสบดำปี้ดั่งหมากมอนสุก ญิงนั้นตัณหาในสงสารบ่อาจทันเทียมได้ (คำสอน)
- ญิงใดคีงกลมส้วยดำแดงแอวกิ่ว ญิงฮูปนั้นงานบ้านบ่ทำ (คำสอน)
- ญิงใดก้นแอ้งแถ้งแงนเบิดคืนหลัง ดังโขโมคือยักษ์ย่างแพนแงนก้น ญิงนั้นจนเถิงเถ้าใจเบาเคียดง่าย อย่าได้หมายอยู่ซ้อนเมือหน้าบ่ดี (คำสอน)
- ญิงใดปากกล่าวต้านเว้าแผดเสียงแข็ง เจ้าเอาเป็นเมียบ่ดีพาฮ้าย (คำสอน)
- ดงหลวงนี้พึงคณาเนื้อแกว่น นกหากชมชื่นด้วยลำไม้ฮ่มงาม (บ.)
- เดินเดียวดั้นประสงค์หาน้องอุ่น คันมาพบนาฎน้องใจสลั้งวั่งเว (ป.)
- เด็กน้อยมีความฮู้สองสามความมันกะอ่ง ผู้ใหญ่ฮู้ตั้งล้านกะอำไว้บ่ไข (บ.)
- เด็กน้อยมีเงินเฟื้องสองไพก็อยากอวด ผู้ใหญ่มีตั้งตื้อกะถือไว้บ่อวดใผ (บ.)
- เด็กน้อยได้ยินเสียงแมวฮ้องกลางเฮือนกะตับสั่น เสือโคร่งมีหมื่นชั้นคนเถ้ากะบ่กลัว (บ.)
- ได้เมียผู้ดีปานได้แก้วคูณล่าง ได้เมียผู้ช่างปานได้แก้วคูณเฮือน ได้เมียผู้บิดเบียนปานกุมหมูในคอก ได้เมียผู้ผอกปานได้แก่ไม้ทางปลาย (กาพย์ปู่)
- ได้เมียผู้ดีปานสบไถขาง เมียเป็นนางผัวนุ่งผ้าใหม่ นาแฮ่งใหญ่กล้าซ้ำแฮ่งเหลือ (กาพย์ปู่)
- ดงหลวงบ่ห่อนขาดเผิ้ง ดงเสอเพอบ่ห่อนขาดหมากแน่ง ดงแสนกวางบ่ห่อนขาดอีเก้ง หมีเหม้นบ่างชะนี (ผาแดง)
- ตมติดเอาตมล้างแกมกันให้มันค่อง น้ำติดเอาน้ำล้างแถมซ้ำตื่มผู้ดี (บ.)
- ตัณหาฮักลูกเป็นดั่งเชือกผูกคอ ตัณหาฮักเมียเป็นดั่งปอผูกศอก ตัณหาฮักเข้าของเป็นดั่งปอกสุบตีน ตัณหาทั้งสามอันนี้มาขีนให้เป็นเชือก ให้กลิ้งเกลือกอยู่ในวัฏฏสงสาร (มัทรี)
- ไถนาแล้วอย่าลืมควายกับแอก บาดห่าเข้าบาทพ้อมยังสิโอ่อ่าวเถิง (บ.)
- เถิงระดูเดือนห้าเมษาฮ้อนเฮ่ง บ่มีหนาวมีแต่ฮ้อนไฟไหม้ลวกลน (บ.)
- ถากให้เกลี้ยงเหลาตื่มเติมดู แล้วจิ่งลงลายสลักตื่มเติมงามย้อง (บ.)
- ถากไม้บ่มีเหลี่ยมเค้า แสนสิเกลี้ยงกะบ่งาม (บ.)
- เถิงยามค่ำอย่านั่งหนทาง ยามกลางคืนอย่าเข้าเที่ยวบ้าน เข้าเถื่อนกว้างเลี้ยงหมู่หมูหมา (บ.)
- ทุกข์ยากฮ้ายเขาะขอดแลงงาย อย่าได้ลืมความสัตย์เที่ยงจริงจำหมั้น (บ.)
- ทำการสร้างอันใดให้ฮิ่นตรองถ้อน อย่าได้เห็นแก่ใกล้กินกล้วยโหม่มเสีย (บ.)
- ทางหลายเส้นตามใจสิเลือกไต่ มักเส้นโค้งโงเงี้ยวก็หากมี (บ.)
- เทียวทางพ้อพอใจจอดแว่ คือสิหายโศกฮ้อนสบายบ้างแบ่งเบา (บ.)
ไทไกลนี้เจงเลงน้ำแจ่วข่า บ่ท่อใสติ้งหลิ้งไทใกล้น้ำแจ่วขิง (บ.) |
- ทานบ่มีใจตั้งสิหวังปองเป็นประโยชน์ใดเด หวังประโยชน์แต่บ่ทานทอดให้บุญสิได้ย่อมใด (บ.)
- ทำทานบ่มีศีลพร้อมผลบุญบ่เฮืองฮุ่ง มีศีลคันบ่คิดละเว้นสิเป็นได้ดั่งใด (บ.)
- ทำทานผัวเมียบ่พร้อมผลบุญเต็มส่วน บุญคันบ่เพียรก่อสร้างสิหมายได้ดั่งใด (บ.)
- ทำทานบ่ปรารถนาตั้งสิเอาหยังเป็นที่เพิ่ง มีแต่ปรารถนาบุญบ่ได้สร้างไว้สิไปได้ฮ่อมใด (บ.)
- ทำตนให้คือสักกุณานกเจ่า บาดห่าบินผ่านฟ้าขาวแจ้งจั่งเห็น (บ.)
- ทางหลวงกว้างสังมาเทียวตั้งแต่ขอก หมกปลาแดกตั้งโจ้โก้สังมาจ้ำแต่ตอง (บ.)
- เทียวทางท่งแดดวอน เทียวทางดอนแดดไหม้ ถกขาไวไวให้ฮีบฟ้าวหาฮ่ม (บ.)
- เทียวทางเวิ้งเหิงหลายมันสิค่ำ มัวแต่กินหมากหว้ามันสิช้าค่ำทาง (บ.)
- เทียวทางบ่สุดเส้นอย่าถอยหลังให้เขาเหยียบ ตายขอให้ตายหน้าพุ้นเขาจั่งย้องว่าหาญ (ป.)
- เทียวทางไกลเหลียวหลังเหลียวหน้า ฟ้าแฮ่งฮ้องน้องแฮ่งคาแอว (ป.)
- แนวนามช้างพลายสารเผือกผ่อง มันหากเกิดอยู่ห้องดงด้าวด่านไพร (บ.)
- แนวเสือเถ้าจำศีลอย่าฟ้าวเชื่อ ลางเทื่อเห็นหมู่เนื้อศีลสิม้างแตกกระเด็น (บ.)
- แนวนามเชื้อหนูชิงชาติชั่ว เชื้อชาติส้มชมได้กลิ่นบ่หอม (บ.)
- แนวนามเชื้อหอยนาหน้าต่ำ ตาบ่สูงดั่งด้ามหอยหว้างบ่วงชะเล เหมิดที่บุญคนเถ้าสกุลวงษ์ตกต่ำ สมัยใหม่ปล้ำสกุลเค้าแตกกระเด็น คึดบ่ตามคลองเถ้าบูฮานเฮาลำบาก มันสิทุกข์ยากฮ้อนทอนท้อบ่ดี (บ.)
- นาวาล้ำลำงามดูอาจ คันบ่พายถ่อเท้าบ่มีได้แล่นไป (บ.)
- นอนิลแก้วพิฑูรย์ธรรมราช ควรค่าซื้ออย่าถือได้ล่วงเอา (บ.)
- หนักหนาโฮมแฮงพร้อมหลายคนหากเบาแบ่ง หนักคึดวางบ่ได้จมปิ้งหน่วงเลย (บ.)
- นกบ่ยินดีด้วยรุกโขบ่มีฮ่ม สาบ่มีดอกไม้คณาเนื้อบ่สงวน (บ.)
- แนนบ่เคยนำห้อยแสนสิออยกะยินยาก บุญบ่เคยประกอบแก้วแสนสิให้ก็ใช่หัว (บ.)
- แนวกำพร้ามหาชนดูหมิ่น ชื่อว่าลูกกำพร้าเขาย้านแก่มกิน (บ.)
- หนึ้งเข้าใหม่หอมฮ่วยมาดัง ระวังเดอเข้ากูสิเอาเหมิดก่อง (บ.)
- แนวนามเชื้อสิงดงปล้องห่าง พิษบ่ฮ้อนกลายใกล้เพิ่นบ่กลัว (ป.)
- แนวนามเชื้อทำทานปล้องถี่ คันได้ตอดพี่น้องบ่ทันได้สั่งใผ (ป.)
- นกกะแดดเด้าหากินไกลเขต เขตเพิ่นอย่าสิเข้าให้มาเด้าอยู่เขตโต (ป.)
- นกเขาเปิดเข้า นกกาเวาเปิดไข่ นกใส่เปิดด้วง โงเงี้ยวตอดโกน (ป.)
แนวตึกแหหวังเอาปลา เฮ็ดนาหวังเอาเข้า ฟันโพนปลูกหมากถั่ว เอาผัวเอาเมียหวังลูกเต้าแทนเชื้อสืบแนว (บ.) |
- แนวนามไม้จวงจันทน์หายาก มันหากหลายแต่ไม้ลำสิใช้บ่มี (บ.)
- แนวนามเชื้อปาปังทำง่าย บาปอยู่ใกล้บุญนั้นอยู่ไกล (บ.)
- แนวมันมีหมากเขือหำม้า บ่มีผู้กล้ามันเกิดมาเอง (บ.)
- แนวผู้ฮ้ายลี้อยู่คือกบ เห็นคนมาหลูบลิลูลงลี้ (บ.)
- นกเขาเข้าอยู่ตุ้มเหงาง่วมทนทุกข์ แม่นสิงอยคอนเงินคอนคำก็บ่ลืมคอนไม้ (บ.)
- นกหนูบ่ห่อนหนีไกลห้วยหากินไกลถิ่น ควายบ่ห่อนหนีบวกน้ำกินหั้นพร่ำนอน (บ.)
- บ่ทันได้ต่อนชี้นอย่าฟ้าวอ่าวหาแกง กินบ่ทันลงคออย่าจาคำสิแค้น กินเกมิดแล้วภายลุนอย่าได้จ่ม บาดห่าลงฮอดท้อง
แสนสิฮ้องกะบ่คืนได้แล้ว (บ.)
- บ่ได้พาโลล้นทำนาหลายท่ง คึดต่อเจ้าต้งหล้งนาเฮื้อท่งเดียว นี้แล้ว (บ.)
- บาดยามเป็นสาวจ้อยควายตมบ่อยากขี่ บาดว่าได้ลูกน้อยบายขี้ก่อนงาย (บ.)
- เบเบฮ้องงัวเฮาอย่าฟ้าวว่า ลางเทื่อเสือโคร่งเขี้ยวสิกินเจ้ามอดชิวัง (บ.)
- บ้านข้อยพุ้นบ่อึดบ่อยาก ปวดท้องขี้ไปงอยหลังเต่า หักไม้แก้งไปถืกขากวาง ซวงมือไปถืกหางเหนอ้ม ก้มลอดฮั้วหมากถั่วแทงตา มืนตาขึ้นหมากสีดาหล่นใส่ นั่งย่องย้อเครือกล้วยถั่งหัว (บ.)
- บ้านข้อยพุ้นดินดำน้ำชุ่ม ปลากุ่มบ้อนคือแข้แกว่งหาง ปลานางบ้อนคือขางฟ้าลั่น จักจั่นฮ้องคือฆ้องลั่นยาม (บ.)
- บ้านข้อยพุ้นบ่อึดบ่อยาก ปลาปากโตท่อหัวเฮือ ปลาเสือโตท่อหัวช้าง ปลาขี้ช้างโตสั้นค่าวา (บ.)
- บ้านข้อยพุ้นบ่อึดบ่อยาก ถากเปลือกไม้มาป่นตางปลา ถากเปลือกสีดามากินตางเข้า ถากเปลือกสาเหล้ามากินตางเกลือ (บ.)
- โบราณเพิ่นว่าไว้ฝากไข่ไว้นำกา ฝากปลาไว้นำหมาขี้เฮื้อนมันสิม้ามเมื่อใด (บ.)
- บวยบ่มีด้ามสิเสียทรงทั้งวาด เขาสิเอิ้นกะโป๋หมากพร้าวบ่มีเอิ้นว่าบวย (ย่า)
- บุญมีแล้วแนวดีป้องใส่ บุญบ่ได้แนวฮ้ายแล่นโฮม (บ.)
- บัณฑิตล้ำทรงธรรมทัดเที่ยง ก็หากหายากแท้ในพื้นแผ่นดิน บาดว่าคนชั่วช้าหีนะโหดแนวพาล มันหากมีมูลมองทั่วแดนดินด้าว (ย่า)
- บุญแบ่งชั้นปั้นป่อนมาพบ บารมีภายหลังจึงได้เวียนมาพ้อ (บ.)
- บุญมีได้เป็นนายใช้เพิ่น คันว่าบุญบ่ให้เขาสิใช้ตั้งแต่เฮา (ย่า)
- บุญมีได้เป็นนายให้เขาเพิ่ง คันว่าบุญบ่พร้อมแสนสิดิ้นก็เปล่าดาย คอยแต่บุญมาค้ำบ่ทำการมันบ่แม่น คอยแต่บุญส่งให้มันสิได้ฮ่อมใด คือดั่งเฮามีเข้าบ่เอากินมันบ่อิ่ม มีลาบคันบ่เอาเข้าคุ้ยทางท้องบ่ห่อนเต็ม (ย่า)
- บุญบาปนี้เป็นคู่คือเงา เงานั้นไปตามเฮาซุ่วันบ่มีเว้น คันว่าเฮาพาเหล้นพามันเต้นแล่น พามันแอะแอ่นฟ้อนเงานั้นกะแอ่นนำ คันเฮานั่งย่องย้อเงาก็นั่งลงตาม ยามเฮาเอนหลังนอนก็อ่อนลงนอนด้วย คันเฮาโตนลงห้วยภูผาหลายหลั่น ขึ้นต้นไม้ผาล้านด่านเขา เงาก็ติดตามมเกี้ยวเกาะเกี่ยวพันธนัง บ่ได้มียามเหินห่างไกลกันได้ อันนี้ฉันใดแท้ทังสองบุญบาป มันหากติดต่อก้นตามส้นผู้ทำ (ย่า)
- บัวอาศัยเซิ่งน้ำปลาเพิ่งวังตม ไพร่กับนายเพิ่งกันโดยด้าม อันว่าเสือสางช้างกวางฟานอาศัยป่า ป่าอาศัยสิ่งฮ้ายหนาแน่นมืดมุง เฮาอาศัยเพิ่งบ้านบ้านกะเพิ่งบุญเฮา คันเฮาหากหนีเสียสิเกิดเป็นดงไม้ คันเฮาหนีไกลบ้านเฮือนชานสิเป็นป่า บ้านสิเป็นเหล่าเฮื้อเครือเกี้ยวมืดมุง เฮาอาศัยพวกพ้องน้องนุ่งสหายเกลอ เขาก็อาศัยเฮาจิ่งเป็นเมืองบ้าน คนหากอาศัยด้วยดอมคนเป็นหมู่ บ่มีใผอยู่ยั้งทอนท้อผู้เดียว ได้แล้ว (ย่า)
- บวชแต่น้อยบ่ฮู้แห่งคลองคหัสถ์ ผัดแต่ในคลองธรรมบ่อวดโตกะพอใช้ (ป.)
- บวชแต่น้อยบ่เห็นฮอยหมูแม่ เห็นแต่บักโล้งโค้งหมูผู้หนวดยาว (ป.)