กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศว่า ย่างเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่เอาเข้าจริงๆ หลายๆ ที่ก็ยังคงเป็นฤดูร้อนกันอยู่ (รวมทั้งบ้านทิดหมูด้วย) จะมีก็แต่ยอดเขายอดภูในทางตอนเหนือและอีสาน ที่มีอุณหภูมิลดลงจนสัมผัสได้ถึงไอหนาว อีสานบ้านเฮาก็มีที่เที่ยวสำหรับฤดูกาลนี้หลายแห่งครับ เดี๋ยวจะแนะนำสถานที่น่าไปสัมผัสในช่วงนี้กัน

แต่... ขอเรียนให้แฟนานุแฟนทุกท่านได้ทราบว่า "กระดานข่าว กระดานสนทนา" ของเว็บเรา ผมได้ปิดการให้บริการไปนานแล้วครับ เพราะไม่ได้รับการสนใจสมัครเป็นสมาชิกแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน (มีสมาชิกอยู่ 5 คนเอง รวมทั้งคณะทำงานในเว็บนี้ด้วย เปิดมาตั้ง 6 เดือน) ช่องทางสื่อสารให้ท่านไปใช้ผ่านทางหน้าเพจเฟซบุ๊คของเราแทนนะครับ ส่วนท่านที่สนใจค้นหาบทความ เรื่องราวภายในเว็บ สามารถค้นหาได้ง่ายๆ ได้ทำคำแนะนำไว้แล้วครับ คลิกไปดูเลย

"ภูกระดึง" ความสุขที่คุณเดินได้

สถานที่ท่่องเที่ยวยอดนิยมหน้าหนาวในอีสานที่คนส่วนใหญ่นึกถึงคือ "ภูกระดึง" นึกถึงสมัยทิดหมู่ยังเป็นวัยรุ่น เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ได้ไปปีนภูกระดึงมา 3 ครั้ง สมัยนั้นมีสโลแกนของเบียร์เจ้าหนึ่งที่บอกว่า ".... ความสุขที่คุณดื่มได้" พวกผมเลยเอามาแปลงใหม่เป็น "ภูกระดึง ความสุขที่คุณเดินได้" เพราะทุกๆ ก้าวของคุณจากตีนภูไปจนถึงหลังแปนั้น (เดินขึ้นเขาสูงชัน 5 กิโลเมตร แล้วเดินบนทางราบบนหลังแปไปจนถึงลานกางเตนท์อีก 3 กิโลเมตร) จะผ่านธรรมชาติ ป่าไม้ โขดหิน ความชันของขั้นบันได (ดิน หิน) ทางเดินที่สวยงาม และมีป้ายข้อความท้าทายคุณอยู่เป็นระยะๆ ให้เราต้องพิชิตเขาลูกนี้ให้ได้ เช่น สู้หรือเปล่าถ้าไม่ไหวกลับลงไปยังทัน, ขึ้นมาถึงตรงนี้ฮึดอีกทีก็ถึงแล้ว, ยังอีกไม่ไกล พักเหนื่อยหายใจแล้วไปต่อ, อีกนิดเดียวได้พิชิตยอดภูกระดึง ฯลฯ

เดินตัวเปล่าเรายังบ่น พอหันไปดูคนเป็นลูกหาบทำให้ฮึดเดินไปต่อได้ การเดินทางขึ้นภูให้ขึ้นไปเป็นหมู่มีเพื่อนคุย หยุดถ่ายภาพเป็นระยะ จะไม่ค่อยเหนื่อยมากนัก ไปลองกันได้เลยครับ ทางอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปบนภูตั้งแต่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 6 เดือน โดยนักท่องเที่ยวสามารถสำรองการเข้าไปใช้บริการล่วงหน้า ทั้งบ้านพัก เต็นท์ และพื้นที่กางเต็นท์ ก่อนเดินทางไปท่องเที่ยวภูกระดึง ผ่านเว็บไซต์ของอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และทางโทรศัพท์หมายเลข 042-810833 และ 042-810834

สำหรับอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 2 ของประเทศไทย โดยตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย มีความสูง 1,316 เมตร โดยสภาพทั่วไปของภูกระดึง ประกอบไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด มีพันธุ์สัตว์ป่านานาพันธุ์ ชมวิวที่หน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และก็น้ำตก ซึ่งลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพอง ซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกด้วย ด้วยความที่ภูกระดึงมีสูงมากๆ จึงมีบรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปีบนยอดภูกระดึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว ที่อุณหภูมิอาจจะลดต่ำลงจนถึง 0 องศาเซลเซียส

ความสนุกสนานในการท่องเที่ยวคือ การได้เดินชมธรรมชาติอันงดงาม 2 ข้างทาง พร้อมด้วยสัมภาระต่างๆ ขึ้นสู่ยอดเขาที่เป็นลานกว้าง (มีบริการลูกหาบในการรับจ้างขนสิ่งของขึ้นไปบนยอดภูด้วย ติดต่อได้ที่ทางขึ้นอุทยาน) การเที่ยวที่สนุกสนานก็อย่าไปทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนะครับ ทำตามคำแนะนำและป้ายประกาศต่างๆ ของทางเจ้าหน้าที่อุทยาน และนำขยะที่เกิดจากคณะของท่านลงมาข้างล่างด้วยนะครับ [ มารู้จักภูกระดึง เพิ่มเติม ]

"ภูเรือ" ไปชมทุ่งดอกคริสต์มาสกัน

อุทยานแห่งชาติภูเรือ ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ.2522 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 16 ของประเทศ มีเนื้อที่ประมาณ 120.84 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ตำบลอาฮี ตำบลท่าลี่ อำเภอท่าลี่ และตำบลลาดค่าง ตำบลหนองบัว ตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย มีอาณาเขตด้านทิศเหนืออยู่ติดกับประเทศลาว ส่วนชื่อของ ภูเรือ นั้นมาจากชะโงกผาบนยอดดอยสูงที่ยื่นออกมาลักษณะคล้ายสำเภาใหญ่ และยังมีที่ราบคล้ายท้องเรืออีกด้วย ชาวบ้านจึงเรียก "ภูเรือ" กันเรื่อยมา

อุทยานแห่งชาติภูเรือ มีลักษณะภูมิประเทศเป็นทิวเขาสูง สลับซับซ้อน มีที่ราบสูงสลับกับยอดเขาหินทรายสูง มียอดเขาที่สำคัญ ทั้งยอดเขาภูสัน สูง 1,035 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง และยอดภูกุ สูง 1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยมียอดภูเรือเป็นยอดเขาสูงสุด สูงถึง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารสำคัญหลายสาย ทั้งห้วยน้ำด่าน ห้วยบง ห้วยเกียงนา ห้วยทรายขาว ห้วยติ้ว และห้วยไผ่ ต้นกำเนิดของน้ำตกห้วยไผ่ที่สวยงาม

เนื่องจากที่อุทยานแห่งชาติภูเรือ เป็นภูเขาสูงและมีทึ่ราบกว้าง จึงมีสภาพป่าที่หลากหลายชนิดปะปนกัน ซึ่งประกอบไปด้วย ป่าเต็งรัง ป่าดงดิบ ป่าเบญจพรรณ ป่าสนเขา สลับกับทุ่งหญ้า ส่วนไม้พื้นล่างที่พบโดยทั่วไป ได้แก่ มอสส์ เฟิร์น กุหลาบป่า(วงศ์กุหลาบป่า) และกล้วยไม้ป่าหลายพันธุ์ เช่น เอื้องคำ เอื้องเงิน ไอยเรศ ม้าวิ่ง เป็นต้น

"ภูเรือ" นั้นเที่ยวสะดวก พักสบาย แถมเดินทางง่าย เพราะมีถนนลาดยางตัดขึ้นไปจนถึงลานกางเต็นท์บนยอดภูเลย เหมาะสำหรับคนที่ชอบขับรถไต่เขา แล้วลงเดินเท้าเที่ยวต่อมากๆ หลังจากประทับใจในความงามยามเช้าที่ผาโหล่นน้อยแล้ว ช่วงสายหน่อยต้องเดินผ่านป่าสนขึ้น ระยะทางประมาณ 700 เมตร ไปยังยอดภูเรือ ระหว่างทางยังมีกล้วยไม้ที่ขึ้นแทรกลานหินให้ชมด้วย ยอดภูเรือเป็นจุดที่สูงที่สุดในอุทยานแห่งชาติภูเรือ ลักษณะเป็นหน้าผาสูงชัน มีการตกแต่งด้วยไม้ดอกสวยงาม คุณสามารถชมวิวท้องที่อำเภอภูเรือได้เป็นมุมกว้าง ในวันที่อากาศดีสามารถมองเห็นแม่น้ำเหือง และแม่น้ำโขงที่กั้นพรมแดนไทย-ลาว ได้เลย

จังหวัดเลย ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดของประเทศไทย และอยู่บนยอดเขาสูงจึงทำให้มีอากาศเย็นตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะหนาวเย็นมากจนกระทั่งน้ำค้างบนยอดหญ้าจะแข็งตัวกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งซึ่งมีภาษาพื้นเมืองเรียกว่า "แม่คะนิ้ง"

ทิดหมูก็เคยไปเยือนภูเรือเมื่อธันวาคม 2558 ไปจังหวะที่ไม่ค่อยหนาวนัก แดดแจ่มเลยปีนั้น

จากสถานที่เที่ยวในจังหวัดเลยที่มีมากมาย ถ้ามีเวลาว่างเพียงพอก็คงใช้เวลา 3-5 วัน จากนั้นถ้าเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถเช่าเหมา ผมขอแนะนำให้เดินทางเลาะเรียบโขงไปทางจังหวัดหนองคาย ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น แก่งคุดคู้ เชียงคาน ถ้ามีเวลาจริงผ่านเลยไปถึงบึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร อุบลราชธานีก็ยังได้นา เคยเขียนแนะนำไว้บ้างแล้วไปอ่านกันเลยครับ (ดูจาก 20 จังหวัดภาคอีสานของไทย)