คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
แดง จิตกร ชื่อจริง คือ นายสมจิตร เกตุภูเขียว เกิดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่บ้านศรีสุข ตตำบลศรีสุข อำเภอสีขมภู จังหวัดขอนแก่น จากครอบครัวชาวนาที่แสนยากแค้น ครอบครัวมีปัญหาเพราะพ่อแม่แยกทางกัน ตั้งแต่แดงอายุได้เพียง 2 ขวบ โดยทิ้งให้แดงผจญชะตากรรมอยู่กับยายเพียงลำพัง
หลังอายุได้ 13 ปี ต้องออกจากโรงเรียน จึงมีวุฒิแค่ประถมศึกษาปีที่ 4 เพราะยายอายุมากขึ้น บวกกับความยากจนหาเช้ากินค่ำ ต้องออกมารับจ้างทำนา โดยได้ส่วนแบ่งเป็นข้าวพอประทังชีวิตกับยาย อาหารหลักที่กินประจำคือ หน่อไม้ที่ต้องขึ้นไปหาบนภูเขา ต้องเดินทางไปกลับไกลกว่า 15 กิโลเมตร กุ้งฝอย หอยขม ปูนา ปลาสารพัดชนิด ซึ่งหายากเนื่องจากความแห้งแล้ง
ด้วยความที่ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็ก เมื่อว่างจากการรับจ้างทำนาแล้ว จึงไปสมัครงานเป็น “คอนวอย” อยู่กับวงดนตรีชื่อ “ชุมแพคอมพิวเตอร์” มีหน้าที่ทำงานจิปาถะทุกอย่างตั้งแต่ ขนของขึ้นรถ ติดตั้งเวที ขนเครื่องเสียง ติดตั้งแสงไฟ ใครเรียกใช้เวลาใดก็ต้องทำ โดยได้ค่าแรงเพียงวันละ 50 บาทต่องาน แดงเป็นคอนวอยอยู่กับวงถึง 4 ปี จึงมีโอกาสจับไมโครโฟนร้องเพลง เพราะนักร้องประจำวงไม่สบาย แดงจึงได้ฝึกร้องเพลงและเล่นหมอลำอย่างจริงจังตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา เหมือนชะตาฟ้าลิขิตให้ได้เป็นนักร้อง
ข้อมูลจากปกเทปชุดหนึ่งของแดง จิตรกร กล่าวว่า "ชีวิตแดง จิตกร เริ่มดีขึ้น ส่งเงินให้ยายใช้เป็นประจำ ส่วนตัวเขาก็อยู่กับวง "ชุมแพคอมพิวเตอร์" จึงได้เป็นพระเอกหมอลำอย่างเต็มตัว วันหนึ่ง สุทัศน์ เอี่ยมชโลธร จาก บริษัท นิธิทัศน์โปรโมชั่น ต้องการนักร้องเข้าสังกัด และได้มาฟังแดงร้องเพลง จึงเกิดชอบในน้ำเสียงและชักชวนแดงมาทำเทป ซึ่งแดงดีใจมากที่ฝันของตนจะได้เป็นจริง สุทัศน์พาแดงเข้ากรุงเทพฯ และทำเทปชุดแรกให้กับแดงทันทีโดยมี อ๊อด คีรีบูน เป็นโปรดิวเซอร์ ชื่อชุด "ร.ป.ภ.หัวใจ" ซึ่งเป็นแนวลูกทุ่งอีสานที่แดงถนัด แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ"
แดง จิตกร ผิดหวังมากและเริ่มท้อ จึงเลิกร้องเพลงเพราะคิดว่าคงไม่มีโอกาสเป็นนักร้องที่โด่งดังได้ จึงหันไปทำงานก่อสร้างและไปอยู่กับเรือหาปลาถึง 2 ปี ต่อมาแดงได้เจอกับ ป๊อด บัณฑิต เอี่ยมสะอาด ได้นำแดงกลับมาทำเพลงอีกครั้งในสังกัด เคซีเอสกรุ๊ป และทำอัลบั้มชุดที่ 2-3-4 และชุดที่5 ชื่อ "พี่แดงคนเดิม" ถึงแม้อัลบั้มจะไม่โด่งดัง แต่แดงก็ยังรู้สึกที่ได้ทำเพลงที่ตนเองรักซึ่งช่วงนั้น เคซีเอส ทำเพลงและท็อปไลน์ ไดม่อนจัดจำหน่าย ว่ากันมา แดงได้เซ็นสัญญากับท็อปไลน์ ในช่วงนั้นไว้ แต่ยังไม่มีการทำเพลงเพราะยังไม่ได้จังหวะ และแดง จิตกร ก็ไม่ใช่นักร้องดังมาก่อน
หลังจากนั้น ป๊อด บัณฑิต ได้นำแดงมามอบให้ เสี่ยแบงค์ แห่งบริษัท ลาวัลย์การ์เมนท์ สกลนคร ซึ่ง ปัญญา คุณวุฒิ ได้เล่าให้ฟังว่า เสี่ยแบงค์ เจ้าของค่ายลาวัลย์เอนเตอร์เทนเมนท์ มีเพลงชุด "ลืมใจไว้อีสาน" ซึ่ง ครูสลา คุณวุฒิ กับ ปัญญา คุญวุฒิ ได้เตรียมไว้ให้ เอกชัย ศรีวิชัย เพื่อนของเสี่ยแบงค์ ขับร้อง ซึ่งในชุดนี้มีเพลงชื่อ "น้ำตาผ่าเหล้าด้วย" แต่จังหวะตอนนั้น เอกชัย กลับมาโด่งดังจาก "หมากัด" พอดี จึงไม่มีเวลาไปอัดเสียงชุดนี้
แดง ซึ่งว่างงานและโต๋เต๋อยู่แถวโรงงานการ์เมนท์ ได้อัดเพลง "น้ำตาผ่าเหล้า" ที่ ชุมแพ ขอนแก่น ห้องอัด อาจารย์หนุ่ม ภูไท จนเพลงนี้เพลงโด่งดังเปรี้ยงปร้าง แต่เพลงชุดนี้ มีปัญหาในการจัดจำหน่ายเพราะ เสี่ยแบงค์ นำไปให้ ซีเอ็นซีจัดหน่าย แต่ยอดขายช้า ทั้งๆ ที่เพลงดังมาก จึงพยายามนำมาให้อาร์เอสโปรโมชั่น โดยมนต์ เมืองเหนือ จัดจำหน่าย แต่เมื่อได้ตรวจสอบสัญญาแล้ว พบว่า ป๊อด ได้เซ็นสัญญาแดง จิตกร กับ ท็อปไลน์ ไว้ก่อน ในช่วงที่ เคซีเอส ผลิต ท็อปไลน์ขาย อาร์เอสจึงส่งกลับมาให้ท็อปไลน์ ซึ่งในเวลานั้น เสี่ยแบงค์ ค่ายลาวัลย์ จึงปั้น เขียว ดวงสดใส ขึ้นมา ต่อเนื่องกับแดง จิตกร ซึ่งเพลง "น้ำตาผ่าเหล้า" จึงเป็นเพลงที่มีปัญหาซับซ้อนเรื่องลิขสิทธิ์
เส้นทางนักร้องเริ่มต้นขึ้น เมื่อเขาได้มีโอกาสทำเพลง และให้บริษัทท็อปไลน์ฯ เป็นผู้จัดจำหน่าย ผลงานที่ที่สร้างชื่อให้เขาก็คือ เพลง "น้ำตาผ่าเหล้า" และล่าสุด ก็คือ เพลง "หัวใจคิดฮอด" เป็นผลงานการแต่งของ "สลา คุณวุฒิ"
หัวใจคึดฮอด - แดง จิตรกร
จากนั้น แดง จึงได้มาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของสลา คุณวุฒิ ครูสลาจึงแต่งเพลง "ผ่าเหล้าผ่ารัก" "หัวใจคิดฮอด" "มนต์รัก ตจว." ให้แดงจนโด่งดังและตามมาอีกหลายๆ บทเพลงกับบริษัทท็อปไลน์ และเพลงดังล่าสุด ก่อนเสียชีวิต คือ เพลง "สักวาหน้าหนาว"
ส่วนเพลง "มนต์รัก ตจว." ที่กำลังโด่งดังอยู่ตอนนี้ เป็นผลงานการแต่งของ "พิณ พานทอง" นักแต่งเพลงชื่อดังอีกคนของวงการเพลงลูกทุ่ง (อีกนามแฝงของครูสลา คุณวุฒิ ที่ใช้แต่งเพลงเพื่อเพื่อนพ้องและศิษย์ต่างค่าย) โดยมีแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้จากเพลง "มนต์รักลูกทุ่ง" ที่โด่งดังในอดีต เพียงแต่เปลี่ยนเนื้อหาให้เหมาะกับยุคสมัย อีกทั้งยังใช้ภาษาอีสานเพื่อสื่อความหมายโดยตรงกับคนอีกสาน และก็ไม่คิดว่าเพลงนี้จะฮิตมากขนาดนี้ และถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงเพลงหนึ่งของทั้งผู้แต่ง และนักร้องอย่าง "แดง จิตกร"
ปัจจุบันอยู่ที่ บ้านทุ่งสว่าง ต.ตูมใหญ่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ แดง จิตกร มีทายาทกับภรรยา ชื่อ อุไรวรรณ 3 คน คือ น้องเอม เกตุกนก เกตุภูเขียว เอิร์น ฐิติมา เกตุภูเขียว และ เอิร์ธ ศุภกฤต เกตุภูเขียว บุตรชายคนโตต้องหยุดเรียนระดับวิทยาลัย เพราะพ่อป่วย ไม่มีเงินส่งเรียนต่อ
“หลังจากล้มป่วย ก็ต้องใช้เงินเก็บที่ได้จากการร้องเพลงแสดงคอนเสิร์ต เป็นค่ารักษาตัว และค่าใช้จ่าย ในการเดินทางไปทำคีโมหรือฉายแสงที่กรุงเทพมหานครจนหมดแล้ว จึงตัดสินใจหยุดไปรักษาเป็นเวลานานกว่า 3 เดือนแล้ว เพราะสงสารภรรยา ที่ต้องมาแบกรับภาระทั้งกู้ยืมเงิน หยิบยืมญาติและเพื่อนบ้าน ปัจจุบันกินเพียงยาสมุนไพรเท่านั้น แต่หากเป็นอะไรไปก็เป็นห่วงแต่ภรรยาและลูกอีก 3 คน จึงอยากวิงวอนให้ต้นสังกัดหรือผู้ที่มีจิตศรัทธาช่วยเหลือ” แดง จิตกร กล่าว
(30 เม.ย. 2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นักร้องลูกทุ่ง "แดง จิตกร" เสียชีวิตลงอย่างสงบแล้ว เมื่อเวลา 21.00 น. ในวัย 46 ปี หลังจากที่ทางญาติตัดสินพาออกจากห้องไอซียู เพื่อกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน เมื่อช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ข่าวดังกล่าวสร้างความโศกเศร้าเสียใจแก่คนสนิทและแฟนเพลง โดยร่างของ แดง จิตกร บำเพ็ญกุศลที่วัดทุ่งสว่างธรรมวารี ต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ พิธีสวดพระอภิธรรมศพ จะมีตั้งแต่วันที่ 1-6 พฤษภาคม 2559 และมีพิธีฌาปนกิจ ณ เมรุ วัดสว่างธรรมวารี วันที่ 7 พฤษภาคม เวลา 16.00 น.
เว็บไซต์ประตูสู่อีสาน IsanGate.com ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนักร้องลูกทุ่งแดง จิตรกร ด้วยครับ
มนต์รัก ตจว. - แดง จิตรกร
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)