คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
การเรียนรู้ภาษาอีสานจากเพลง น่าจะเป็นหนทางที่ผู้เรียนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะได้ยินสำเนียงเสียงอีสานจากนักร้อง บางเพลงก็ยังเรียนรู้ความหมายของคำได้ จากละครในมิวสิกวีดิโอได้อีกด้วย ตามคำขอครับสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเพลงอีสานแต่ฟังแล้วเข้าใจความหมายได้ไม่หมด ก็ทำให้ความรู้สึกซาบซึ้งในดนตรีนั้นลดน้อยลง อยากจะทราบเนื้อหาเพลงใด ของนักร้องคนใด ก็บอกกันมาครับ ส่งอีเมล์ไปที่ webmaster (@) isangate.com จะได้นำมาเสนอเป็นลำดับต่อไป ขอแจ้งให้ทราบว่า ผู้จัดทำไม่ได้มีความต้องการโปรโมทเพลงนักร้องคนใด ค่ายใดทั้งสิ้น เพลงที่ถูกคัดเลือกมานำเสนอ จะต้องมีภาษาอีสานแทรกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่แฟนเพลงบางท่านอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ฟังแล้วม่วนแต่บ่เข้าใจ จึงจะได้รับการคัดเลือกมาลงในหน้านี้ครับ
"ไทดำรำพัน" ต้นฉบับร้องโดยนักร้องจาก สปป.ลาว ชื่อ ก.วิเสส (มีชื่อจริงว่า กันตัง ราดปากดี) ที่นำมาเสนอเป็นการร้อง Cover ใหม่โดย สิริพร ศรีประเสริฐ จากค่าย Una Studio เมืองเซโปน สปป.ลาว เพลงนี้กลายเป็นเพลงประจำของชาวไทดำทุกที่ทั่วโลกไปแล้ว ไม่ว่าใน สปป.ลาว เมืองเดียนเบียนฟู-เวียดนาม และทุกแห่งรวมในไทย ขอย้ำ "โซ่ง" หรือ "ไทดำ" ไม่ใช่ "คนลาว" (พื้นเมืองดั้งเดิม แต่อพยพมาจากที่อื่น) เพลงนี้มีที่มาและรายละเอียดมากพอควร อ่านต่อด้านล่าง
ไทดำรำพัน : สิริพร ศรีประเสริฐໄຕດຳລຳພັນ : ສິລິພອນ ສີປະເສີດผู้แต่งภาษาไทดำ : ลาก บากกำ
* สิบห้าปี ที่ไตเฮาห่างแดนดิน (...เยอเข้าไป) จงเอ็นดูหมู่ข้าน้อยที่พลอยพรากบ้าน ** สิบห้าปี ที่ไตเฮาเสียดายเด (...เยอเข้าไป) เมืองเฮาเพ แสนเสียดายปู่เจ้าเซินลา *** สิบห้าปี ที่ไตเฮาเสียแดนเมือง (...เยอเข้าไป) เคยฮุ่งเฮืองหมู่ข้าน้อยอยู่สุขสบาย ลุงแก่นตา (พูด) งำมา น้ำตา ไตไหล ยามเมื่อ จากไกล ปู่เจ้าเซินลา อพยพ หลบลี้ ไฟรีมา ไตดำ นำหา ครวญหา จู่มื้อ จู่วัน (ซ้ำ * , ** และ ***)
มีคำภาษาลาว (ซึ่งคล้ายๆ กับภาษาอีสาน) ที่น่าสนใจดังนี้
|
ก.วิเสส เล่าให้ฟังว่าตัวเขาเกิดที่ บ้านสีไค ใกล้ๆ สนามบินวัดไต เขตนครหลวงเวียงจันทร์ เมื่อ 58 ปีที่แล้ว (สัมภาษณ์เมื่อปี 2010) ในวัยหนุ่ม ก.วิเสส ได้เข้ารับราชการทหาร สังกัดฝ่ายเป็นกลางแห่งราชอาณาจักรลาว เคยผ่านสมรภูมิรบ "ทุ่งไหหิน" ก่อนที่จะลาออกไปเป็นนักร้อง ตามห้องอาหารในเขตนครหลวงเวียงจันทร์
ราวปี 2510 พ.อ.แพงเกี้ยว สุวัติ ผู้บัญชาการกรมราบอากาศวังเวียง (ทหารพลร่ม) ได้จัดตั้งวงดนตรี "ราบอากาศวังเวียง" ขึ้นมา ก.วิเสส จึงถูกเรียกตัวให้เข้ามาประจำการเป็นนักร้อง "ตอนแรกรวมตัวกันที่บ้านพักของแพงเกี้ยว ที่บ้านสีไค หลังจากนั้นก็ย้ายไปประจำที่เมืองวังเวียง มี "หมีดำ" เป็นโฆษก"
"หมีดำ" ที่ ก.วิเสส พูดถึงคือ ร.อ.สนอง อุ่นวงศ์ ซึ่งมีความสามารถในด้านการแต่งเพลง โดยเฉพาะเพลง "ไทดำรำพัน" ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากการไปร่วมงานบุญของชาวไทดำหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเขตนครหลวงเวียงจันทร์ เป็นการผสมระหว่างเพลงพื้นบ้านชาวไทดำ (เพลง ไทดำรำพัน ต้นฉบับ แต่งโดย Baccam Lac (ลาก บากกำ) ชาวไทดำ นำมาปรุงแต่งใหม่) กับ ทำนองขับทุ้มหลวงพระบาง
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2518 พรรคประชาชนปฎิวัติลาว ยึดอำนาจการปกครองล้มล้างรัฐบาลราชอาณาจักรลาว จึงทำให้ ก.วิเสส ตัดสินใจมาอยู่เมืองไทย จนกระทั่งปี พ.ศ. 2522 เขาจึงทำเรื่องขอเป็นผู้ลี้ภัยและเดินทางไปใช้ชีวิตที่สหรัฐ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
เพลง "ไทดำรำพัน" ร้องโดย ก. วิเสส
ค้นคว้าและเขียน โดย คุณบรรจง ชัชวาลชัยทรัพย์ คนเชื้อสายไทดำ....
ท้าวสรวง อพยพจากน่านเจ้า มาลงหลักปักฐานอยู่ที่เมืองลอ ภูมิประเทศที่เรียกว่า “สิบสองจุไท” ส่วนใหญ่เป็นขุนเขาจนเรียกว่า "แผ่นดินแห่งขุนเขาหมื่นยอด" มีพื้นที่ราบกว้างใหญ่ ทำนาได้ 100% อยู่สี่แห่ง ทุ่งเมืองลอ ทุ่งเมืองถาน ทุ่งเมืองเติ๊ก และ ทุ่งเมืองแถง (แถง ในภาษาไทดำ หมายถึง แถน ในภาษาลาวและไทย)
แม้ทุ่งเมืองแถงจะใหญ่กว่า แต่รวมทั้งเมืองถาน เมืองเติ๊ก ก็ต้องขึ้นกับเมืองลอ ถิ่นฐานบ้านเดิมของไทดำ ที่เป็นศูนย์กลาง ต่อมาในสมัยลูกขุนลอ ชื่อ "ล้านเจื้อง" ปกครองเมืองแถง ทุกเมืองในสิบสองจุไท ก็เปลี่ยนมาขึ้นกับเมืองแถง
วันเวลาผ่านไป จนถึงสมัยที่ดินแดนแถบนั้นอยู่ในปกครองของฝรั่งเศส และกำลังถูก "โฮจิมินห์" ต่อต้านพวกฝรั่งเศส ฝรั่งเศสเองจัดตั้งแนวร่วมต่อต้านโฮจิมินห์ โดยรวบรวมรัฐไทดำ-ไทขาว 16 แห่ง ตั้งเป็นสหพันธรัฐไต เรียกว่า "ดินแดนเผ่าไท 16 เจ้าไต" แล้วให้ "แดววันลอง" ผู้นำไทขาว เมืองไลเจา เป็นประธานาธิบดี
ฝ่ายโฮจิมินห์ ก็แก้ลำด้วยการเกลี้ยกล่อมไทดำ-ไทขาว เข้าเป็นพวก สองฝ่ายใช้เงื่อนไขเดียวกันว่า ทันทีที่ชนะจะแยกดินแดนให้ไทดำ-ไทขาวปกครองกันเอง นับแต่นั้น ไทดำ-ไทขาวก็แตกออกเป็นสองพวก จับอาวุธหันมาฆ่าฟันกันเอง
ผลบั้นปลายใน "สมรภูมิเดียนเบียนฟู" ฝ่ายโฮจิมินห์ชนะ จับเชลยไทดำ - ไทขาวที่เข้าข้างฝรั่งเศสไปฆ่ามากมายถึง 4,500 คน ส่วนไทดำ-ไทขาวฝ่ายสนับสนุนโฮจิมินห์ระดับผู้นำก็ได้รับตำแหน่งสำคัญ ส่วนเรื่องสัญญา ชนะแล้วจะให้ปกครองดินแดน โฮจิมินห์ก็ทำเป็นลืมเสีย ผนวกเอาดินแดน 16 เจ้าไต รวมกับดินแดนเวียดนาม
นับแต่วันนั้น ปี พ.ศ. 2497 ดินแดน 16 เจ้าไต ก็หายไปจากแผนที่โลก และหายไปจากความทรงจำของชาวโลก
ปี 2512 ไทดำ ที่ลี้ภัยไปอยู่ลาว แต่งเพลง "ไทดำรำพัน" เนื้อเพลงท่อนแรก “15 ปีที่ไทดำ ห่างแดนดิน จงอินดู หมู่ข้าน้อย ที่พลอยพากบ้าน เฮาคนไท ย้ายกันไป ทุกถิ่นทุกถาน จงฮักกันเนอ ไทดำเฮาเนอ”
คุณบรรจง... เล่าเรื่องไทดำไว้ว่า พิธีการก่อนตาย... ไทดำ ในไทย ในลาว หรือทุกแห่งหนในโลก จะถูกสั่งสอนให้ให้รู้จัก พิธีบอกวิญญาณ ให้รู้จักเส้นทาง... กลับสู่แผ่นดินแม่ ไทดำที่อยู่ในสหรัฐฯ หรืออิตาลี... จะถูกบอกให้ขึ้นเครื่องบินมาลงสนามบินดอนเมือง ประเทศไทย หารถต่อไปถึงวัดเนินพระเนาว์ ข้ามฝั่งโขงเมืองหนองคาย... แล้วก็ลัดเลาะแต่ละเมืองไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึง เมืองลอ
สภาพของเมืองลอ น่าจะเป็นเมืองในเนื้อเพลงไทดำท่อน 3 รำพันว่า
เฮือนเคยอยู่ อู่เคยนอน ต้องจรจำลา ปะไฮ ปะนา น้ำตาไทไหล”
คุณบรรจง ทิ้งท้ายให้คิด เพราะไทดำ ไทขาว ไร้รักสามัคคี แตกแยกกันเอง เป็นเหยื่อคำหลอกล่อของฝรั่งเศสและญวน เป็นเหตุแห่งการสิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน
เพลงนี้เป็นต้นฉบับภาษาไตดำแท้ๆ โดยสมาคมคนไทดำในอเมริกา
[ อ่านเพิ่มเติม : ชนเผ่าไทดำ (ลาวโซ่ง) ]
กว่าจะมาเป็นเพลงไทดำรำพัน ໄຕດຳລຳພັນ Tai dam lam phan
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)