คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
จินตหรา พูนลาภ หรือชื่อจริงตามบัตรประจำตัวประชาชนคือ ทองใบ จันทร์เหลือง เกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม พุทธศักราช 2512 ในครอบครัวเกษตรกรรม บิดาชื่อ นายประไพร จันทร์เหลือง มารดาชื่อ นางจันทร์ จันทร์เหลือง เกิดที่บ้านจานทุ่ง ตำบลสิงห์โคก อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด เริ่มต้นการศึกษาที่โรงเรียนบ้านจานทุ่ง จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
และจบระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จากโรงเรียนหอวัง กรุงเทพมหานคร ได้รับปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิตกิตติมศักดิ์ วิชานาฏศิลป์และการละคร จากมหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด เมื่อปี พุทธศักราช 2547 และสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา เมื่อปี พุทธศักราช 2550
เป็นลูกคนที่ 4 จากทั้งหมด 5 คนของครอบครัวที่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีความสนใจในการร้องเพลงมาตั้งแต่ยังเด็ก เคยเข้าร่วมการประกวดร้องเพลงที่จังหวัดขอนแก่น และหลังจากชนะการประกวดในครั้งนั้น จึงได้รับการชักชวนจาก "เฮียยิ้ง" ชาย สีบัวเลิศ นักจัดรายการวิทยุเพลงลูกทุ่ง เพื่อเข้าเป็นนักร้องบันทึกเสียงกับ ค่ายแกรมมี่ ผลงานเพลงชุดแรกที่บันทึกเสียงคือ "ถูกหลอกออกโรงเรียน" โดยได้รับการสนับสนุนจาก นายปรีชา ทรัพย์โสภา นักจัดรายการวิทยุประเภทเล่าข่าวยามเช้าที่มีชื่อเสียง และได้รับความนิยมในสมัยนั้น และประสบความสำเร็จตามมาด้วยเพลง "วานเพื่อนเขียนจดหมาย" ทำยอดขายได้ 8 แสนชุด งานเพลงในยุคแรกเป็นแบบลูกทุ่งภาคกลาง และลูกทุ่งอีสาน แต่หลังจากมีผลงาน 4 ชุด ได้เริ่มออกผลงานแนวหมอลำซึ่งได้เสียงตอบรับจากแฟนๆ อย่างล้นหลาม
หลังออกอัลบั้มชุดที่ 16 ชาย สีบัวเลิศ ผู้ปั้น จินตหรา พูนลาภ ให้โด่งดัง ได้แยกตัวออกจากสังกัดเดิม ค่ายแกรมมี่ มาเปิดเป็นค่ายใหม่ชื่อ มาสเตอร์เทป โดยได้ จินตหรา พูนลาภ มาเป็นศิลปินเบอร์หนึ่งของค่าย
จินตหรา พูนลาภ ได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในการร่วมงานกับนักร้องรุ่นพี่ เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ ในเพลง "แฟนจ๋า" และ "มาทำไม" และในปี พ.ศ. 2547 ได้ร่วมแสดงบนเวที MTV Asia Music Award ที่สิงคโปร์ กับ ธงไชย แมคอินไตย์ แคทรียา อิงลิช และ นัท มีเรีย
ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2550 จินตหรา พูนลาภ ได้เซ็นสัญญากับค่ายใหม่ อาร์สยาม ในสังกัดอาร์เอส หลังจากที่ค่ายเดิมคือ มาสเตอร์เทป ปิดตัวลงไป
ชีวิตครอบครัว สมรสกับ กอบกิตติ กวีสุนทรกุล หรือ "จังโก้" นักประพันธ์เพลงสังกัดค่ายเพลงพันธมิตร และผู้จัดการวงดนตรีจินตหรา พูนลาภ
ในหน้า "ภาษาอีสานจากเพลง" ได้นำเสนอมีทั้งกลอนลำและเพลงที่ถูกใจสะท้อนชีวิตอย่าง แอบรักหนุ่มยาม เป็นกลอนลำแบบทางขอนแก่น ผลงานของครูเพลง ดาว บ้านดอน เพลง รักโผล่โสนแย้ม สำหรับคนอกหักอีกแล้วครับ แต่ถ้าฟัง ท่วงทำนองก็ม่วนหลายเด้อ เพลง น้ำตาสาววาริน ความช้ำเมื่อคนรักไม่มาตามสัญญา รอแล้วรอเล่าจนงานแห่เทียนผ่านไปอีกปี และยังมีเพิ่มเติมเพลงใหม่ๆ อีกหลายเพลงถ้าสนใจก็ไปดูกันได้
อยู่ในวงการมานานผ่านมาหลายยุค ลุคการแต่งตัวก็เปลี่ยนไป
แล้ว สาวจินตหรา พูนลาภ ก็กระหึ่มวงการเป็นที่รู้จักกันทั่วประเทศ ทั้งแฟนลูกทุ่ง และสตริง เมื่อ ป๋าเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ นำเธอมาร่วมร้องเพลง "แฟนจ๋า" ในอัลบั๊มชุด แฟนจ๋า จนเป็นที่ฮือฮาด้วยความใสซื่อของฅนอีสานแท้ๆ และเธอยังได้ไปร่วมงานบนเวที MTV Music Award 2004 ที่สิงคโปร์ กับป๋าเบิร์ด น้องแคท และนัท มีเรีย อีกด้วย ให้มันรู้กันไปเลยว่าไผเป็นไผ จริงไหมน้องจิน?
นับเป็นเวลากว่า 16 ปี แล้วบนเส้นทางการเป็น "นักร้อง" ของสาวเสียงพิณ จินตหรา พูนลาภ เพราะกว่าจะมาถึงวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เธอจะต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ทั้งในเรื่องหน้าที่การงาน และเรื่องชีวิตส่วนตัว แต่มาถึงวันนี้ เธอได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ในการทำงานให้กับบรรดาแฟนเพลงของเธออย่างเต็มที่โดยไม่รู้จักเหนื่อย จักท้อ ทำให้ในวันนี้เธอประสบความสำเร็จได้ก้าวขึ้นมายืนในตำแหน่งนักร้องลูกทุ่งอันดับหนึ่งของประเทศไทยแล้ว
จินตหรา พูนลาภ ได้กล่าวถึงเรื่องของการทำงานว่า "จินทำงานแทบจะทุกวัน เวลาพักผ่อนก็จะเป็นเวลากลางวัน ได้นอนวันละประมาณ 2-3 ชั่วโมง เป็นเช่นนี้มา 16 ปีแล้ว ตั้งแต่เข้าวงการเป็นนักร้อง ในหนึ่งปี จินจะได้พักจริงๆ ก็ประมาณ 5-6 วัน"
ก่อนจะมาถึงวันนี้ ชีวิตของเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เธอบอกว่า "ชีวิตของจินในช่วงที่เล่นคอนเสิร์ตอยู่นั้น มันก็มีปัญหา และอุปสรรคให้แก้ไขอยู่บ่อยๆ แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ เพราะมีกำลังใจที่ดีจากแฟนเพลง" เธอยังบอกต่ออีกว่า "แฟนเพลงสำคัญกับจินมาก การเป็นนักร้องมันก็แปลกเหมือนกัน เขาสร้างขึ้นมาอยู่กับเขา สร้างโดยที่ว่าเราต้องเป็นแบบนี้ ต้องเหนื่อยแบบนี้ แต่ว่าได้กำลังใจแล้วเราก็คิดซะว่า เทวดาสร้างมาให้เป็นคนของประชาชน ประชาชนก็ได้ความสุขกับสิ่งที่เราทำ เราก็ได้ความสุขจากงานเรา ได้สิ่งตอบแทนคือกำลังใจ เหมือนกับแลกเปลี่ยนความสุขของกันและกัน มันกลายเป็นว่า เรารู้สึกไม่ได้พัก เราเหนื่อย จินกลับมองว่ามันชดเชยกัน ความสุขของแฟนเพลง ความสุขของจินที่จินได้รับมามันคละเคล้ากันไป ถึงจะลำบาก แต่กำลังใจที่ได้รับจากบรรดาแฟนเพลง ทำให้หายเหนื่อย และมีกำลังใจในการทำงานต่อไป เพื่อบรรดาแฟนเพลงและคนรอบข้าง"
แม้ว่านักร้องลูกทุ่งสาว "จินตหรา พูนลาภ" จะมีน้ำเสียงที่แหบพร่า แต่ก็ยังเป็นแหบมหาเสน่ห์ ขวัญใจประชาชนมานานนับสิบปี สาวจินเธอมีเคล็ด(ไม่) ลับ ในการเรียกพลังเสียงก่อนขึ้นคอนเสิร์ตทุกครั้งว่า
"ส้มตำค่ะ" ส้มตำเผ็ดๆ รสจัดๆ จะทำให้การร้องเพลงของเธอในแต่ละคืนมีเสียงที่ก้องกังวาล เพราะต้องร้องเพลงคืนละหลายสิบเพลง แถมยังไม่มีเว้นอีกต่างหาก โดยทีมงานในวงดนตรี จินตหรา พูนลาภ จะทราบกันว่า สิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับวงก็คือ อุปกรณ์ในการตำส้มตำ ไม่ว่าจะเป็น มะละกอ, ครก-สาก และเครื่องปรุงรส ต้องติดรถไปทุกครั้ง จะลืมอะไรก็ลืมได้ แต่ห้ามลืมสิ่งเหล่านี้เด็ดขาด
"หนูจิน" ยังแอบกระซิบมาด้วยว่า เสียงจะดีมากดีน้อย ขึ้นอยู่กับความเผ็ดของส้มตำ ถ้าเผ็ดมาก หลอดลมก็โล่ง ไม่มีอะไรติดขัด ส่วนการกินส้มตำ ต้องใช้วิธีมะรุมมะตุ้มกินกันทั้งวงเท่านั้น ถึงจะแซ่บอีหลี เด้อ...
เต่างอย - จินตหรา พูนลาภ
ในวงการสตริงมี "แมวเก้าชีวิต" อย่าง ดอน สอนระเบียบ ในวงการลูกทุ่งแมวเก้าชีวิตอีกคนคงต้องยกให้ จินตหรา พูนลาภ ที่ดังแล้วเงียบหายไป (จริงๆ เธอก็ไม่ได้หายไปเสียทีเดียว เพียงแต่ไม่ได้ออกอัลบั้มใหม่ และเดินสายแสดงโชว์ในต่างประเทศ) แล้วเธอก็กลับมาดังอีกรอบ ดังคำที่ว่า "แม่ก็คือแม่" ปัจจุบัน จินตหรา พูนลาภ ก็กำลังมีเพลงที่กำลังได้รับความนิยมคือ ฟ้าฮ้องบึ้ม เต่างอย น้ำตาย้อยโป๊ก และ พื้นที่ทับซ้อน ด้วยเป็นผู้มีน้ำเสียงไพเราะ กอปรกับมีลีลาการร้อง และลูกคอที่เป็นเอกลักษณ์ จึงได้รับสมญานามว่า “แหบเสน่ห์” และ “นักร้องสาวเสียงพิณ”
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)