คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
ด้วยสภาพภูมิอากาศของโลกที่เปลี่ยนแปลงไปมากในยุคปัจจุบัน มีส่วนทำให้การดำรงชีวิตของ มนุษย์ และสัตว์ หลายสายพันธุ์เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สัตว์ป่า และสัตว์ใต้ทะเลหลากสายพันธุ์ดำรงชีวิตอยู่ยากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ ฤดูผสมพันธุ์ ฤดูอพยพตามพฤติกรรม และสัญชาตญาณ ที่แปรปรวนไปตามสภาพภูมิอากาศ หรือแม้แต่ความยากลำบากในการหาแหล่งอาหาร เพื่อการดำรงชีพ จนสัตว์บางสายพันธุ์ค่อยๆ ล้มหายตายจากไปบนโลกภายใต้ภาวะที่เรียกได้ว่า "สูญพันธุ์"
นี่ไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกแล้ว เพราะสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปให้เห็นในตอนนี้ ได้ปรากฏผลกระทบอย่างเด่นชัดแล้วในปัจจุบัน ทั้งการหนาวสุดขั้วที่เกิดขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือ (อุณหภูมิต่ำกว่า -50 องศาเซลเซียส) ในขณะที่ทวีปออสเตรเลียก็เกิดความร้อนสุดขั้ว เกิดไฟป่าลุกลามไปทั่วหลายพันไร่ในหลายๆ ที่ แม้แต่ในบ้านเราเอง ก็พบความเปลี่ยนแปลงมาก ตั้งแต่ฤดูหนาวที่ไม่หนาวเหมือนเคย หนาวก็แค่วันสองวันเท่านั้น แล้วหน้าร้อนก็มาเร็วตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้ว น้ำในเขื่อนต่างๆ ทั่วประเทศที่มีปริมาณเหลือไม่มากอยู่แล้ว เมื่อมาเจออุณหภูมิที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็ทำให้การระเหยของน้ำเป็นไปอย่างรวดเร็ว สงกรานต์จะได้สาดน้ำกันสนุกเหมือนเคยหรือเปล่าก็ไม่รู้ และอาจมีผลร้ายแรงในอนาคตต่อไป หากมนุษย์เรายังไม่มีแผนและวิธีการคลายปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง
บางคนบอกเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องแก้ พวกเราประชาชนจะไปทำอะไรได้ล่ะ ไม่จริงครับ... ตราบใดที่คนหนึ่งสร้างแต่อีกหลายๆ คนกลับไปทำลาย มันย่อมไม่มีความสำเร็จแน่นอน มาเริ่มที่ตัวเราประชาชนตัวเล็กๆ นี่แหละ ถ้าหนึ่งคนปลูกต้นไม้คนละหนึ่งต้น หนึ่งปีเราจะมีต้นไม้ให้ความชุ่มชื้นแก่ผืนดินมากถึง 70 ล้านต้น แล้วถ้าเราช่วยกันปลูกต้นไปคนละต้นทุกสัปดาห์ล่ะ มันจะมากมายขนาดไหนคิดดูครับ เอาล่ะถ้าคนอื่นเขาไม่ปลูก แต่เราปลูกตามเรือกสวนไร่นาของเราเอง ตามคันนา ขอบสระ หนองน้ำของเรา แม้แต่คนที่มีเพียงที่ดินปลูกบ้านไม่กี่ตารางวา ก็สามารถช่วยกันปลูกภายในบ้านคนละนิดคนละหน่อยได้ หรือปลูกในที่สาธารณะริมถนนหนทาง ในเขตวัด โรงเรียน ก็ย่อมจะทำได้ มีต้นไม้ก็มีร่มเงา ดินมีความชื้นไม่แห้งแล้งก็จะทำให้อากาศเย็น อุณหภูมิของโลกย่อมลดลงถ้าพวกเราได้ช่วยกัน
แนวคิดที่ดินน้อยปลูกพืชสูงเป็นระดับชั้นหลายชนิด ทำให้มีผลผลิตได้กินอยู่พอเพียง มีมากก็เผื่อแผ่เพื่อนบ้าน มากกว่านั้นก็ขายได้เปลี่ยนเป็นของใช้จำเป็นอย่างอื่น เริ่มจากไม้เนื้อแข็งให้ร่มเงารอบเขตที่ดิน ที่อนาคตดูจะสดใส เมื่อรัฐบาลออกกฎหมายให้ผู้ปลูกสามารถตัดจำหน่ายได้ แม้ชั่วอายุตนจะไม่ได้ใช้แต่ก็เป็นมรดกให้ลูกหลานได้ ถัดมาเป็นไม้ผลอายุยาวอย่าง มะขาม มะม่วง ขนุน ทุเรียน ฯลฯ หรือ กล้วย อ้อย ต่ำลงมาก็จะเป็นมะกรูด มะนาว จากนั้นพวกพันธุ์ไม้เลื่อยถั่วฝักยาว แตงกวา ฟัก แล้วก็เป็นผักระดับแปลงผิวดินที่กินกันในทุกวัน สุดท้ายก็พวกใต้ดินกินหัวอย่าง ขิง ข่า ตะไคร้ มันเทศ และอื่นๆ ถ้ามีที่ดินเพียงพออีกหน่อยก็ขุดสระเก็บน้ำไว้ใช้รดพืชพันธุ์ ใช้เลี้ยงปลาได้ด้วย เหนือบ่อทำเล้าเป็ดเล้าไก่ ตามวิถีการดำรงชีวิตแบบพอเพียงของพ่อหลวง ไม่มีจนแน่นอนครับ
ถ้าไม่ดูให้จบ คุณพลาดโอกาสดีๆ ในชีวิตไปแล้ว
ดูเพิ่มเติม เจาะใจ : ดร.เกริก มุ่งมีกิจ
ที่เอาคลิปมาให้ดูเพื่อเป็นแรงบันดาลใจ ใครจะทดลองทำก็ไม่สงวนสิทธิ์ ทำไปตามกำลังของตนอย่าตั้งเป้าจะรวยๆๆๆ อย่างเดียว ให้ทำมันอย่างมีความสุขดีกว่า พอมีพอกิน แล้วปลายทางก็จะพบความสำเร็จได้ ลองไปค้นคว้าศึกษาได้จากที่นี่ครับ เกษตรพอเพียง
มาถึงเรื่องความร้อนปีนี้กันหน่อย ให้นึกถึงสุขภาพกันบ้างนะครับ ไปไหนมาไหนช่วงนี้ จะมีแต่คนบ่นว่า "ร้อนจนแสบผิว" ปัญหานี้มีวิธีดูแลตัวเองมาฝากกันครับ เป็นคำแนะนำของ รศ.นพ.วีรศักดิ์ เมืองไพศาล ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ลองนำไปปฏิบัติกันดู จะช่วยคลายร้อนในช่วงนี้ได้ครับ ของฝากบ้านใครมีหลังคาสังกะสีหรือแผ่นเมทัลชีท (แม้จะติดฉนวนกันร้อนแล้ว ก็ยังร้อนอยู่) ก็มาทำเครื่องพ่นละอองน้ำบนหลังคาคลายร้อนกันแบบ DIY ประหยัดเงิน ลดความร้อนได้บ้างครับ
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)