คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
นายบุญเหล็ง สายแวว เกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2493 ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ที่ 16 บ้านหัวเรือ ตำบลหัวเรือ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี
ชีวิตในวัยเด็กมีวิถีชีวิตแบบคนชนบทภาคอีสานทั่วไป บิดาเสียชีวิตตั้งแต่เด็ก ทำให้ต้องเป็นคนที่ต้องทำงานหนัก เพื่อแบ่งเบาภาระของแม่ ในการทำนา ปลูกพืช ผัก เลี้ยงวัว ควาย ในท้องไร่ท้องนา ทำให้ชีวิตมีความผูกพันกับการทำการเกษตร จนเกิดความรักในวิถีชีวิตที่ทำการเกษตรแบบอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติมาตั้งแต่เด็ก
"บุญเหล็ง" เล่าย้อนว่า ประสบการณ์ชีวิตผ่านสิ่งต่างๆ มากมาย ทั้งบรรพชาสามเณร เกณฑ์ทหาร เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นสารวัตรกำนัน โดยเหล่านี้ทำควบคู่กับอาชีพเกษตรกรรม โดยปรับปรุงพื้นที่ใกล้บ้านพักจำนวน 16 ไร่ ทำเกษตรแบบเศรษฐกิจพอเพียงเมื่อปี 2516
การแบ่งพื้นที่ 16 ไร่ จะแยกเป็นด้านปศุสัตว์เลี้ยงวัว 5 ตัว กระบือ 2 ตัว เลี้ยงไก่ สุกร ด้านประมง เลี้ยงปลาดุก ปลาไน เลี้ยงกบ ด้านเกษตร ทำนา 5 ไร่ ปลูกข้าวเหนียว ข้าวเจ้า นอกนั้นจะปลูกพืชสมุนไพร เช่น ข่า ตะไคร้ บอระเพ็ด ไม้ผลและพืชผักสวนครัว เช่น มะม่วง มะพร้าว มะขาม มะยม ชมพู่ ลำไย มะกอกน้ำ ไผ่ กล้วย มะละกอ อ้อย บวบ ตามแนวราบบนพื้นดิน มะระ พริก หอม มะเขือ มะเขือเทศ ข้าวโพด ผักบุ้ง แตงร้าน ถั่วฟักยาว ฟักทอง ฟักแฟง แก้วมังกร มะนาว และอื่นๆ โดยมีแนวคิดว่า “ปลูกทุกอย่างที่กิน แต่อย่ากินทุกอย่างที่ปลูก”
ถ้าเราปลูกพืชผักสวนครัว เลี้ยงสัตว์ ทุกอย่างทุกชนิด ที่สามารถรับประทานได้ จะทำให้เราลดค่าใช้จ่ายของครอบครัวแต่ละวันลงได้ เป็นการประหยัด อดออม เมื่อผลผลิตมีจำนวนมากก็นำไปขาย ได้เงินมาจุนเจือครอบครัว หลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วเงินเหลือก็ออมไว้สำหรับเป็นทุนเพื่อใช้จ่ายในอนาคต
ผลผลิตบางส่วนที่มีเหลือก็แบ่งปันให้ญาติมิตร หรือผู้ใกล้ชิดโดยไม่คิดมูลค่า ซึ่งจะได้น้ำใจจากญาติมิตรอีกทางหนึ่งด้วย ส่วนใบไม้ หญ้าก็ทำเป็นปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด เพื่อใช้บำรุงดินเป็นการลดต้นทุนการผลิตได้มาก ผลผลิตจากสวนทั้งหมดล้วนปลอดสารพิษ ผู้บริโภคสบายใจไร้กังวล ส่วนในเรื่องรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตอย่างน้อยมีรายได้วันละ 500 บาท
เลี้ยงโคพันธุ์พื้นเมือง จำนวน 11 ตัว พันธุ์ลูกผสมบราห์มัน - พื้นเมือง ในเนื้อที่ 50 ไร่เลี้ยงแบบปล่อยในแปลงหญ้าธรรมชาติ และมีโรงเรือนพร้อมรางอาหารหยาบอยู่ในบริเวณเดียวกัน ตัดหญ้าสดเป็นอาหารโคในตอนเย็น ซึ่งเป็นพันธุ์ที่เลี้ยงง่าย แข็งแรง และจำหน่ายได้ราคาดีกว่าโคพันธุ์พื้นเมือง เป็นฟาร์มศูนย์สาธิตการเกษตรเพื่อเพิ่มพูนผลผลิตทางการเกษตร ได้รับคัดเลือกเป็นฟาร์มต้นแบบโคเนื้อ ตามโครงการพัฒนาอาชีพเกษตรกรในพื้นที่ปรับปรุงระบบชลประทาน ปี 2549 ของกรมปศุสัตว์
การเกษตรปลูกพริก ผักปลอดสารพิษ โดยปลูกพริกพันธุ์หัวเรือเป็นหลัก ป้องกันโรคเพลี้ยไฟ ช่วงก่อนติดดอก ด้วยการใช้สูตรสมุนไพร เช่น สะเดา ยาฉุน ผสมกำมะถัน เก็บผลิตผลได้สูงสุด 2,500 – 3,000 กิโลกรัม/ไร่ ผลิตเมล็ดพริกพันธุ์หัวเรือแท้ เพื่อจำหน่าย ปริมาณการผลิตปีละ 30 กิโลกรัม จำหน่ายกิโลกรัมละ 1,500 บาท มีผู้มาศึกษาดูงาน รับการถ่ายทอดความรู้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 จนถึงปัจจุบัน เกี่ยวกับการทำไร่นาสวนผสม การเพาะกล้าพริกพันธุ์หัวเรือ
ไร่นาสวนผสม จำนวน 16 ไร่ เลี้ยงปลานิล ปลาตะเพียน ปลาไน ปลาดุก ปลาช่อน ในนาข้าว ไร่นาสวนผสม ผักสวนครัว บวบ แก้วมังกร มะละกอพันธุ์สายแวว โหระพา มะเขือลาย มะพร้าวน้ำหอม หน่อไม้สร้างไพ
ทำการเกษตร ไม่หลอกตัวเอง ไม่ทิ้งตัวเอง ขยัน หมั่นเพียร มีรายได้ จาก
รู้จักแบ่งปัน เอื้ออาทรรู้เหตุในการดำรงชีวิต รู้ตน รู้ประมาณ รู้รักสามัคคีไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน
มีข้าวกิน มีดินอยู่ มีคู่นอนมีเงินคำไว้ใช้ มีบ้านหลังใหญ่ปูกระดาน ยามชรามีลูกหลานนั่งเฝ้า"
อยู่ดีมีแฮง : พ่อบุญเหล็ง สายแวว
อด อัด อุด บริสุทธิ์ในธรรม "
อด หมายถึง อดทนทุกอย่าง เช่น พ่อ แม่ เพื่อนฝูง ครูบาอาจารย์ หรือเรายังไม่มีเงิน ที่อยู่อาศัย เราจะต้องอดทน (อย่าย่างก่อนเกิด อย่าสะเดิดก่อนตาย)
อัด หมายถึง เรากินเราจ่ายหมด 100 บาท ก็หามาอัดไว้ก่อน 150 บาท
อุด หมายถึง หาวิธีการหาเงินวางแผน เงินวัน เงินเดือน เงินปี มาอุดรูรั่วจากค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ประกอบไปด้วยสำนึกในคุณธรรมอันบริสุทธิ์ มีสติ
ดูประวัติ ผลงานพ่อเหล็งมามากมายแล้ว อาจจะสับสนว่า เอ.. เขาไม่เหมือนใครยังไงกัน อยากกระซิบบอกให้ว่าท่ามกลางสวนพริก แปลงผักที่อยู่รายล้อมตัวนายบุญเหล็งน่ะ ทั้งปุ๋ยเคมี ทั้งยากำจัดศัตรูพืชทั้งนั้น เขาเป็นผู้ที่อยู่ท่ามกลางกระแสการเกษตรที่มีอุดมการณ์ที่มั่นคง เป็นบุคคลที่แปลกและแตกต่างจากเกษตรกรที่รายล้อม มองว่าการทำการเกษตรแบบชีวภาพเป็นเรื่องที่ทำไม่ได้โดยสิ้นเชิง ในบริเวณที่สวนพืชผักข้างเคียงฉีดพ่นยากำจัดศัตรูพืช จะมีแปลงผัก สวนพริกไม่ฉีดพ่นยาเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
แต่เขาก็ไม่ย่อท้อและทำสวนพืชผักเป็นแบบอย่างให้แก่เกษตรกรรายอื่น รวมถึงปวารณาตัวเองถ่ายทอดความรู้สู่ชุมชนตนเองและชุมชนข้างเคียง โดยที่ปัจจุบันไม่ได้มีตำแหน่งหรือรายได้ค่าตอบแทนใดๆ ทั้งสิ้น
เขาผู้นี้เป็นหนึ่งในดวงใจพัฒนากรที่เป็นบุคคลที่มีจิตสำนึกที่ดี มีความเสียสละ และหัวใจที่ดีงามเปี่ยมล้นไปด้วยการให้อภัยและมีหัวใจที่จะเผยแพร่สิ่งที่ดีงามแก่ชุมชนโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ เป็นอีกบุคคลหนึ่งที่น่าชื่นชมควรแก่การยกย่อง เขาคือ... นายบุญเหล็ง สายแวว
รางวัลมูนมังเมืองอุบลราชธานี ปี 2560 - นายบุญเหล็ง สายแวว
เมื่อเช้าวันที่ 4 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ 5 นาฬิกา ได้ข่าวว่า คุณพ่อบุญเหล็ง สายแวว ปราชญ์ชาวบ้านด้านเศรษฐกิจพอเพียง แห่งเมืองอุบลราชธานี ได้ถึงแก่กรรมแล้ว ทางเว็บไซต์ประตูสู่อีสาน IsanGate,com ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว สายแวว อย่างสุดซึ้ง
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)