คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
"กลอนผญา" นี้ คนโบราณใช้พูดเกี้ยวพาราสีกัน เมื่อชายหนุ่มหรือหญิงสาว ไปพบกัน ถ้ามีความรักใคร่พอใจกัน จะพูดเกี้ยวกันเป็นผญา เรียก "จ่ายผญา" แต่ พวกผู้ไทยในเขตมุกดาหาร นครพนม สกลนคร เอาผญานี้ไปใช้เป็นกลอนลำ
เมื่อไปลำ ณ ที่ใด ก็เอาผญาไปเป็นกลอนลำ ลำเกี้ยวกันไปเกี้ยวกันมา ลำเป็นบทกลอนสั้นๆ ต่อมาพวกลำกลอนเห็นว่า แบบผู้ไทยสะดวกไม่ต้องท่องกลอนยาว จึงเลียนแบบผู้ไทยมาลำ เปลี่ยนชื่อกลอนไปใหม่ว่า "ลำเต้ย" เอาชื่อบ้านชื่อเมืองไปตามเจ้าของ เช่น เต้ยหัวดอนตาล เต้ยศรีภูมิ เต้ยพม่า เป็นต้น ความจริงก็คือ "ลำผญา" นั้นเอง จะได้นำเอาเต้ยมาแสดงพอเป็นตัวอย่าง ดังต่อไปนี้
|
ลำเต้ย ม่วนๆ ยาวๆ โดย หมอลำฉวีวรรณ ดำเนิน ศิลปินแห่งชาติ ปี 2536
เต้ยหัวดอนตาล หมอลำคำปุ่น ฟุ้งสุข
ป่อนผญาหาแฟน - อังคนางค์ คุณไชย + รุ่งฟ้า กุลาชัย
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)