foto1
foto1
foto1
foto1
foto1
ช่วงนี้อากาศปรวนแปรไปทั่วโลก บ้างก็มีพายุรุนแรง แผ่นดินไหว ฝนตก น้ำท่วม ดินพังทลาย จนไร้ที่อยู่ บ้านเฮากะต่างภาคต่างกะพ้อไปคนละแนว บ้างก็ฝนตกจนน้ำท่วม บ้างก็แล้งจนพืชผลแห้งตาย กระจายเป็นหย่อมๆ แบบบ้านเพิ่นท่วมแป๋ตาย นาใกล้ๆ กันนี้ผัดบ่มีน้ำจนดินแห้ง อีหยังว่ะ! นี่ละเขาว่าโลกวิปริตย้อนพวกเฮามนุษย์เป็นผู้ทำลายของแทร่ ตอนนี้ทางภาคเหนือกำลังท่วมหนัก ข่าวว่าภาคอีสานบ้านเฮาก็เตรียมตัวไว้เลย พายุกำลังมาแล้ว ...😭🙏😁

: Our Sponsor ::

adv200x300 2

e mil

No. of Page View

paya supasit

ju juคันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า

        ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ##

climate change

ด้วยสภาพภูมิอากาศของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปมากในยุคปัจจุบัน มีส่วนทำให้การดำรงชีวิตของ มนุษย์ และสัตว์ หลายสายพันธุ์เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สัตว์ป่า และสัตว์ใต้ทะเลหลากสายพันธุ์ดำรงชีวิตอยู่ยากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ฤดูผสมพันธุ์ ฤดูอพยพตามพฤติกรรม และสัญชาตญาณ ที่แปรปรวนไปตามสภาพภูมิอากาศ หรือแม้แต่ความยากลำบากในการหาแหล่งอาหาร เพื่อการดำรงชีพ จนสัตว์บางสายพันธุ์ค่อยๆ ล้มหายตายจากไปบนโลกภายใต้ภาวะที่เรียกได้ว่า "สูญพันธุ์"

นี่ไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกแล้ว เพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปให้เห็นในตอนนี้ ได้ปรากฏผลกระทบอย่างเด่นชัดแล้วในปัจจุบัน ทั้งการหนาวสุดขั้วที่เกิดขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือ (อุณหภูมิต่ำกว่า -50 องศาเซลเซียส) ในขณะที่ทวีปออสเตรเลียก็เกิดความร้อนสุดขั้ว เกิดไฟป่าลุกลามไปทั่วหลายพันไร่ในหลายๆ ที่ แม้แต่ในบ้านเราเอง ก็พบความเปลี่ยนแปลงมาก ตั้งแต่ฤดูหนาวที่ไม่หนาวเหมือนเคย หนาวก็แค่วันสองวันเท่านั้น แล้วหน้าร้อนก็มาเร็วตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้ว น้ำในเขื่อนต่างๆ ทั่วประเทศที่มีปริมาณเหลือไม่มากอยู่แล้ว เมื่อมาเจออุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็ทำให้การระเหยของน้ำเป็นไปอย่างรวดเร็ว สงกรานต์จะได้สาดน้ำกันสนุกเหมือนเคยหรือเปล่าก็ไม่รู้ และอาจมีผลร้ายแรงในอนาคตต่อไป หากมนุษย์เรายังไม่มีแผนและวิธีการคลายปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง

บางคนบอกเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องแก้ พวกเราประชาชนจะไปทำอะไรได้ล่ะ ไม่จริงครับ... ตราบใดที่คนหนึ่งสร้างแต่อีกหลายๆ คนกลับไปทำลาย มันย่อมไม่มีความสำเร็จแน่นอน มาเริ่มที่ตัวเราประชาชนตัวเล็กๆ นี่แหละ ถ้าหนึ่งคนปลูกต้นไม้คนละหนึ่งต้น หนึ่งปีเราจะมีต้นไม้ให้ความชุ่มชื้นแก่ผืนดินมากถึง 70 ล้านต้น แล้วถ้าเราช่วยกันปลูกต้นไปคนละต้นทุกสัปดาห์ล่ะ มันจะมากมายขนาดไหนคิดดูครับ เอาล่ะถ้าคนอื่นเขาไม่ปลูก แต่เราปลูกตามเรือกสวนไร่นาของเราเอง ตามคันนา ขอบสระ หนองน้ำของเรา แม้แต่คนที่มีเพียงที่ดินปลูกบ้านไม่กี่ตารางวา ก็สามารถช่วยกันปลูกภายในบ้านคนละนิดคนละหน่อยได้ หรือปลูกในที่สาธารณะริมถนนหนทาง ในเขตวัด โรงเรียน ก็ย่อมจะทำได้ มีต้นไม้ก็มีร่มเงา ดินมีความชื้นไม่แห้งแล้งก็จะทำให้อากาศเย็น อุณหภูมิของโลกย่อมลดลงถ้าพวกเราได้ช่วยกัน

แนวคิดที่ดินน้อยปลูกพืชสูงเป็นระดับชั้นหลายชนิด ทำให้มีผลผลิตได้กินอยู่พอเพียง มีมากก็เผื่อแผ่เพื่อนบ้าน มากกว่านั้นก็ขายได้เปลี่ยนเป็นของใช้จำเป็นอย่างอื่น เริ่มจากไม้เนื้อแข็งให้ร่มเงารอบเขตที่ดิน ที่อนาคตดูจะสดใส เมื่อรัฐบาลออกกฎหมายให้ผู้ปลูกสามารถตัดจำหน่ายได้ แม้ชั่วอายุตนจะไม่ได้ใช้แต่ก็เป็นมรดกให้ลูกหลานได้ ถัดมาเป็นไม้ผลอายุยาวอย่าง มะขาม มะม่วง ขนุน ทุเรียน ฯลฯ หรือ กล้วย อ้อย ต่ำลงมาก็จะเป็นมะกรูด มะนาว จากนั้นพวกพันธุ์ไม้เลื่อยถั่วฝักยาว แตงกวา ฟัก แล้วก็เป็นผักระดับแปลงผิวดินที่กินกันในทุกวัน สุดท้ายก็พวกใต้ดินกินหัวอย่าง ขิง ข่า ตะไคร้ มันเทศ และอื่นๆ ถ้ามีที่ดินเพียงพออีกหน่อยก็ขุดสระเก็บน้ำไว้ใช้รดพืชพันธุ์ ใช้เลี้ยงปลาได้ด้วย เหนือบ่อทำเล้าเป็ดเล้าไก่ ตามวิถีการดำรงชีวิตแบบพอเพียงของพ่อหลวง ไม่มีจนแน่นอนครับ

ถ้าไม่ดูให้จบ คุณพลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตไปแล้ว

ดูเพิ่มเติม เจาะใจ : ดร.เกริก มุ่งมีกิจ

ที่เอาคลิปมาให้ดูเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ใครจะทดลองทำก็ไม่สงวนสิทธิ์ ทำไปตามกำลังของตนอย่าตั้งเป้าจะรวยๆๆๆ อย่างเดียว ให้ทำมันอย่างมีความสุขดีกว่า พอมีพอกิน แล้วปลายทางก็จะพบความสำเร็จได้ ลองไปค้นคว้าศึกษาได้จากที่นี่ครับ เกษตรพอเพียง

buffalo 1807517 1280

มาถึงเรื่องความร้อนปีนี้กันหน่อย ให้นึกถึงสุขภาพกันบ้างนะครับ ไปไหนมาไหนช่วงนี้ จะมีแต่คนบ่นว่า "ร้อนจนแสบผิว" ปัญหานี้มีวิธีดูแลตัวเองมาฝากกันครับ เป็นคำแนะนำของ รศ.นพ.วีรศักดิ์ เมืองไพศาล ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล

  • สวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่ง ไม่หนา ระบายอากาศดี สีอ่อน และสวมหมวก แว่นกันแดด หรือถือร่มในที่กลางแจ้ง รวมถึงใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงกว่า 15 ซึ่งการทาครีมกันแดดหนาๆ และมี SPF สูงๆ จะช่วยป้องกันผิวหนังจากรังสียูวีได้ดีกว่า
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละประมาณ 2-3 ลิตร แต่ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่ร้อนจัดเป็นเวลานาน โดยปกติแล้วร่างกายคนเรามีอุณหภูมิประมาณ 36-37 องศาเซลเซียส ถ้าอากาศร้อนมากจนร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น แต่ไม่ถึง 40 องศาเซลเซียส อาจเกิดอาการเพลียแดดได้ เช่น ปวดศีรษะ มึนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลียไม่มีแรง มีตะคริวและมีไข้ และถ้าสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ร่วมกับเริ่มมีอาการทางสมอง เช่น ซึม สับสน ชักเกร็ง หรือหมดสติ เราเรียกว่า "โรคลมแดด" ภาวะนี้สามารถทำให้เกิดตับและไตวาย กล้ามเนื้อสลายตัว หัวใจเต้นผิดจังหวะ น้ำท่วมปอด เกิดลิ่มเลือดอุดตันในกระแสเลือดและช็อกได้
  • รังสียูวี (Ultraviolet) ในแสงแดดที่แผ่ลงมา จะส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง ซึ่งจะทำให้เป็นโรคติดเชื้อได้ง่าย โดยเฉพาะถ้าใส่เสื้อผ้าที่เปียกชื้นเหงื่อเป็นเวลานาน นอกจากนั้นการได้รับรังสียูวีเป็นเวลานานๆ ยังอาจทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง โรคผิวหนังบางชนิดและผิวหนังเหี่ยวย่นก่อนวัย รวมถึงยังอาจมีผลต่อการเกิดต้อกระจกและต้อเนื้อได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
  • ส่วนผู้ที่ออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายในที่ร่ม โล่ง ถ้าเป็นกลางแจ้ง ให้ทำในช่วงเช้าหรือเย็น หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายอย่างหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน ในช่วงที่อากาศร้อนจัด และควรผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าทันทีหลังเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อหรือเชื้อราที่เกิดขึ้นได้ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่คุ้นเคยกับอากาศร้อน อย่าเพิ่งออกกำลังกายหักโหม ให้ร่างกายได้มีการปรับตัวอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์เสียก่อน
  • ระวังความสะอาดของอาหาร น้ำ น้ำแข็งที่รับประทาน เพราะอาจบูดเสียง่าย และทำให้เกิดอุจจาระร่วง
  • สุดท้ายผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย เด็กเล็ก และผู้มีโรคประจำตัว ควรระมัดระวังเรื่องอุณหภูมิอากาศ เพราะอากาศร้อนจะทำให้เส้นเลือดขยายตัว เกิดความเครียด หัวใจทำงานหนักและควรให้รับประทานผักผลไม้ เพื่อเติมวิตามินและเกลือแร่แก่ร่างกาย ในการต่อต้านสารอนุมูลอิสระ รวมถึงได้รับน้ำอย่างเพียงพอ สังเกตได้จากสีของน้ำปัสสาวะที่ออกมา ถ้าสีเหลืองใส แสดงว่าร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ

ลองนำไปปฏิบัติกันดู จะช่วยคลายร้อนในช่วงนี้ได้ครับ ของฝากบ้านใครมีหลังคาสังกะสีหรือแผ่นเมทัลชีท (แม้จะติดฉนวนกันร้อนแล้ว ก็ยังร้อนอยู่) ก็มาทำเครื่องพ่นละอองน้ำบนหลังคาคลายร้อนกันแบบ DIY ประหยัดเงิน ลดความร้อนได้บ้างครับ

 

isan word tip

isangate net 345x250

ppor blog 345x250

adv 345x200 1

นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)