foto1
foto1
foto1
foto1
foto1
ช่วงนี้อากาศแปรปรวนนะครับ ฤดูหนาวแต่ร้อน และมีฝนตกกระจายทั่วประเทศเลยทีเดียว และตอนนี้ก็ฤดูเก็บเกี่ยวของชาวนาซึ่งไม่ได้เก็บเกี่ยวด้วยมือแบบดั้งเดิมแล้ว แต่หันมาใช้รถเกี่ยวข้าวแทนซึ่งทำได้รวดเร็วกว่ามากๆ แต่ก็มีปัญหาตามมาคือข้าวเปลือกมันยังไม่แห้งเก็บเข้ายุ้งฉางไม่ได้ ต้องมีการตากแดดให้แห้งก่อนสัก 2-3 วัน พอมีฝนมาแบบนี้ก็แย่เลย บางรายก็เอาไปตากบนถนนหนทางซึ่งอันตรายมากๆ อย่าหาทำเด้อพี่น้อง มันผิดกฎหมาย...😭🙏😁

: Our Sponsor ::

adv200x300 2

: Facebook Likebox ::

: Administrator ::

mail webmaster

: My Web Site ::

krumontree200x75
easyhome banner
ppor 200x75
isangate net200x75

e mil

No. of Page View

paya supasit

ju juคันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า

        ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ##

song word

ารเรียนรู้ภาษาอีสานจากเพลง น่าจะเป็นหนทางที่ผู้เรียนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะได้ยินสำเนียงเสียงอีสานจากนักร้อง บางเพลงก็ยังเรียนรู้ความหมายของคำได้ จากละครในมิวสิกวีดิโอได้อีกด้วย ตามคำขอครับสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเพลงอีสานแต่ฟังแล้วเข้าใจความหมายได้ไม่หมด ก็ทำให้ความรู้สึกซาบซึ้งในดนตรีนั้นลดน้อยลง อยากจะทราบเนื้อหาเพลงใด ของนักร้องคนใด ก็บอกกันมาได้เลยครับ ส่งอีเมล์ไปที่ webmaster (@) isangate.com จะได้นำมาเสนอเป็นลำดับต่อไป ขอแจ้งให้ทราบว่า ผู้จัดทำไม่ได้มีความต้องการโปรโมทเพลงนักร้องคนใด ค่ายใดทั้งสิ้น เพลงที่ถูกคัดเลือกมานำเสนอ จะต้องมีภาษาอีสานแทรกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่แฟนเพลงบางท่านอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ฟังแล้วม่วนแต่บ่เข้าใจ จึงจะได้รับการคัดเลือกมาลงในหน้านี้ครับ

บ่ไปกรุงเทพฯ ได้บ่

ขับร้อง : เต๋า ภูศิลป์ 
คำร้อง/ทำนอง : ภานุวัฒน์ วิเศษวงษา 
เรียบเรียง : จินนี่ ภูไท 

                 สิไปอิหลี ซั่นบ้อ น้องหล่าคำแพง
                   (จะไปจริงๆ หรือน้องสาวที่รัก)
         คึดคักแล้วบ้อ แก้มแดง จั่งตัดสินใจ
          (คิดดีแล้วหรือน้องสาว จึงตัดสินใจ)
         อ้ายเคยได้ยิน พี่น้องบ้านเฮา เพิ่นเว้ามาหลาย
          (พี่เคยได้ยินมา พี่น้องบ้านเรา เขาพูดกันมาเยอะแล้ว)
         อยู่ยากกรุงเทพฯ บ่ม่วนดอกเมืองใหญ่
          (อยู่กรุงเทพฯ มันลำบาก ไม่สนุกหรอกเมืองใหญ่)
         ถ้าเป็นไปได้มีแต่อยากคืนเมือบ้าน
          (ถ้าป็นไปได้มีแต่อยากกลับคืนบ้านนา)

                 อิพ่ออิแม่ เจ้าเด้ ไผสิซอยเบิ่ง
                   (พ่อ-แม่ของน้องใครเล่าจะช่วยดูแล)
         พ่อใหญ่แม่ใหญ่ สิเพิ่ง สิใช้ไผ ลูกหลาน
          (ปู่ย่า-ตายายจะพึ่งพาผู้ใด เคยใช้แต่ลูกหลาน)
         บักน้อยอิน้อย ผู้ได๋สิเล่น เป็นหมู่มัน
          (หลานชายหลานสาวตัวน้อย ใครจะเล่นเป็นเพื่อน)
         หมูหมากาไก่ งัวควายซุมนั้น
          (อีกทั้งหมูหมากาไก่ วัวควายอีกนั่นล่ะ)
         คงคึดนำเจ้าคือกัน ย่านเมืองพาเจ้าหลงทาง
          (คงคิดถึงน้องเหมือนกัน กลัวน้องหลงทางในเมืองหลวง)

               ** บ่ไป บ่ไป บ่ไปได้บ่ บ่ไปกรุงเทพฯได้บ่
                     (ไม่ไป ไม่ไป ไม่ไปได้ไหม ไม่ไปกรุงเทพฯ ได้ไหม)
         อยู่บ้านเฮา กะสุข กะพอ กะมีซุอย่าง
          (อยู่บ้านเรา ก็สุขพอเพียง มีแล้วทุกอย่าง)
         บ่ไป บ่ไป บ่ไปได้บ่ กรุงเทพฯ มันฮ้อนคือจั่งหยัง
          (ไม่ไป ไม่ไป ไม่ไปได้ไหมกรุงเทพฯ มันร้อนมากนะ)
         อยู่บ้านเฮาเย็นส่วยส่วยเด้อนาง อ้ายสิพาไปนอนเล่นเถียงนาฮ่าง
          (อยู่บ้านเราอากาศแสนเย็นสบาย พี่จะพาน้องไปนอนเล่นที่เถียงนาราง)
         บ่ไปกรุงเทพฯได้บ่ ได้บ่ ได้บ่
          (ไม่ไปกรุงเทพฯ ได้ไหม ได้ไหม ได้ไหม)

                *** บ่คิดเบิ่งใหม่ แนตี้ คนดีคนฮู้
                   (ไม่คิดดูใหม่อีกหรือ คนน่ารักแสนดีของพี่)
         บ้านเฮากะพอ หากิน หาอยู่ ได้อยู่น๊า
          (บ้านนาเราก็พอหาอยู่หากิน หาใช้กันได้อยู่นะ)
         งานการถ้าเฮาขยัน คงบ่ อดตายดอกอ้ายว่า
          (การงานถ้าเราขยัน ก็คงมีกินไม่อดตายดอกนะพี่ว่า)
         แนวอยากแนวกิน กะเก็บผักเก็บหญ้า
          (อาหารการกิน ก็เก็บผักเก็บหญ้า)
         ป่นปูป่นปลา กะแซบเติบอยู่เด้นาง
          (ป่นปูปลา ก็พอหาได้อร่อยอยู่นะน้องจ๋า)

(ซ้ำ **, *** )

มีคำภาษาอีสานที่น่าสนใจหลายแฮงคักเด้อพี่น้อง ดังนี้

สิไป = จะไป
น้องหล้า = น้องรัก
แล้วบ้อ = แล้วหรือ
เฮา = เรา
อยู่ยาก = อยู่ยากลำบาก
อิพ่ออิแม่ = พ่อ-แม่
สิเพิ่ง = จะพึ่งพา
ผู้ได๋ = ใคร
คึดนำ = คิดถึง
ได้บ่ = ได้ไหม
จั่งหยัง = มากจริงนะ
เบิ่ง = ดู

อิหลี = จริงๆ
คำแพง = สุดที่รัก
จั่ง = จึง
เพิ่น = เขา (บุคคลอื่น)
บ่ม่วน = ไม่สนุก
ไผ = ใคร
บักน้อย = หลานชาย
หมู่ = เพื่อน
ย่าน = กลัว (ย้าน)
กะมีซุอย่าง = ก็มีทุกอย่าง
ส่วยส่วย = มีลมพัดเบาๆ
ฮู้ = รู้

ซั่นบ้อ = จริงรึ
คึดคัก = คิดดี
อ้าย = พี่ชาย
เว้า = พูด
คืนเมือ = ย้อนกลับ
สิซอยเบิ่ง = จะคอยดูแล
อิน้อย = หลานสาว
ซุมนั้น = พวกนั้น
บ่ไป = ไม่ไป
ฮ้อน = ร้อน
ฮ่าง = ร้าง
กะแซบเติบ = ก็อร่อยมาก

"บ่ไปกรุงเทพฯ ได้บ่" เพลงรักของหนุ่มบ้านนา ที่อ้อนขอร้องไม่ให้สาวคนรักจากบ้านนาไปทำงานอยู่กรุงเทพฯ ขับร้องโดย เต๋า ภูศิลป์ แม้จะออดอ้อนให้เหตุผลร้อยแปดพันอย่างก็ยากที่จะห้ามสาวเจ้าไว้ได้ การร่ำลือในหนัง ในละครโทรทัศน์ ที่บอกเมืองกรุงมันศิวิไลซ์ทำให้สาวเจ้าใฝ่ฝัน อีกทั้งยามที่เพื่อนคนอื่นๆ กลับมาจากกรุงเทพฯ ตอนเมษายน สงกรานต์มาทำบุญทอดผ้าป่าที่บ้านนอกนั้น ต่างก็แต่งตัวสะสวยจนทำให้ใจสาวไขว้เขวอยากมีเช่นนั้นบ้าง ขอไปลองสักหน่อยเถอะพี่นะ

tao pusilp

พยาธิโควิดมันหลายปานนี้บ่ย้านบ่น้อ เห็นคนบ้านเฮาไปลำบากอยู่กรุงเทพฯ โควิดระบาดปิดโรงงาน ปิดตลาด ปิดแคมป์คนงาน พากันหนีตายมาบ้าน สิทุกข์ยากปานใด๋กะหนีบ่ม้มบ้านเฮาดอก พ่อ-แม่ ปู่ย่า ตายาย หลานน้อยๆ ยังคอยเจ้าอยู่เสมอเด้อนางเอย...

redline

backled1

song word

ารเรียนรู้ภาษาอีสานจากเพลง น่าจะเป็นหนทางที่ผู้เรียนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะได้ยินสำเนียงเสียงอีสานจากนักร้อง บางเพลงก็ยังเรียนรู้ความหมายของคำได้ จากละครในมิวสิกวีดิโอได้อีกด้วย ตามคำขอครับสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเพลงอีสานแต่ฟังแล้วเข้าใจความหมายได้ไม่หมด ก็ทำให้ความรู้สึกซาบซึ้งในดนตรีนั้นลดน้อยลง อยากจะทราบเนื้อหาเพลงใด ของนักร้องคนใด ก็บอกกันมาได้เลยครับ ส่งอีเมล์ไปที่ webmaster (@) isangate.com จะได้นำมาเสนอเป็นลำดับต่อไป ขอแจ้งให้ทราบว่า ผู้จัดทำไม่ได้มีความต้องการโปรโมทเพลงนักร้องคนใด ค่ายใดทั้งสิ้น เพลงที่ถูกคัดเลือกมานำเสนอ จะต้องมีภาษาอีสานแทรกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่แฟนเพลงบางท่านอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ฟังแล้วม่วนแต่บ่เข้าใจ จึงจะได้รับการคัดเลือกมาลงในหน้านี้ครับ

 

งิ้วต่องต้อนฮำฮอนผู้บ่าวเก่า

ขับร้อง : เวียง นฤมล 
คำร้อง/ทำนอง : ดอย อินทนนท์ 
เรียบเรียง : สวัสดิ์ สารคาม 

 

(เกริ่น) ยาอ้ายเอย… อ้ายผู้เคยเป็นแฟนเค้า ในนามของผู้บ่าวเก่า
(พี่ชายเอย พี่ผู้เป็นแฟนคนแรก ในนามของแฟนเก่า)
เคยเป็นเงาใจน้องเมื่อก่อน... หนีไปอักกินซี้นต่อน
(เคยเป็นเงาใจของน้องเมื่อครั้งก่อน หนีแอบไปรักชอบคนใหม่)
ปะให้น้องต่องต้อนให้นอนเศร้าอยู่เป่าดาย
(ทิ้งน้องให้เคว้งคว้างนอนเศร้าเดียวดาย)
หลาบหล่ายท้ายค่องย่องมองเพลิน
(ท่วงท่าทางการเดินของพี่นี้ชวนมอง)
นางอยากเซิญไปก้ำ ร้อยเอ็ดคำบ้านอีแม่ เพื่อเซอร์ไพร์ส
(น้องอยากเชิญพี่ไปบ้านแม่ที่ร้อยเอ็ดให้ได้ตื่นเต้น)
แม่นย้อนอดีตเก่าได้ หละดังแม้ง สาวใดมาแย่งกะสิบ่ยอม
(ถ้าย้อนอดีตได้ แม้สาวใดมาแย่งพี่น้องก็คงไม่ยอม)
เสียทองคำก้อนถ่อบาตรหม่อม สิบ่ยอมเสียอ้าย ให้สาวอื่น
(เสียทองเท่าหัวก็ไม่ยอมเสียพี่ไปให้สาวอื่น)

พบหน้าแฟนเก่าแล้วเป็นเหงาๆ ในใจทุกที
(พบหน้าแฟนเก่าแล้วเป็นเหงาๆ ในใจทุกที)
บ่ทราบเขามีหยังดี หลายปีแล้วแหมะ แต่ลืมบ่ได้
(ไม่ทราบเขามีอะไรดีหลายปีแล้วยังลืมไม่ได้)
ก็รู้เต็มอกเขาตกเป็นของผู้สาวคนไค
(รู้อยู่เต็มอกเขาตกเป็นของสาวอื่น)
เสน่ห์เธอแรงเราแข่งบ่ไหว แฟนเราเลยกลายไปเป็นของเขา
(เสน่ห์เขาแรงเราแข่งไม่ไหว แฟนเราเลยกลายไปเป็นของเขา)

ย้อนรอยอดีตจิตใจมันหลอน ฮำเอ๋ย ฮำฮอน ผู้บ่าวเก่า
(ย้อนรอยอดีตจิตใจมันหลอน ใจรอนๆถึงแฟนเก่า)
ปีเดือนเคลื่อนกาลเติมตื่ม บ่ลืมแฟนกกแฟนเค้า
(ปีเดือนเคลื่อนผ่านยังคอยย้ำให้ไม่ลืมแฟนคนแรก)
บังเอิญเจอเขาเราทรงขวยเขิน หัวใจสะเทิ้น สะอื้น… สะออน
(บังเอิญกลับมาเจอกันอีกทำให้เราขวยเขินสะเทิ้นอาย)

งิ้วต่องต้อนหละฮอนฮำลำพัง งิ้วต่องต้อนหละฮอนฮำลำพัง
(เหมือนฝักนุ่นที่ห้อยแกว่งไกวบนต้นอยู่เพียงลำพัง)
คนเคยมีความหลัง พบกันแล้วมันซึ้ง มันซึ้ง หละมันซ่าน
(คนเคยมีความหลัง พบกันแล้วมันซึ้ง มันซ่าน)
ว่านั่นเดอ เวอร์ชั่นก่อน หละตอนที่เฮาฮ่วมฝัน ฮ่วมฝั่นเซือกสวาทหวานๆ หวานแว๋ว
(นึกถึงคราวก่อนที่เราร่วมฝันพันเกลียวสวาทหวาน)
แต่แล้วกะหวานเหว่อ เอยหวานเหว่อ เอยหวานเหว่อ
(แต่แล้วก็หว่านเลี่ยนคนเดียวจนเก้อ)
ยามพี่เจอสาวส่า อ้ายหายเข้าขี้ฟ้ายังมาพ้อพบเจอ ว่าลืมได้แล้วเดอ ยังสิมาเผลอใจอ่อน
(ยามพี่เจอคนสวยกว่าแล้วหลีกหนีหายเข้ากลีบเมฆ คิดว่าลืมได้แล้วแต่เมื่อมาเจอกลับใจอ่อน)

เป็นทรงเขินๆ เมื่อเจอแฟนเก่า เป็นทรงเหงาๆ เมื่อเขาลาจร
(ดูท่าเขินๆ เมือเจอแฟนเก่า เป็นเหงาๆ เมื่อเขาจากจร)
คะนึงเป็นนิจติดตามอ้อนต้อน อ้อนต้อนแถมยังต่องต้อน
(คะนึงหาตามติดไม่คิดจะจาก แม้จะเปลี่ยวใจ)
หัวใจอาทร ฮำฮอนผู้บ่าวเก่า
(หัวใจถวิลหาอาทร คิดถึงแฟนเก่า)
คึดฮอดบ่เซา เพราะเขาสำคัญในคืนวันก่อน
(คิดถึงไม่หยุดเพราะความสัมพันธ์ในวันเก่าก่อน)

งิ้วต่องต้อนหละห้อยอยู่แป๋ปลาย งิ้วต่องต้อนหละห้อยอยู่แป๋ปลาย
(ฝักงิ้ว(นุ่น)ห้อยอยู่บนปลายกิ่งสูงลิบลิ่ว)
อ้ายถิ่มป๋าลาไล หาใหม่เฮียงเคียงซ้อน เคียงซ้อน เอ้ยเซยซ้อน
(พี่ทิ้งไปไม่ใยดีหาสาวใหม่มาเคียงข้าง แอบอิง)
วานั่นเดอ ว่านั่นเดอ หละเจออ้ายคนเคยอ้อน เคยอ้อน เคยมาป้อนคำหวาน
(ก็นี่แหละเพราะว่าเจอคนเคยอ้อน เคยป้อนคำหวาน)
หวานๆ ปานเจอด้นฟืนเก่า โอ้ยด้นเก่า ในคิงไฟเก่า ฮักเขาอยู่ฮอนๆ
(ปานฟืนเจอถ่านไฟเก่า เตาเก่า รักเขาอยู่ร่ำไป)
น้องฮำฮอนบ่แล้ว ใจติดแฮ้วบ่าวพี่ชาย คบกับไผกะเลิกง่ายๆ แต่กับอ้ายตัดใจยากเด
(น้องคิดถึงไม่เลิกราดังติดบ่วงรักพี่ชาย คบกับใครก็เลิกง่ายๆ แต่กับพี่ชายคนนี้ตัดใจไม่ได้เลย)

 

มีคำภาษาอีสานที่น่าสนใจหลายแฮงคักเด้อพี่น้อง ดังนี้

ยาอ้าย = พี่ชาย (ให้เกียรติมาก)
อักกิน = แอบ, ซ่อนกิน
ต่องต้อน = ลักษณะห้อยปลิวตามลม
ท้ายค่องย่อง = บั้นท้ายงาม
กะสิ = ก็จะ
มีหยังดี = มีอะไรดี
ฮำฮอน = คิดถึง, คำนึงไม่ลืม
สะออน = ชอบ. พอใจ, ติดใจ
เฮา = เราสอง
ขี้ฟ้า = ก้อนเมฆ
คึดฮอด = คิดถึง
ถิ่มป๋าลาไล = ทอดทิ้งไม่ใยดี
คิงไฟ = เตาไฟ
เค้า = แรก, ดั้งเดิม
ซี้นต่อน = ก้อนเนื้อ (สาวใหม่)
เป่าดาย = เดียวดาย
ไปก้ำ = ไปทาง..
ถ่อ = เท่า.
แล้วแหมะ = แล้วหนา
ตื่ม = เพิ่ม, ทวีคูณ
งิ้ว = ต้นนุ่น, ฝักนุ่น
ฮ่วมฝัน = ร่วมฝัน
พ้อ = พบ
บ่เซา = ไม่หยุด
เฮียง = เรียง
แฮ้ว = แร้ว, บ่วงดักสัตว์
ผู้บ่าว = แฟนชาย
ปะ = ทอดทิ้ง (ป๋า ก็ว่า)
หลาบหล่าย = เดินเยื้องย่าง
หละดังแม้ง = ดังใจนึก
หม่อม = หัว
คนไค = คนสวย
แฟนกกแฟนเค้า = แฟนคนแรก
ว่านั่นเดอ = ว่าแล้ว
หวานเหว่อ = หวานเกิน
อ้อนต้อน = ติดตามไม่ห่าง
แป๋ปลาย = ใกล้ปลายสุด (ของกิ่ง)
ด้นฟืนเก่า = ดุ้นฟืนเก่า
ไผ = ใคร, คนอื่น

 

 

กลอนลำหรือบทเพลงนี้เป็นทำนองลำอีสานทำนองหนึ่ง คือ ลำงิ้วต่องต้อน ที่หาคนลำได้ยากมากในปัจจุบัน ถ้าคนรุ่นอาวทิดหมูกะคือสิจำกันได้กับกลอนฮิตติดปาก ติดหูเมื่อ 22 ปีที่แล้ว จาก ศิลปินแห่งชาติปี 2556 หมอลำบานเย็น รากแก่น เคยลำกลอนที่ชื่อว่า "งิ้วต่องต้อนอ้อนผู้บ่าว" ที่ประสบผลสำเร็จอย่างมาก และก็ยังไม่มีใครแต่งกลอนและทำนองลำแบบนี้มาเผยแพร่อีก

ngiew tong ton

จนกระทั่งวันนี้ อาจารย์ดอย อินทนนท์ ได้เขียนกลอนขึ้นมาใหม่ ซึ่งเป็นภาคต่อจากกลอนลำที่หมอลำบานเย็นเคยลำไว้ ให้ชื่อกลอนว่า "งิ้วต่องต้อนฮำฮอนผู้บ่าวเก่า" โดยมอบให้นักร้องสาวที่ชื่อ เวียง นฤมล มาขับร้อง จะสู้กับแม่บานเย็นได้ไหม ลองฟังดู แต่อาวทิดหมูว่าเป็นไปได้ที่จะประสบผลสำเร็จ เพราะว่า เวียง นฤมล ก็ศิษย์มีครู ได้รับการถ่ายทอดการลำมาจาก ศิลปินแห่งชาติปี 2536 แม่ฉวีวรรณ ดำเนิน และเธอยังเป็นคนร้อยเอ็ด ร่ำเรียนจบมาจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ร้อยเอ็ด ซึ่งใน Music Video เพลงนี้ก็ได้นำชุดผ้าไหมชาวร้อยเอ็ดมาสวมใส่ รำประกอบด้วย ให้พี่น้องได้ตัดสินใจกันเองครับ

redline

backled1

song word

ารเรียนรู้ภาษาอีสานจากเพลง น่าจะเป็นหนทางที่ผู้เรียนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะได้ยินสำเนียงเสียงอีสานจากนักร้อง บางเพลงก็ยังเรียนรู้ความหมายของคำได้ จากละครในมิวสิกวีดิโอได้อีกด้วย ตามคำขอครับสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเพลงอีสานแต่ฟังแล้วเข้าใจความหมายได้ไม่หมด ก็ทำให้ความรู้สึกซาบซึ้งในดนตรีนั้นลดน้อยลง อยากจะทราบเนื้อหาเพลงใด ของนักร้องคนใด ก็บอกกันมาได้เลยครับ ส่งอีเมล์ไปที่ webmaster (@) isangate.com จะได้นำมาเสนอเป็นลำดับต่อไป ขอแจ้งให้ทราบว่า ผู้จัดทำไม่ได้มีความต้องการโปรโมทเพลงนักร้องคนใด ค่ายใดทั้งสิ้น เพลงที่ถูกคัดเลือกมานำเสนอ จะต้องมีภาษาอีสานแทรกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่แฟนเพลงบางท่านอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ฟังแล้วม่วนแต่บ่เข้าใจ จึงจะได้รับการคัดเลือกมาลงในหน้านี้ครับ

 

กูเป็นมาเบิดเเล้ว

ศิลปิน : น้ำแข็ง ทิพวรรณ  
คำร้อง/ทำนอง : น้ำแข็ง ทิพวรรณ  
เรียบเรียง : น้ำไวน์ ล้อมเดช  

 

                กะผ่านอีหยังมาหลายแล้ว
               
(ก็ผ่านเหตุการณ์อะไรๆ มามากแล้ว)
         กะพ้อมาเบิดสุแนวแล้วบ่แม่นบ้อ
          (ก็พบมาแล้วทุกอย่างแล้วใช่ไหม)
         ทั้งเจ้าชู้ทั้งหลายใจ เฮ็ดมึงไห้เสียใจน้ำตาคลอ
          (ทั้งเจ้าชู้ทั้งหลายใจ ทำให้แกน้ำตาคลอ)
         มึงสิทนต่อไปสั่นบ้อ คำหมู่เว้ามา
        
(แกจะทนต่อไปอย่างนั้นหรือ กับคำที่พวกเขาพูดมา)

             * กะเลยว่าคำว่าฮัก มันยอมทุกอย่างอีหลีละสู
                 (ก็เพราะคำว่ารัก มันถึงยอมทุกอย่างจริงๆ ใช่ไหม)
         สูบ่ได้เป็นกู สูบ่ฮู้ดอก เอาจั่งซี้กูสิเว้าสูฟัง
        
(ก็แกไม่ได้เป็นฉัน แกไม่รู้หรอก เอายังงี้ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง)
         ว่าเป็นหยังกูคือฮัก ทั้งๆ ที่เขาหลายใจ
          (ว่าทำไมฉันยังรัก ทั้งๆ ที่เขาหลายใจ)
         เป็นหยังกูคือทนเขาได้ มันเป็นแบบนี้
        
(ทำไมฉันถึงทนเขาได้ มันเป็นอย่างนี้)

           ** กะกูเป็นมาเบิดแล้ว คนโง่ คนซั่ว คนบ่ถืกฮัก
                (ก็ฉันเป็นมาหมดแล้ว คนโง่ คนชั่ว คนไม่ถูกรัก)
         คนถืกถิ่มถืกป๋า ถืกปล่อยให้มีน้ำตา
          (คนถูกทอดทิ้ง ถูกปล่อยให้มีน้ำตา)
         โง่คือควาย ปึกคือหมา กูเป็นมาเบิดแล้ว
          (โง่เหมือนควาย  โง่ทึบเหมือนหมา ฉันก็เป็นมาหมดแล้ว)
         สิปึก อีกสิโง่ อีกสิเป็นหยัง
          (จะทึบ จะโง่ อีกทีจะเป็นไร)
         กะฮักเขาหลายป่านนั่น สิให้เฮ็ดจั่งใด๋
          (ก็รักเขามากมายปานนั้น จะให้ทำอย่างไร)
         กะย้อนว่าฮักเขาหลาย จั่งใด๋กะยอม
        
(ก็เพราะรักเขามากมาย จะอย่างไรก็ยอมทน)

                  (ซ้ำ *, ** )

 

มีคำภาษาอีสานที่น่าสนใจดังนี้

กะ = ก็
เบิด = หมด, ทั้งหมด
แม่นบ้อ = ใช่ไหม
สั่นบ้อ = อย่างนั้นหรือ
ฮัก = รัก, ความรัก
กู = ฉัน (สรรพนามบุรุษที่ 1)
เป็นหยัง = ทำไม, เป็นอะไร
ถิ่ม, ป๋า = ทอดทิ้ง
ย้อนว่า = เพราะว่า
อีหยัง = อะไร
สุแนว = ทุกอย่าง
เฮ็ด = ทำ, กระทำ
หมู่ = เพื่อน (หลายคน)
อีหลี = จริงๆ
ฮู้ = รู้, รู้จัก
ซั่ว = ชั่ว
ปึก = โง่, ทึบ
พ้อ = พบ, เจอ
บ่ = ไม่
มึง = แก (สรรพนามบุรุษที่ 2)
เว้า = พูด
สู = แก (หลายคน สรรพนามบุรุษที่ 2)
จั่งซี้ = อย่างนี้
ถืก = ถูก
จั่งใด่ = อย่างไร

 

 

namkaeng 01

ปรากฏการณ์เพลงอินดี้ที่มีการนำมาร้อง Cover กันมากมายเป็นประวัติการณ์ "กูเป็นมาเบิดแล้ว" โดยศิลปินน้องใหม่ น้ำแข็ง ทิพวรรณ ที่แต่งเองร้องเอง เนื้อเพลงกล่าวถึงสาวอกหักที่ประสบกับเรื่องราวต่างๆ มากมาย ตั้งแต่หลงรักเขาหัวปักหัวปำ กลายเป็นคนโง่ที่ถูกเขาหลอกมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ยอมเพราะความรักจริง โอย!... เป็นตาหลูโตนน้อ มาฮักอาวทิดหมูคนหัวใจเดียวดีกว่าน้อ บ่มีผิดหวังแน่นอน

redline

backled1

 

song word

ารเรียนรู้ภาษาอีสานจากเพลง น่าจะเป็นหนทางที่ผู้เรียนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะได้ยินสำเนียงเสียงอีสานจากนักร้อง บางเพลงก็ยังเรียนรู้ความหมายของคำได้ จากละครในมิวสิกวีดิโอได้อีกด้วย ตามคำขอครับสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเพลงอีสานแต่ฟังแล้วเข้าใจความหมายได้ไม่หมด ก็ทำให้ความรู้สึกซาบซึ้งในดนตรีนั้นลดน้อยลง อยากจะทราบเนื้อหาเพลงใด ของนักร้องคนใด ก็บอกกันมาได้เลยครับ ส่งอีเมล์ไปที่ webmaster (@) isangate.com จะได้นำมาเสนอเป็นลำดับต่อไป ขอแจ้งให้ทราบว่า ผู้จัดทำไม่ได้มีความต้องการโปรโมทเพลงนักร้องคนใด ค่ายใดทั้งสิ้น เพลงที่ถูกคัดเลือกมานำเสนอ จะต้องมีภาษาอีสานแทรกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่แฟนเพลงบางท่านอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ฟังแล้วม่วนแต่บ่เข้าใจ จึงจะได้รับการคัดเลือกมาลงในหน้านี้ครับ

 

ผู้สาวน้อย

ศิลปิน : กระต่าย พรรณิภา  
คำร้อง/ทำนอง จินนี่ ภูไท  
เรียบเรียง : จินนี่ ภูไท  

 

                จั่งแม่นโพดแม่นโพบักโมบักแตง
               
(ช่างเกินเลยมากมายไปหน่อย)
          จั่งแม่นว่าฮักอ้ายแฮงแท้หนอหัวใจ
           (ช่างหลงรักพี่มากมายจริงนะหัวใจ)
          คนโสดๆ กะมี แต่บ่คืออ้าย
           (คนโสดๆ ก็มี แต่ไม่เหมือนพี่)
          ถืกสเปคน้องหลายแต่อ้ายผัดมีเขา
         
(ถูกใจน้องไปหมดแต่พี่เริ่มมีสาวอื่น)

                แต่กะบ่เป็นหยังขอเว้าแปนๆ
                  (แต่ก็ไม่เป็นไรนะ ขอบอกตรงๆ)
          เขาบ่ทันสวมแหวนผูกแขนป้อนไข่
           (ก็เขายังไม่ได้สวมแหวน เข้าพิธีสู่ขวัญสักหน่อย)
          บ่ได้จดทะเบียนเป็นสามีไผ
           (ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นสามีใคร)
          น้องเข้าใจ ถืกอยู่แม่นบ่..
         
(น้องเข้าใจถูกแล้วใช่ไหมล่ะ)

             * อ้ายกะเป็นผู้บ่าวเขา เขากะเป็นผู้สาวอ้าย
                 (พี่ก็เป็นแค่คนรักเขา เขาก็เป็นแค่คนรู้ใจพี่)
         ยังบ่ทันได้แต่งงานกัน..
          (ยังไม่ได้แต่งงานกันสักหน่อย)
         สิถ่าอ้ายอยู่ตรงนี้ แม่นสิบ่ถึงฝั่งฝัน
          (จะรอพี่อยู่ตรงนี้ ถึงจะยังไม่ถึงที่ฝัน)
         จั่งใด๋น้องกะเป็นผู้สาวอ้าย..
        
(อย่างไรน้องก็เป็นคน(แอบ)รักพี่)

           ** เป็นแค่ผู้สาวน้อย บ่แม่นเมียน้อย
                (เป็นแค่ผู้สาวน้อยที่แอบรัก ไม่ใช่เมียน้อย)
         ความผิดเล็กน้อย บาปแหน่แต่กะบ่หลาย
          (ความผิดเล็กน้อย บาปนิดหน่อยเองนะ)
         เฮ็ดจั่งใด๋ มันฮักเบิดใจ ยังยั้งไว้บ่อยู่
          (ทำอย่างไรมันรักหมดใจยั้งไว้ไม่อยู่)
         เป็นแค่ผู้สาวน้อย บ่แม่นเมียน้อย
          (เป็นแค่ผู้สาวน้อย ไม่ใช่เมียน้อย)
         สิได้เป็นผู้สาวอ้าย แท้บ่บุ
          (จะได้เป็นคนรักพี่ หรือไม่นะ)
         คั่นหลูโตนกะทักมาดู๊ดู่ ให้ฮู้ว่าพอสิมีหวัง
        
(ถ้าสงสารก็ลองทักมาบ่อยๆ ให้รู้ว่ายังพอมีหวัง)

              จั่งแม่นโพดแม่นโพบักโมบักแตง
               (ช่างเกินเลยมากมายไปหน่อย)
         จั่งแม่นว่าฮักเขาแฮงแท้หนอหัวใจ
          (ช่างหลงรักพี่มากมายแท้นะหัวใจ)
         คนโสดๆ กะมี ชี้เอาซะซาย
         (คนโสดๆ ก็มี ชี้เอาได้ทั่วไป)
         แต่กะบ่ม้มอ้าย ตัดใจบ่ลง
        
(แต่ก็ไม่พ้นไปจากพี่ ตัดใจไม่ลง)

               (ซ้ำ *, ** ดนตรี **, **)

         คั่นหลูโตนกะทักมาดู๊ดู่ ให้ฮู้ว่าพอสิมีหวัง

 

มีคำภาษาอีสานที่น่าสนใจดังนี้

จั่งแม่น = ช่าง
ฮัก = รัก, ความรัก
ถืก = ถูก, ตรง
เว้า = พูด
สิถ่า = จะรอ
แหน่ = นิดหน่อย
สิ = จะ
ดู๊ดู่ = บ่อยๆ
บ่ม้ม = ไม่พ้น
โพดโพ = เกินเลย, มากมาย
แฮง = แรง, มาก, อย่างแรง
ผัดมี = เริ่มมี
แปนๆ = เปิดกว้าง, เปิดอก
จั่งใด๋ = อย่างไร
เฮ็ด = ทำ
บ่บุ = หรือไม่
ฮู้ว่า = รู้ว่า
อ้าย = พี่ชาย
บ่คือ = ไม่เหมือน
กะบ่เป็นหยัง = ก็ไม่เป็นไร
ไผ = ใคร
บ่แม่น = ไม่ใช่
เบิดใจ = หมดใจ
คั่นหลูโตน = ถ้าสงสาร
ซะซาย = มากมาย, มั่วๆ

 

 

kratai 01

เพลงน่ารักๆ "ผู้สาวน้อย" ของ กระต่าย พรรณิภา เรื่องรักของสาวรุ่นวัยกระเตาะ ที่สะดุดตากับหนุ่มในวัยใกล้เคียงกัน แต่ไอ้หนุ่มนั้นก็มีสาวๆ เข้ามาติดพันเยอะ แต่ไม่เป็นไรในเมื่อทุกคนยังไม่ได้ตัดสินใจสวมแหวนแต่งงาน จดทะเบียนประกาศเป็นเมียผัว เราสาวน้อยๆ น่ารักก็ยังพอมีหวังชนะใจได้เสมอ โอย!... กะจักสิไปหลงใหลเขาเฮ็ดหยัง อาวทิดหมู อยู่ผู้เดียวบ่ทันมีไผหมั้นหมาย หันเหใจมาทางนี้เด้ออีหล้านางเอย...

 

redline

backled1

 

isan word tip

isangate net 345x250

ppor blog 345x250

adv 345x200 1

นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)