คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
"กลอนประวัติศาสตร์" นี้ เป็นเรื่องราวของประเทศชาติที่ได้บันทึกไว้เพื่อเป็น หลักฐาน เรียก "ประวัติศาสตร์" กลอนที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวนี้จึงเรียก "กลอนประวัติศาสตร์" เป็นกลอนยาวแบบกลอนเจ็ด แปด หรือเก้า ส่วนใหญ่จะเป็นประวัติศาสตร์ของลาว หรือเจ้าเมืองต่างๆ ในแถบนี้ จะยกเป็นตัวอย่าง 2 กลอนดังนี้
ครั้งดึกดำบรรพ์เมืองแถนกับเมืองมนุษย์ไปมาหาสู่กันได้ โดยอาศัยเครือเขากาดเป็นหนทาง ต่อมาเครือเขากาดนั้นเกิดเป็นน้ำเต้าปุง แถนหลวงฟ้าคื่นจะให้ขุนบรมและมเหสีมาเกิดในเมืองมนุษย์ จึงสั่งให้แถนเอาคนสิบสองภาษาบรรจุลงในน้ำเต้าปุงคอนมาถึงเมืองมนุษย์ เมื่อมาถึงเมืองมนุษย์แล้วน้ำเต้าปุงก็แตก คนสิบสองภาษาจึงออกจากน้ำเต้าปุง ดังคำกลอนว่า
ฟังอีกก่อนแม่ป้าน้าอา |
ฟังสิพรรณาเรื่องเครือเขากาด เครือมันยาวคดโค้งขดต่งงอแงน ดนนานได้เดือนวันแถมถ่าย หน่อยหนึ่งได้มีดอกบุปผา ไก่สอนหุ้มปุมเปาเหง้าง่า |
เบิ่งมันแขวนเท้อเล้อห้อยอยู่เทิงสูง จึงได้มีนามเอิ้นคนเฮาเว้าต่อ น้ำเต้าปุงหน่วยนี้เกิดจากเครือเขา บ่อต้องเถียงกันเหล้นเป็นการเสียประโยชน์ ตัวผมเองรับรองว่าบ่พลั้งในฝ่ายหลักวิชา บ่เคยหวังเสียแต้มตกคนจนต่ำ กล่าวบ่อนนั้นแถนสิแต่งคนลง ดินแดนพื้นปถพีภายลุ่ม แถนเป็นกกต่อต้นบอกสั่งมหาพรหม แถนกะดาดีฟ้าวแปลงคนหลอมหล่อ |
น้ำเต้าปุงลือชาซ่ามาถึงพี้ พระยาแถนก่อเริ่มเดิมดั้งอี่หลี พากันจำเอาสาผู้บ่ทันจักเรื่อง การลำโจทและแก้สุดแท้แต่ผู้ฟัง นักกีฬาเคยชนต่อยดนหลายครั้ง ฟังสิลำต่อเรื่องเป็นข้อบ่อนขัน แถนจิ่งปลงวาจาว่าการสุดสิ้น บ่มีเมืองแลบ้านสัตว์เชื้อส่ำคน บุนบรมราชากะว่ารวมกันนี้ บ่ใช่ว่าเล็กน้อยแถนตั้งแต่งทำ |
น้ำเต้าปุงเลิศล้ำเกิดจากเครือเขา จัดเอาคนโฮมท้อนดาดีทุกที่ พระพ่อเจ้าฟ้าคื่นแถนหลวง บอกให้พรหมจรลิ้วลงไปข้างล่าง ครบสิ่งสิ้นบอกสั่งพระยาแถน เวหากว้างลวงยาวอากาศ ลัดโค้งโน้งประสงค์ใส่โลกา บังเอิญมือถือค้อนคอนมาหลูดบ่า ฟังเสียงคนยังกะเป็นดิ้นดิ้นเต้นตื่นตกใจ น้ำเต้าปุงตกค้างวางลงจากบ่า ตอนมอบท้ายแยกฝ่ายชาวมนุษย์ มันสิมีไผแท้เดิมดาครั้งก่อน |
แถนกะบิดเอามาบ่นานการฮ้อน คนสิบสองภาษาขังใส่หมากน้ำเต้าตันแหน้นอั่งออ ผูกเป็นพวงพานสายมัดคอแขนหิ้ว เอาไปวางไว้พื้นแดนด้าวด่านดิน พรหมก็แวนไวเหาะล่วงเลยบ่มีช้า พรหมก็ยัวรยาดย้าวเหินฟ้าล่วงลง มาบ่ทันเถิงดินถิ่นฐานเซาหยั้ง ป๋าหมากน้ำเต้าตึ้งตึงตุ้มต่อยหิน บ่จักไอจักคางป่วนวนสนหยุ้ง คนสิบสองภาษาหม้นออกมาล้ายล้ายเป็นน่างึดหลาย เว้าให้สุดหลักเกณฑ์ต่อไปยังได้ อยู่ในหมากน้ำเต้าปุ้งนั้นแม่นใผ |
เมื่อหมากน้ำเต้าปุงแตกแล้ว คนสิบสองภาษาก็ออกจากน้ำเต้าปุง พวกออกทีแรกได้แก่ พวกผิวขาว เช่น พวกฝรั่งเศส อังกฤษ โปรตุเกส พวกที่ออกที่สองได้แก่ พวกผิวดำ เช่น เขมร ข้า นิโกร พวกที่สามได้แก่ พวกผิวเหลือง เช่น ลาวไทย จีน ญี่ปุ่น ญวณ เป็นต้น เมื่อคนมีมากจึงเกิด ปัญหาเรื่องการกิน สังรับอาสาเป็นอาหารของคน คนได้กินสังเป็นอาหารไม่อดอยาก ต่อมาปลา รับเป็นอาหารของคนแทนสัง ดังคำกลอนว่า
ฟังอีกก่อนเรื่องหมากน้ำเต้าปุง คือว่าเครือเขากาดแต่ก่อนเดิมที มนุษย์กกกำเนิดสิบสองภาษา คนตาบอดตาหลิ่วหม้นออกนำกัน มีบุคคลหลายเล่าจำพวกผิวขาว พวกนี้ละต้นเหตุออกจากฮูเดิม พวกนี้หม้นออกก่อนฮูสิ่วฮูชี ดำพอปานแมงหมี่หม้นออกฮูชี มีบุคคลหลายส่ำจำพวกผิวเหลือง ฮูใดมันฝิ่วฝิ่วหม้นออกไปเลย มันจั่งมีหลายฮุ่นมนุษย์มะนา น้ำเต้าปุงนี้แปลกกว่าหมู่ทังหลาย คราวเดิมทีกำเนิดคนได้กินสัง สังนั้นวิเศษยิ่งสำหรับเลี้ยงคน บุคคลเกิดมาใหม่กินสังแทนปลา บ่มีทุกข์มีโศกหิวหอดขอดใจ กินแล้วยังคือเก่าบ่หมิดจักที มื้อนี้เฮาโอ้อ่าวบ่ได้กินสัง เพิ่นว่าพ่อแก่บ่ได้กินอิสัง สังเป็นตัววิเศษขันรับอาสา เขานั้นบ่อยากอยู่ตามห้วยตามหนอง ฮอดฟ้าใหม่ฝนใหม่ปลาชื่นชมบาน แต่ว่าสังตัวใหญ่ขวางอยู่คงคา หลีกทางให้สาก่อนได้บ่หือสัง เฮานี้เลี้ยงบ่าวไพร่มนุษย์บุคคล ปลากะเลยเว้าต่อขันรับอาสา ส่วนว่าสังโตใหญ่กลับก่ายกลายหนี กินเข้าปลาบ่เบื่อแทนเนื้อแทนสัง ตลอดทังพ่อแม่จดจื่อเอาเด้อ |
ข้อยเฮียนได้เต็มพุงบ่ผิดบ่พลาด น้ำเต้าปุงนี้ดีมีคนลงเกิด คนได้แตกออกมาฮูชีซูสิ่ว ส่วนว่าฮูชันชันฮูเดิมแต่เก่า พวกรูปร่างสูงยาวอังกฤษอ้ายเศส เป็นเนื้อสีปลาเริมขาวพอนจ่นด่อน พวกเขมรนี้ตี้สีดำปานซี่ เพราะว่าผงธุลีมันติดมันก่ำ พวกนี้ออกฝืดเคืองออกจากฮูสิ่ว คือพวกลาวนี้เอยไทยจีนญี่ปุ่น พูดคนละภาษาญวณแก้วข้าแขก มีมนุษย์มากมายได้ลงมาเกิด คราวนั้นบ่มีหยังจักอันจักสิ่ง สังนั้นเป็นตัวตนอันโตใหญ่ สังได้ขันอาสาเลี้ยงคนในโลก สังอาสาตัวไปแทนปลาแทนเข้า จั่งว่าโบราณมีโวหารต้านกล่าว เจ้ากินเข้ากับหยังหือลูกบอกแน่ นี้เป็นเรื่องจริงจังต้นเดิมสาเหตุ ต่อไปเลยมีปลากุ้งซิวเป็นหมู่ เขาอยากขึ้นไปคลองตามนาตามไฮ่ ปลากะเต้นสะยานขึ้นวังหาไข่ ปลาเลยมาปรึกษาวันทายอมอ่อน สังเลยเว้าให้ฟังว่าเฮาเป็นคนใหญ่ โตสิเลี้ยงเขาทนคือเฮาหรือบ่ สังเลยมอบให้ปลาขึ้นวังหาไข่ แล้วกะเลยบ่มีเห็นสังจักเทื่อ ใผบ่ทันได้ฟังจดจำไว้แน่ |
สมาน หงษา ลำกลอน ชุด ประวัติศาสตร์ภาคอีสาน
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)