คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
ชีวิตรุ่งโรจน์สันโดดโลดเต้น ขัดข้องลำเค็ญมาเป็นอาจิน
เป็นเด็กท้องนาเกิดมาคนหมิ่น ต่อสู้หากินผืนดินกันการ ... "
รุ่งโรจน์ เพชรธงชัย มีชื่อจริงว่า นายไพโรจน์ อุทธา มีชื่อเล่นที่ชาวบ้านเรียกว่า ป็อก เกิดวันที่ 16 ธันวาคม 2495 ในครอบครัวชาวนา บ้านเกิดเดิมอยู่ที่ บ้านหัวคู (ไทบ้านทั่วไปเรียก บ้านแฮ้ง สมัยก่อนนั้นมีอีแร้งเยอะ จับเกาะอยู่บนปลายยางนา) ตำบลเมืองไพร อำเภอเสลภูมิ จังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งพ่อมีอาชีพเสริมจากการทำนาคือ เป็นหมอลำด้วย มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดบ้านหัวคู ที่บ้านเกิดนี่เอง ด้วยความชื่นชอบในศิลปะการแสดงหมอลำ จากการติดตามพ่อไปฟังลำบ่อยๆ ในวัยเยาว์จึงจดจำและฝึกลำตามพ่อ
ต่อมาได้ไปร่ำเรียนฝึกฝนการเป็นหมอลำกับคณะหมอลำในหมู่บ้านชื่อ "คณะบ.วิบุญศิลป์ รุ่งเสน่ห์ลำเพลิน" จนมีความสามารถได้เล่นเป็นตัวตลก และตัวตามพระเอกในคณะ ช่วงนั้นได้ฟังลำเพลินที่ออกอากาศทางวิทยุของหมอลำเพลินชื่อดัง ทองมี มาลัย รู้สึกชอบและประทับใจเป็นอย่างมาก จึงได้ร้องลำเลียนแบบทั้งสำเนียง และท่าทางต่างๆ ได้ออกทำการแสดงร่วมกับหมอลำคณะนี้ในแถบจังหวัดร้อยเอ็ด และใกล้เคียง ได้ค่าตัว 7-8 บาทต่อคืน ในบางงานบางที่คณะได้ค่าจ้างสูงขึ้น ก็จะได้ค่าตัวเพิ่มเป็น 12 บาท ตอนนั้นก็รู้สึกดีใจมากแล้ว
ต่อมาพ่อได้ส่งให้ไปเรียนลำเพิ่มเติมกับหมอลำดัง อาจารย์บุญสิงห์ ปากไฟ ที่จังหวัดยโสธร ช่วงนั้นจังหวะดีได้บันทึกแผ่นเสียงเพลง ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่, สาวนาตาหวาน โดยทางพ่อสนับสนุนเงินทุนด้วยการขายวัว ขายหมูให้เป็นทุนในการบันทึกเสียง โดยผู้นำพาไปบันทึกเสียงห้องบันทึกเสียง คือ เทพบุตร สติรอดชมภู แต่เพลงก็ไม่ดัง จึงกลับมาอยู่ที่บ้านอีกครั้ง ได้ร่วมงานกับคณะหมอลำในหมู่บ้านอีกคณะคือ "ม.ธงชัย ประพันธ์ศิลป์" บ้านโนนสว่าง ที่มี รุ่งสาง เพชรเมืองเส เป็นพระเอกประจำคณะอยู่ก่อน ต่อมารุ่งสางติดเป็นทหารเกณฑ์ ก็เลยได้รับการสนับสนุนให้มาแสดงเป็นพระเอกแทน
ในตอนนั้น รุ่งสางไปเป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่ปทุมธานีได้ยินประกาศทางวิทยุ จากนักจัดรายชื่อ นคร แดนสารคาม กับ ลาศ เมืองอุบล ประกาศว่า "ถ้าใครสุ้มเสียงดีให้ส่งการลำสดๆ ลงในเทปมาสัก 2-3 กลอน ถูกใจจะนำไปอัดแผ่นเสียง" ก็เลยมาอัดกลอนลำส่งไป โดยใช้ชื่อในตอนนั้นว่า "ไพโรจน์ เพชรเมืองเส" ปรากฏว่า นักจัดรายการทั้งสองชื่นชอบว่าเสียงดี อยากดูตัว จึงได้ให้ รุ่งสาง เพชรเมืองเส มาชวนไปพบที่เมืองอุบลฯ
เมื่อไปที่สถานีวิทยุได้พบกับ นคร แดนสารคาม กับ ลาศ เมืองอุบล แล้ว นักจัดรายการทั้งสองชื่นชอบในเสียงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อพบกันและเห็นหน้าตาก็บอกว่า "หน้าตาดี หุ่นดี เสียงดี อัดเสียงได้เลย" ให้กลับบ้านมาเตรียมตัวรอก่อน ทางโน้นจะประสานห้องบันทึกเสียง นักดนตรี ถ้าพร้อมแล้วจะแจ้งให้ลงไปบันทึกเสียงที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง
สมัยนั้น การจะได้ไปบันทึกเสียงผู้นำพาก็ให้ตัวหมอลำหรือนักร้องหาทุนเป็นค่าเดินทาง ค่ากินอยู่เอง ครอบครัวรุ่งโรจน์ตอนนั้นทางบ้านก็ทำนา ทำไร่ ก็เลยไปช่วยครอบครัวและช่วยแม่ปลูกแตงเพิ่ม นำไปขายได้เงินจนสามารถซื้อจักรยานได้มาคันหนึ่ง มีปืนแก๊ปอยู่กระบอกหนึ่งเอาไว้ยิงนกยิงหนู พอทางกรุงเทพฯ แจ้งมาว่าพร้อมแล้วให้ลงไปอัดเสียง เลยต้องขายรถจักรยานคันนั้นได้เงินมา 1200 บาท ขายปืนแก๊ปได้อีก 700 บาท ยังไม่พอเลยให้พ่อไปขอหยิบยืมมาจาก ท่านญาคูเปี่ยม บ้านโนนคำ เสลภูมิ อีก 800 บาท จึงได้เงินทุนค่าเดินทางและค่าอยู่กินลงไปกรุงเทพฯ ในครั้งนั้น
รวมทีเด็ด ร้องไห้ใส่เดือน - รุ่งโรจน์ เพชรธงชัย
งานชุดแรกที่บันทึกเสียงคือ "ร้องไห้ใส่เดือน" (2527) ที่ห้องอัดไพบูลย์สตูดิโอ แล้วก็กลับมาบ้านอีกครั้งพร้อมตั้งคณะหมอลำเล็กๆ ไว้รอรับความดังของตัวเองที่จะเกิดขึ้น เฝ้ารอจนผ่านไปนับเดือนจึงได้ยินเสียงตัวเองผ่านสถานีวิทยุต่างๆ หลายๆ กลอนลำในชุดนี้ได้รับการกล่าวถึงมากทีเดียว จนเพื่อนบ้านมาบอกว่า "ได้ยินเสียงลำของรุ่งโรจน์ในสถานีวิทยุบ้านเฮาแล้ว" ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "รุ่งโรจน์ เพชรธงชัย" ตั้งขึ้นเองโดย "รุ่งโรจน์" มาจากความดังมีชื่อเสียงแล้ว ส่วน "เพชรธงชัย" มาจากความที่เคยเป็นพระเอกในคณะหมอลำ ม.ธงชัย ของอาจารย์เรืองยศ เพชรธงชัย ก็เลยขอนามสกุลท่านมาใช้ ได้บันทึกเสียงกลอนลำมาอีกหลายชุดต่อมา ยังคงลำร่วมกับคณะหมอลำต่างๆ ในพื้นที่อยู่หลายปี รวมทั้งในคณะหมอลำของ พิมพ์ใจ เพชรพลาญชัย ด้วย
ต่อมาจึงลงทุนตั้งวงดนตรีหมอลำของตนเองชื่อคณะ รุ่งโรจน์ เพชรธงชัย เดินสายรับงาน จากค่าจ้างคืนละ 9,500 - 12,000 บาทในสมัยนั้นก็ถือว่ามากมายแล้ว จากวงหมอลำเล็กๆ ก็ขยายใหญ่ขึ้นมาพร้อมกับชื่อเสียงในกลอนลำชุด "ชีวิตรุ่งโรจน์" เป็นช่วงที่มีชื่อเสียงมาก เดินสายในแถบภาคอีสาน ช่วงปี 2528-30 ยังไม่มีคณะคู่แข่งที่มีชื่อเสียงจึงเป็นที่รู้จักทั่วไป จนถึงไปแสดงในต่างประเทศหลายแห่ง ทำวงต่อมาอีกประมาณ 13 ปี ก็ยุบวงไปในที่สุด จากสภาพเศรษฐกิจและการแข่งขันที่มากยิ่งขึ้น
ชีวิตรุ่งโรจน์ - รุ่งโรจน์ เพชรธงชัย
ต่อมา ลาศ เมืองอุบล เป็นนายทุนให้ตั้งคณะขึ้นมาใหม่อีกชื่อ "คณะเพชรปทุมทอง" แต่ก็อยู่ได้ไม่นานก็ยุบวงอีก เพราะเจอพิษค่าน้ำมันแพง โดย รุ่งโรจน์ เพชรธงชัย มีผลงานหมอลำและเพลงที่ผ่านมา มีประมาณ 200 ชุด เช่น ร้องไห้ใส่เดือน, เมียเผลอเจอกันใหม่, ค่าดองน้องติ๋ม, ชีวิตรุ่งโรจน์, ชุดรวมเพลงเด็ดๆ (นำผลงานเพลงฮิตของไวพจน์ เพชรสุพรรณ มาขับร้องใหม่) และอื่นๆ อีกมากมาย
ปัจจุบัน รุ่งโรจน์ เพชรธงชัย อาศัยอยู่ที่บ้านเลขที่ 77 บ้านไก่ป่า หมู่ที่ 6 ตำบลหนองพอก อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด ยังคงรับงานแสดงเป็นนักร้องรับเชิญทั่วไป งานเล็กงานใหญ่ ใกล้ไกลบอกมา ก็จะไปร่วมงานเสมอ รวมทั้งมีธุรกิจทำเนื้อแดดเดียว เขียงขายเนื้อวัวสด จำหน่ายเป็นรายได้เสริมการทำนาให้กับครอบครัว #เขียงเนื้อวัวสด #รุ่งโรจน์ #เพชรธงชัย ริมถนนร้อยเอ็ด-โพนทอง ช่วงบ้านกู่ ตำบลมะอึ อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด
หมอลำรุ่งโรจน์ เพชรธงชัย - ไมค์ทองคำ หมอลำฝังเพชร 2
สนใจติดต่อ รุ่งโรจน์ เพชรธงชัย ได้ทางโทรศัพท์หมายเลข 086-221-9679 และ 063-021-5341 และติดตามได้ทางช่องทาง Facebook รุ่งโรจน์ เพชรธงชัย และ Youtube รุ่งโรจน์ เพชรธงชัย CHANNEL
วิ่งว่าวสนูดวงใหญ่ - รุ่งโรจน์ เพชรธงชัย
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)