คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
เป็นกลอนลำเก่าๆ ตั้งแต่สมัยแผ่นเสียงครั่ง "ตรากระต่าย" ในอดีต สมัยนั้นมีหมอลำไม่กี่คนที่ได้มีโอกาสไปบันทึกเสียงถึงเมืองบางกอก และหนึ่งในนั้นคือ หมอลำคูณ ถาวรพงษ์ ซึ่งเป็นหมอลำที่มีน้ำเสียงดี ก้องกังวาน ชัดเจน และถนัดในการลำกลอนเพอะ (สองแง่สองง่าม) คนทั่วไปจึงพากันตั้งฉายาให้ท่านว่า “หมอลำคูณหี” (เพราะกลอนลำของท่านเฉียดฉิวอยู่กับอวัยวะเพศชาย-หญิงนั่นเอง) แต่นิสัยของท่านนั้น เป็นคนมีศีลธรรม ซื่อสัตย์สุจริต สันโดษ ไม่ดื่มสุราและไม่มีนิสัยทางชู้สาวเลย เป็นคนสุขุม ค่อนไปในทางเก็บตัว จึงมีลูกศิษย์น้อย จนกิตติศัพท์ดังไกลถึงหูของ นาย ต.เง็กชวน นายห้างเจ้าของห้างแผ่นเสียงตรากระต่าย ซึ่งมีความคิดที่จะนำศิลปินพื้นบ้านประจำภาคต่างๆ มาอัดแผ่นเสียงบ้าง จึงได้แสวงหาจากภูมิภาคต่างๆ สำหรับภาคอีสานนั้นได้ทราบว่า มีหมอลำชื่อดังของเมืองอุบลราชธานี คือ หมอลำคูณ ถาวรพงษ์ กับหมอลำจอมศรี บรรลุศิลป์
ลำโดย หมอลำคูณหี (คูณ ถาวรพงษ์)
โอ้... โอละนา... แก้มแป่งแส่ง แก้มเจ้าแป่งแส่ง อีแม่ของรอแวงให้เจ้าย่างเข้ามาอยู่ล่ายๆ โอ้ละนา นวลเอย..... เดี๋ยวนี้ คันสิเว้านำศีลนำธรรม พวกหัวดำคือเฮาเจ้าข้า นี่ถือศีลห้าบอกว่าเป็นคน อีกอย่างหนึ่ง เขาว่าเลาเป็นคนสะสมสร้างชาติ ย้านโลกขาดบ่มีคนแทน นี่แผ่นดินป่าวแปนบ่มีคนต่อ จึงได้พากันอดสาหล่อปั้นผู้ปั้นคน คืนละหนสองหนเทิงทุกข์เทิงยาก มันละอยากตี้ของคนงาน เห็นส้มหวานน้ำลายผัดอยาก เห็นส้มหวานน้ำลายผัดออก อันยามหนึ่ง มันละอยากคือของคนงาน เห็นส้มหวานน้ำลายผัดเหี่ย เหลียวเห็นเนื้อเห็นชี้นเห็นปลา แต่คนงานหนาหล่อหลอมเด็กน้อย มันละอยากบ่ค่อยคือของคนหิว คันบ่ถืกเทิงฮีตเทิงฮิวคลองคัดอีกซ้ำ พอเป็นน้ำได้ถอกได้เท เหมื่อยหยังเด้ในทีปพ้อว้อ กะบ่มีแนวท่อจักสิ่งจักอัน เหตุนั้นพระศาสดาแลเห็นว่าเป็นของยาก เพิ่นเลยปราศจากให้ม้มให้กาย ผู้ไทโตนี่มันใจหลายสมบัติผู้ใหญ่ บ่เห็นแก่ขี้คร้านมักง่ายมีอดมีทน พากันสู้เอาจนตายคาเจิบเบิบ นับว่าดีหลายเติบละพวกไทโต องค์พุทโธบัญญัติศีลไว้ ห้ามบ่ให้ฆ่าเนื้อเบื่อปลา อทินนาบ่ให้ลักของท่าน กาเมนั่นบ่ให้เล่นเมียเขา แม่นสิเล่นผู้สาวสตรีโสดๆ เล่นจักโกฏิบ่เป็นเวลา มุสาวาห้ามตั๋วห้ามหล่าย โตสุดท้ายห้ามดื่มน้ำเมา ข้อนี้พวกไทเฮาเป็นคนหนุ่มน้อย บาปก็น้อยจอกหนึ่งก็ดี อย่างตัวการ "ปาณา" ศีลห้านั้น ถ้าคนหนุ่มฆ่ากะบ่ปานใด๋ แต่ฆ่ามันให้หลายจนเป็นปลาแดก ให้ได้แจกผู้อื่นไปกิน ถ้าหากผู้มีศีลจัวเณรมาแผ่ เฮากะทานไปแหน่ของได้ผลา "อทินนา" ห้ามบ่ให้ลัก ถ้าไผมักบ่อยากเป็นกรรม ให้ไปลักเอานำผู้ขี้ตระหนี่ ผู้ขี้ถี่ย้านพระย้านจารย์ ผู้บ่กินบ่ทานเงินคำมันทุกข์ เงินติดคุกเข้าหีบเข้าไห ไผมีไว้เก็บเอาออกใช้ ให้เงินได้ขวดขวดขวดโพย ผู้ใด๋เป็นขโมยลักเอาบ่บาป แต่อย่าให้กองปราบเห็นเกินมันงาม ข้อที่สาม "กาเม" อย่าเล่น ให้ละเว้นเมียเพิ่นอย่าเซิง ถ้าสี้เถิงคือสี้ตลอด อยู่บ่อนนี้กะดี เห็นเมียไผละกอดกุมซะกุมซาย เล่นให้หลายอย่าเล่นมันน้อย อย่าสินับมันร้อยนับเป็นแสนๆ รวมแบบแผนได้จักซาวสามสิบตู้ ห่าไปสู้จ่ายมพิบาล หนังสืออยู่ในศาลมีตั้งแต่เรื่องนี้ เปิดหนังสือมาอ่านเบิ่ง ให้มีแต่เรื่องนายคูณสี้เมียเขา เปิดไปแล้วซาวตู้สามสิบตู้จั่งเห็น จ่ายมพิบาลกะว่า โพยโพยบ่เป็นแล้วพวกตำรวจ เอามาตรวจตั้งร้อยสมุด หาจนสุดทุกใบทุกหน้า มีแต่เรื่องบักห่านี่มันสี้เมียเขา ฮีบมาเอามันหนีจากนี้ มันสิสี้เมียยมพิบาล ส่งมันไปสวรรค์ย้อนว่าพร้อมบาด "มุสาวาท" ถ้าไผตั๋วดี ตั๋วเข้าทีกะได้บุญบ่ค่อย ตั๋วเด็กน้อยให้อยู่ให้นอน ให้มันมิดออนซอนเซาฮ้องเซาไห้ ตั๋วผู้ใหญ่ให้รู้จักผล ตั๋วคนจนให้พ้อเล้าเข้า ตั๋วผู้เฒ่าเข้าวัดฟังธรรม บุญกะสิได้นำนี่ตั๋วเข้าท่า โตห้าว่า "สุราเมรัย" ถ้าผู้ใด๋กินหลายไคแหน่ กินให้แผ่ให้เหยียดให้ยัน กินจนฮากท่วมดังท่วมตาท่วมปาก ขี้ท่วมดากปานว่าควายโซ หยังกะมิดเสียงโฮเสียงฮ้องเสียงกูก นี่กินถูกตามพระธรรมวินัย กะเพราะมันกินคนตายมากแล้ว พอดีน้อละว่า สิลงท่อนี่นา... |
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)