คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (หมอลำ) ปี 2548
นายฉลาด ส่งเสริม เป็นหมอลำเรื่องต่อกลอน ที่มีความโดดเด่นเป็นที่รู้จักในด้านน้ำเสียงที่ก้องกังวาลแจ่มใส คำร้องมีการใช้คำเลียนเสียงธรรมชาติ เป็นแบบฉบับเฉพาะตัว ยากที่คนอื่นจะลอกเลียนแบบได้ โดยเฉพาะความสามารถแต่งกลอนลำทำนองเมืองอุบล จะนำเอาสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติตามท้องถิ่น เช่น ดิน ลม ฟ้า อากาศ ต้นไม้ มาแต่งเป็นกลอนลำ กลอนลำแต่ละกลอนจะมีคติสอนใจผู้ฟังอยู่เสมอ ซึ่งถือว่าเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างแท้จริง และสามารถร้องหมอลำได้หลายประเภท ทั้งลำยาว ลำเพลิน ลำเรื่อง ลำต่อกลอน ผลงานเด่น ได้แก่ นางนกกระยางขาว ท้าวก่ำกาดำ พระเวสสันดรชาดก องคุลีมาลสำนึกบาป พุทธประวัติตอนสิทธัตถะกุมารออกบวช นางนกกระจอกน้อย ผาแดงนางไอ่ ลูกเขยไทยสะใภ้ลาว เพลงรักบุญบั้งไฟ เป็นต้น
ได้รับรางวัลทองคำฝังเพชร ในการประกวดหมอลำเรื่องต่อกลอน เรื่อง "นางนกกระยางขาว" จากกรมประชาสัมพันธ์ ได้รับยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นสุดยอดศิลปินอีสาน ในวาระ 40 ปี มหาวิทยาลัยขอนแก่น นายฉลาด ส่งเสริม จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (หมอลำ) พุทธศักราช 2548
นายฉลาด ส่งเสริม (ป. ฉลาดน้อย) เกิดเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2490 ที่บ้านหนองบ่อ ตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี เป็นบุตรของ นายโก่น และนางจันทร์ ส่งเสริม มีพี่น้องร่วมบิดามารดา จำนวน 7 คน นายฉลาด ส่งเสริม เป็นคนบุตรคนสุดท้อง ได้สมรสกับนางสมบูรณ์ ส่งเสริม มีบุตร 3 คน คือ นายอติชาติ ส่งเสริม นางสาววาสนา ส่งเสริม และนางสาวจารุวรรณ ส่งเสริม
พ.ศ. 2500 | จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 โรงเรียนวิจิตรราษฎร์สามัคคี ตำบลหนองบ่อ อำเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี และบิดาได้นำไปฝากพระครูเจียม วัดบูรพาพิสัย บ้านหนองบ่อ ตำบลหนองบ่อ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อบวชเรียนพระธรรมวินัยบาลีไวยากร อักษรขอม และฝึกเทศน์เสียงตามบุญมหาชาติเกือบทุกหมู่บ้านในตำบลหนองบ่อ |
พ.ศ. 2502 | จบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสมเด็จ วัดสุปัฏนารามวรวิหาร ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี |
พ.ศ. 2503 | บิดาได้นำไปฝากเจ้าอาวาสวัดบูรพาพิสัย เพื่อเข้าเรียนนักธรรมโท |
พ.ศ. 2504 | ศึกษานักธรรมชั้นเอก และในขณะเดียวกันยังเทศน์เสียงในงานบุญมหาชาติในอำเภอเมืองอุบลราชธานีด้วยน้ำเสียงไพเราะ |
พ.ศ. 2505 | ขณะที่เป็นสามเณร ได้ฝึกร้องหมอลำตามเสียงทางวิทยุ ว.ป.ก. 6 ในแนวเสียงของ หมอลำทองคำ เพ็งดี และหมอลำฉวีวรรณ ดำเนิน โดยเฉพาะลำล่อง "นิทานนางแตงอ่อน" |
พ.ศ. 2506 | ลาสิกขาบทจากสามเณร บิดาได้พาไปฝากเป็นศิษย์อาจารย์สุวรรณ ติ่งทอง ให้ฝึกลำกลอน (ลำทางสั้น) และลำคู่ ฝึกได้ 4 เดือน ไม่เกิดความชำนาญ เพราะต้องท่องกลอนยาวซึ่งยาวมากจึงหยุดพักระยะหนึ่ง แล้วหันไปร้องหมอลำหมู่ที่บ้านหนองบ่อ กับคณะ ก.สำราญศิลป์ โดยมีอาจารย์กิ่ง ทิมา เป็นผู้ฝึกสอน |
นายฉลาด ส่งเสริม เมื่อเยาว์วัยอยู่ในท้องถิ่นที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติ ความงดงามของประเพณีและวัฒนธรรมของชาวชนบทควบคู่การละเล่นการแสดง ความบันเทิง ตามเทศกาลงานประเพณีต่างๆ โดยเฉพาะการเล่นหนังตะลุง (หนังบักตื้อ) ลิเกลาว (หมอลำหมู่ หมอลำกลอน) ชอบที่จะจดจำมาแสดงท่าทางเลียนแบบการร้อง การเต้น หนังตะลุง หมอลำหมู่ หมอลำกลอน ประกอบกับบิดาเคยบวชเป็นนักเทศน์เสียงดีมาก่อน จึงฝังใจอยากมีเสียงที่กังวานไพเราะ และเป็นนักเทศน์เสียงดีเจริญรอยตามบิดาผู้ให้กำเนิด
ก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่การเป็นหมอลำกลอนผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในแถบภาคอีสาน เจ้าตัวกล่าวว่า ชื่นชอบการร้องรำทำเพลงมาแต่เด็ก ทุกครั้งที่มีหมอลำมาเล่นในหมู่บ้านก็จะมี ด.ช.ฉลาด ส่งเสริม ไปเล่นไปนอน อยู่หน้าเวทีหมอลำเสมอ
กระทั่งอายุประมาณ 16 ปี จึงขอฝากตัวและฝึกหมอลำกับ อ.ติ่งทอง และ อ.กิ่ง ทิมา ฝึกเรียนประมาณ 1 ปี จึงพอจะจับทิศทางของหมอลำได้ว่าตัวเองควรจะไปจุดไหน กระทั่งปี 2507 ได้เริ่มออกรับงานลำตามงานต่างๆ ในนามของ คณะ ส.สำนึกศิลป์ ซึ่งช่วงนั้นยังไม่มีชื่อเสียง จนเกิดความชำนาญ คนเริ่มขนานนามว่า ป.ฉลาดน้อย ซึ่งมีเสียงเหมือนกับ "ทองคำ เพ็งดี" หมอลำกลอนที่มีชื่อเสียงซึ่งลำคู่กับ "ฉวีวรรณ ดำเนิน" ในสมัยนั้น
ฉลาด ส่งเสริม "หมอลำ ป.ฉลาดน้อย" - ฐานข้อมูลศิลปินมรดกอีสาน
พอการร้องลำชำนาญมากขึ้น ก็เข้าสู่ปีที่ 5 จึงร่วมกับเพื่อนๆ คิดหาทางออกไปตั้งวงของตัวเอง คือ คณะ "ป.ฉลาดน้อยรุ่งเรืองศิลป์" รับบทเป็นพระเอก
พ.ศ. 2514 ได้รับการติดต่อให้ไปร่วมแสดงเป็นพระเอกกับคณะอุบลพัฒนา โดยมีอังคนางค์ คุณไชย เป็นนางเอกบันทึกเสียงลำเป็นครั้งแรกเรื่อง นางประกายแก้ว นางนกกระยางขาว ท้าวก่ำกาดำ จนได้รับความนิยม เมื่อปี พ.ศ. 2518 ลาออกจากคณะอุบลพัฒนา กลับภูมิลำเนาเดิมเพื่อดูแลบิดามารดา จากนั้นตั้งคณะหมอลำ ของตนเอง ชื่อ "คณะเพชรอุบล" รับแสดงหมอลำทั่วทุกภาคในประเทศไทย แสดงเป็นพระเอกหมอลำ มีนางเอกคู่ขวัญคือ โฉมไสว แสนทวีสุข เป็นคู่ลำ มีชื่อเสียงและรุ่งเรืองที่สุด ดังมาก หลังจากนั้นจะเริ่มตกลงเรื่อยๆ เนื่องจากกระแสของหมอลำสมัยใหม่เริ่มเข้ามาแทนที่
พ.ศ. 2530 หันไปประกอบอาชีพวิ่งรถสองแถวเล็กใน สหกรณ์รถยนต์บริการอุบล จำกัด ที่อำเภอเมืองอุบลราชานี จังหวัดอุบลราชธานี ใน พ.ศ. 2535 ได้รับคัดเลือกให้เป็นประธานกรรมการ สหกรณ์รถยนต์บริการอุบลราชธานี
พ.ศ. 2542 ได้รับเลือกให้เป็น ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองอุบลราชธานี ดูแลงานวัฒนธรรม ส่งเสริมและผลักดันให้เยาวชนเกิดความรักและสนใจในวัฒนธรรม พ.ศ. 2544- 2545 ดำรงตำแหน่ง "ที่ปรึกษาสภาวัฒนธรรม" ดำเนินการสืบค้นวัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น การละเล่น วรรณกรรม ของดีของเก่า ทุกตำบลในเขตอำเภอเมืองอุบลราชธานี ตามโครงการวัฒนธรรมสัญจรการสร้างสรรค์ผลงานเผยแพร่ต่อสาธารณชน
ป.ฉลาดน้อย ได้เข้าเป็นศิลปินร่วมรณรงค์ให้กับกระทรวงสาธารณสุข ทั้งเรื่องการรณรงค์ไม่กินปลาดิบ, ต้านโรคเอดส์, ไข้เลือดออก, ฉี่หนู และอื่นๆ รวมไปถึงการเป็นอาจารย์สอนพิเศษเกี่ยวกับ วัฒนธรรมพื้นบ้าน ว่าด้วยการแสดงหมอลำ ที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และยังเป็นประธานสภาวัฒนธรรม จังหวัดอุบลราชธานี
นายฉลาด ส่งเสริม มีผลงานทั้งทางสถานีวิทยุ โทรทัศน์ สื่อสารมวลชนแขนงต่างๆ เป็นผู้รับงานแสดง จัดการแสดง รวมทั้งร่วมงานกุศลต่างๆ นับถึงปัจจุบันเป็นเวลา 40 ปี ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ เริ่ม ประกอบอาชีพหมอลำ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจากประชาชนทั่วทุกภาคทั้งในประเทศและต่างประเทศ
พ.ศ. 2518 | บันทึกเทปออกอากาศ เรื่อง "สายแนนนาแก่น" ได้รับความนิยมจากประชาชน โดยทั่วไป |
พ.ศ. 2519 | ผลิตผลงานลำเรื่องต่อกลอนให้บริษัทสินราชบุตร เรื่อง "อยากให้เพิ่นตายโตตาย" (สีโคตรพระตะบอง) "ท้าวบัวโฮมบัวฮอง" (ขุนช้างขุนแผน) "พระเวสสันดร" (ท้าวกำพร้าปลาหลด) เป็นต้น |
พ.ศ. 2520 | ผลิตผลงานบันทึกแผ่นเสียงให้กับบริษัทเสียงสยาม ห้างแผ่นเสียงทองคำ กรุงเทพฯ เรื่อง "ผาแดงนางไอ่" "นกกระจอกน้อย" "ก่องข้าวน้อยฆ่าแม่" เป็นต้น |
พ.ศ. 2521 |
|
พ.ศ. 2525 | อังคนางค์ คุณไชย ออกจากคณะอุบลพัฒนา มาอยู่คณะเพชรอุบล จึงเปลี่ยนชื่อเป็นคณะ ป.ฉลาดน้อย อังคนางค์ คุณไชย ได้ผลิตผลงานบันทึกเสียงร่วมกัน เช่น เต้ยเกี้ยวแรกพบ เต้ยคำสาบาน เต้ยรักน้องเต็มทน เต้ยฮักน้องอีหลี ทำให้ได้รับความนิยมจากประชาชนทั่วประเทศ |
พ.ศ. 2526 | อังคนางค์ คุณไชย แยกตัวออกไปตั้งวงใหม่ ป. ฉลาดน้อย จึงกลับมาบริหารคณะเพชรอุบล อีกครั้ง |
พ.ศ. 2532 | คณะเพชรอุบล โดย ป.ฉลาดน้อย สร้างผลงานบันทึกแผ่นเสียงหมอลำเพลินอีกครั้ง ในชุด สาวรอบสอง สาวโมมลึด วอนแฟนๆ และชุดเอาน้องคักๆ |
พ.ศ. 2533 | ป. ฉลาดน้อย นำ คณะกำแพงเพชร เข้าประกวดหมอลำเรื่องต่อกลอน ณ สถานีวิทยุกระจายเสียงมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จังหวัดมหาสารคาม ได้รับโล่รางวัลจากสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี |
พ.ศ. 2535 | ป. ฉลาดน้อย ผลิตผลงานลำเรื่องต่อกลอน เรื่อง คู่กรรม โดยนำมาจากนวนิยายที่แสดงทางโทรทัศน์ |
พ.ศ. 2540 | ดำเนินการผลิตเทปร่วมกับยอดขุนพลลำเพลิน ทองมี มาลัย และขุนพลลำซิ่ง ประสาน เวียงสิมา ในชุดลำเพลิน ชมรมแท็กซี่ ลำซิ่ง ตระกูลเมาลำเพลินเจ้าพ่อสี่ไห |
พ.ศ. 2543 |
|
พ.ศ. 2544 | ผลิตผลงานลำยาว (ลำล่อง) ชุดลำยาวน้ำตาพ่อฮ้าง ตามน้องทั่วอีสาน ลำยาวตามน้องทั่วกรุงเทพฯ อวยพรปีใหม่ อีกทั้งต่อกลอนลำในการถ่ายทอดมิวสิควีดีโอเรื่อง ท้าวก่ำกาดำ |
พ.ศ. 2545 |
|
พ.ศ. 2546 |
|
พ.ศ. 2547 | ผลิตผลงานลำเรื่องต่อกลอนชุด ปลาบู่ทอง นางนกกระจอกน้อย ผาแดงนางไอ่ เผยแพร่ในรูปแบบของวีซีดี เพื่อสื่อให้เห็นถึงคุณค่าของวรรณกรรมพื้นบ้าน |
พ.ศ. 2548 |
|
ลำล่องถวายความอาลัย - พ่อ ป.ฉลาดน้อย ส่งเสริม
ลำล่องอวยพรปีใหม่ - ป.ฉลาดน้อย ส่งเสริม
นายฉลาด ส่งเสริม ได้ทำคุณประโยชน์เพื่อสังคมด้วยการช่วยเหลือหน่วยราชการและองค์กรเอกชนในด้านต่าง ๆ ดังนี้
ลำล่องชุด "เลี้ยงพ่อแม่ก่อนเพิ่นตาย" - ป.ฉลาดน้อย ส่งเสริม - บานเย็น ศรีวงษา
"สำหรับการได้รับการคัดเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติครั้งนี้ ผมเองยอมรับว่า ทั้งชีวิตผมใฝ่ฝันที่จะได้รับรางวัลนี้มาอย่างยาวนาน เพราะนานมาแล้วที่มีหมอลำเมืองอุบล 2 ท่าน ที่ได้รับรางวัลนี้ไปแล้ว จากนั้นก็ทิ้งช่วงไปเกือบ 10 ปี ถึงมาได้ผมเป็นคนล่าสุด ซึ่งผมถือว่าผมภูมิใจ และเป็นรางวัลที่ผมและครอบครัวรู้สึกภาคภูมิ ผมจึงตั้งใจเอาไว้ว่าจะทุ่มเทชีวิตให้กับแผ่นดินนี้ ทั้งกำลังกาย กำลังใจ เพื่อที่จะสืบสานอนุรักษ์วัฒนธรรมหมอลำพื้นบ้านให้ยั่งยืน" ศิลปินแห่งชาติกล่าวทิ้งท้าย...
ปัจจุบัน นายฉลาด ส่งเสริม ใช้ชีวิตเรียบง่ายกับครอบครัว ยังสร้างผลงานทั้งทางด้านการแต่งกลอนลำ การแสดงหมอลำ เพื่ออนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมท้องถิ่นอยู่อย่างต่อเนื่อง บำเพ็ญประโยชน์แก่สาธารณกุศล โดยอาศัยพรสวรรค์พิเศษของตน ผสมผสานกับภาระหน้าที่ของสังคมก่อเกิดเป็นงานศิลปะเพื่อชุมชน
ป ฉลาดน้อย ส่งเสริม ยกที่ 1 บ้านหนองหญ้าป้อง ปี 2559
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)