คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
ศรี ศรี สิทธิเตโชนะโมเป็นเค้า ตั้งแต่เจ้าครองเมืองทวาย มีมาหลายเหลือหลาก บ่อึด อยากไหมพรม พระบรมตกแต่ง ลงมาแห่งเมืองคน บ่ฮู้จนผ้าผ่อน ตั้งแต่ก่อนดึกดำบรรพ์ เล่ากันมา ติดต่อ นางน้อยหน่อพระยาแถน ฝ้ายผูกแขนไหมเส้นค่อง ไหมเส้นส่องและไหมคอ ก่อนสิทอเป็น เส้นได้ ตำนานไล่แต่เดิมดา ไหมเอามาจากม้อน ข้าขอย้อนเล่านิทาน ตามตำนานเว้ากันอยู่ ตั้งแต่ ปู่เมืองทวาย มีคนหลายเหลือหลาก มีหญิงมากกว่าผู้ชาย มีของขายแน่นอั่ง แม่ค้าหลั่งมาขายของ ตามทำนองขายผ้า งามระย้ามัดหมี่ไหมทอ มีไหมคอเส้นแลบ มีไหมแบบขิดลาย เขาวางขายเป็น หมู่ เขาวางอยู่ผืนไหม มาแต่ไสไผบ่ฮู้ ไผบ่รู้ว่าไหมพรม ฟืมตำโคมหลาวสับสอด เป็นไหมขอดแม่ แกงวี แม่แกงตีสาวไหว่ๆ แม่เฒ่าใหญ่ไปเก็บมอน ตาออนซอนเหลียวเบิ่งม้อน
ตั้งแต่ก่อนบ่ทันมี แม่ย่าดีกับปู่เฒ่า สองหน่อเจ้าอยากกินทาน จังสานพานเป็นกะด้ง ลง ไปท่งปลูกมอนสวน สองสีนวลเห็นฝักหลอก พ่อเฒ่าบอกว่าเก็บเอา ไปเฮือนเฮาให้เป็นที่ คืนที่สี่บี้ ออกมา แมงมีขาโตขาวอ่อน บี้ผู้ด่อนหางงอๆ คือโตปอบินพืบพาบ เอามาใส่ผ้าขาบผืนมนๆ บ่ทัน ดนมันไข่ จั่งเอาใส่ในกะเบียน เก็บในเฮือนลูกม้อน เป็นโตอ่อนยังนอนเว็น ไผมาเห็นว่านอนเว็นนับ เป็นมื้อ สามวันฮื้อขี้ออกเสีย โตไหมเฟือนนอนสี่ ออกจากที่ยอคอ โตมันนอเอิ้นว่าม้อน แม่ใหญ่ อ่อน แม่ใหญ่สี กับทั้งแม่ใหญ่ดีเปิดเบิ่งด้ง เก็บเอาใบมอนป่งมาโฮย ลมพัดโชยมือกวัดแก่ง บี๋มอน แบ่งเป็นใบ เอาลงไปปกโตม้อน โตกินก่อนเล็มใบมอน ตาออนซอนออกเลียขี้ ออกจากที่สิบสองวัน มาโฮมกันนอนสี่ เอาผ้าหี่คลุมดี โตอับปรีคือแม่ด้วง บินมาล่วงคือแมลงวัน มาโฮมกันกัดตอด
เข้าไปกอดกับตัวนาง ขี้ไก้ขางหนอนบ่อน ปิดไว้ก่อนยามเกือม้อน ยามันนอนอยู่กระด้ง ใบมอนป่งเก็บเอามา โพนหัวนาใบก่อง โพนฟากฮ่องใบหนา ไปเก็บมาเลี้ยงม้อนน้อย ใบมอนอ่อย สุกงอม โตได๋ผอมเอาออก เป็นฝักหลอกไหมงาม เสียงคนถามว่าดักแด้ ถามแม่แก่กำลังสาว บ่พอ คราวนำน้ำฮ้อน ฝักหลอกย้อนดึงไหม สาวไวๆ ดึงแคกๆ สายไหมแตกออกมาโฮม เบิ่งคนชมไหม ค่อง มือแม่จ่องดึงไล มือดึงไวใส่กระต่า ปากกะว่าไหมคอ สาวจนพอตาเว็นบ่ายๆ เอามาใส่อักไหม บ่ทันใด๋เบิ๊ดฝักหลอก แล้วเทออกลงกระเบียน ยกขึ้นเฮือนเป็นดักแด้ แบ่งกันแนกินนำกัน โตของมัน สุกอ่อน ขาวอ่อนหล่อนคือโตหนอน ตาออนซอนวางใส่ถาด เหลือสะอาดกินมันๆ กินนำกันแสน แซบซ้อย พวกเด็กน้อยเอาใส่มือ พากันถืออยู่ตะหล่าง พากันย่างกินนำทาง
เป็นขุนนางนุ่งผ้าใหม่ เป็นขุนใหญ่ทรงกระเบน ผู้ใด๋เห็นไหมงามเลิศ บุญประเสริฐคือ ไหมคอ ต่ำแล้วยอเป็นผืนผ้า งามล้นค่าแสนเมือง เป็นสีเหลืองคือผ้าเบี่ยง ตัดเป็นเครื่องจีวร ตา ออนซอนตอนพระห่ม บ่ได้จ่มเสียดาย เอาถวายเพื่อผู้ไปเกิดในสวรรค์ เป็นจอมทันเทวราช อยู่ ปราสาทนำอินทร์พรหม เป็นบรมทิพย์อาสน์ อยู่ปราสาทแดนไกล ทานผ้าไหมแก่พระเจ้า เผิ่นจั่ง เว้าได้อรหันต์ มารวมกันอย่าได้ห่าง
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปอยู่ป่านำม้อน ขวัญเจ้าไปนอนอยู่นำพุ่ม ขวัญเจ้าไปอยู่ อุ่มเฟือยหนาม ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปนอนลี้หนีไฟในฝักหลอก กะให้มามื้อนี้วันนี้ ขวัญเจ้า ไปอยู่ถ้ำทางพุ้นป่าพนอม ขวัญเจ้าไปเซายั้งนำจอมเทวราช ก็ให้มามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย เผิ่นบ่เอาเจ้าไปใส เอาใส่ไฟขอเส้นไว้ เผื่อสิได้เส้นไหมคอ เอาไปทอเป็นซิ่นหมี่ เอาใส่สีกางวา เอา ไปหาย้อมครั่ง ให้เจ้านั่งเมืองพรหม ถวายพระบรมศิษย์พระศรีธาตุ งามสะอาดจีวร เอาไปนอนฮอง อาสน์พระเจ้า
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญม้อนนอนสาม โตเจ้างามนอนสี่ พวกน้องพี่เขานุ่งไหมพรม เขา ได้ชมว่างามเลิศ ม้อนประเสริฐกว่าหมู่ทั้งมวล บรบวรทุกอย่าง ให้ได้ดังบาทพระคาถาว่า ชะยะตุ ภะวัง ชะยะมัง คะลัง สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ สาธุฯ
ว่า ศรี ศรี วันนี้เป็นวันดี วันเศรษฐีเฒ่านกเอี้ยง เผิ่นได้เสี่ยงทำนายฝัน อยู่หลายวันเผิ่น ฝันหลาก เผิ่นจั่งฝากแม่ธรณี เผิ่นฝันดีบ่ตกยาก บ่ลำบากการทำนา พสุธาเก้าพันไฮ่ เผิ่นได้ใส่ข้าว สาลี ธรณีให้เลี้ยงโลก ให้มีโชคการทำนา แต่เดิมดากกเค้า คราวพระเจ้าพุทธโคดม พระบรมได้ ห้ามญาติ เผิ่นประกาศแบ่งเป็นตอน ตาออนซอนให้ถึกต้อง พวกพี่น้องนาหลุ่มและนาบ๋า พากันมา ยาดเอาน้ำ สองฝ่ายก้ำเมืองกบิล พอได้ยินเผยพระโอษฐ์ ให้ละโกรธและความหลง พระภุชงค์จึงได้ เทศน์ จั่งแบ่งเขตเป็นคันนา แบ่งกันมาขุดเป็นฮ่อง ให้เป็นป่องวารี ให้ได้มีทั้งสองฝ่าย น้ำไหลก่าย ไปเนืองนอง จั่งจับจองแบ่งกันใหม่ ป้านคันใหญ่เป็นไฮ่นา จั่งถือมาฮอดมื้อนี้ พระจั่งซี้ตาออนซอน ผ้าจีวรครองบ่า ตำราว่าคือตานา องค์พระศาสดาตรัสบอก ให้แบ่งออกเป็นตา เป็นไฮ่นาทั่วผืนผ้า ฮอดสังฆาฏิพาดบ่าภิกษุสงฆ์ พุทธองค์บัญญัติบอก ห้ามตัดอกพระวินัย เอาไปไสกะให้อยู่ ให้คือ หมู่พุทธา
ท่านจั่งว่าเป็นไฮ่นา บาดนี้มาสิไถหว่าน สิได้ผ่านคองไถ มาเร็วไวกราบบาท บ่ได้ขาดฟ้า ใหม่ลงหนอง เสียงเนืองนองอึ่งอ่าง อยู่ใต้หล่างควายบักคูณ เบิ่งเผิ่นสูนฟืนฟาด เคาบ่ขาดสนดัง ปานสิพังเผิ่นห่าว ฟ้าวฝั่นข่าวเตรียมไถ ฝนตกไหลน้ำอั่ง ฝนไหลหลั่งตกลงมา เต็มไฮ่นาน้ำใหม่ กบเขียดไข่ปูปลา น้ำไฮ่นาล้นหลาก หลายเหลือมากเนืองนอง แสงกะบองออกจับเขียด ท่วมนา เอือดและนาทาม นาไผงามได้ใส่ฝุ่น ได้หลกฮุ่นฝักพีพวย ยามฝนฮวยเดือนหกออกใหม่ จับเอาใกล้ เฮือนไผเฮือนมัน ใบรวมโฮมกันเลี้ยงเจ้าปู่ เฒ่าจ้ำอยู่พิจารณา คางไก่มาแก๋ออก จั่งได้บอกลูก หลาน คางไก่ยานยาวโค้ง ฝนสิส่งปลายปี ฝนสิดีหลากหล้า น้ำอยู่ฟ้าเหลือหลาย แล้วระบายคางไก่ อีก เอามือฉีกออกมานำ จ่มมำๆ ชี้แก่แด่ เบิ่งหั่นแน่ดีคือกัน พอฮอดวันว่าตาแฮก เขากะแบกเอาไถ เอาลงไปเขยใหม่ เอาใจใส่ไถนาดี เอาแส่ตีควายบักด่อน ย่างออกก่อนว่าฮือ-ฮือ มือหนึ่งถือกำเชือก มือหนึ่งเถือกกำคันไถ ควายย่างไปว่าฮือฮ่อง-ฮือฮ่อง ดันหลังก่องก้อนขี้ไถ
ขออภัยนำแม่เจ้า สิเฮ็ดข้าวทำนา ขอขะมาพระแม่ ยามลูกแก่ไถไป ยามไถไวอย่าได้ พลาด ยามหลานคลาดอย่าโกรธา หลานทำนาหมายตักบาตร บ่ได้ขาดกินทาน ขอสมภารแก่กล้า พวกตูข้าทำนากิน ยามฝนรินบ่ได้อยู่ ทำเป็นหมู่นาดี มาหลายปีแต่พร้อมโลก นับว่าโชคได้นาหนอง ปานได้ทองสามเส้า ปานได้ข้าวพันเล่มเกวียน เฮ็ดหมุนเวียนบ่ได้ขาด ขอพระบาทแม่เจ้าธรณี อย่าได้มีใจตื่น อย่าแตกตื่นไปใส ขออภัยนำเจ้าแม่ ให้ได้แต่โภชนา ให้ได้มาทั้งข้าวเหนียวและข้าว จ้าว ข้าวช้างน้าว ทั้งข้าวขาว ข้างต้นยาวหอมอ่อน ให้ได้ป่อนทานัง ให้ได้ฝังข้าวบักหม่วย งามป่วย ล่วยข้าวงาช้างแลข้าวดอ เต็มในทอนั่นแม่นข้าวอีก่ำ ได้กินหน่ำนั่นแม่นข้าวสามเดือน ให้เต็มเฮือน อย่าเขินขาด สายน้ำไหลหลากเนืองนอง เดือนสิบสองให้ได้กินได้เกี่ยว ฮวงอย่าเหี่ยวสุกงอม ทั้งข้าว หอมเฮ็ดข้าวเม่า ให้เต็มเล้าสิได้กินได้ทาน เป็นข้าวสารเต็มไถ่ เลี้ยงคนใหญ่ทั้งโลกา มีนาเหนือ และนาใต้ นาท่งใหญ่มีหนอง ปลาเนืองนองดุกค่อ นามูลพ่อนาเซและนาห้วย ให้ได้ช่วยชูนำ พระ จอมธรรม์ฉันยามเช้า ถวายข้าวสังฆทาน เลี้ยงลูกหลานบ่ได้ขาด เม็ดข้าวอาจงามหลาย เหลือกิน ขายเงินอั่ง บ่ได้นั่งงอมือ เอาเกี่ยวถือก๋อเกี่ยว ข้าวบ่เหี่ยวงามดี ข้าวนาปีได้หลายหาบ
ผู้ข้าขาบแม่ธรณี อยู่ในน้ำให้มีปลา อยู่ในนาให้มีข้าว ขอแม่เจ้าจงอิดู ลูกหลานดู๋บนแม่ บาท เอาใส่ถาดเมี่ยงหมากและพาหวาน ของกินทานทั้งตาแฮก เอามาแจกผู้รักษา เจ้าจงมารับเอา สามื้อนี้วันนี้ ให้กอถี่ลำงาม อยู่นาทามและนาโคก ให้มีโชคเหลือตา ข้าวเต็มนาเหลืองอร่าม ว่ามา เยอขวัญเอย ให้เจ้ามาทั้งขวัญนาและขวัญข้าว ขวัญแม่เจ้าธรณี เจ้าจงมารวมอยู่ มาเป็นหมู่ให้ลูก ให้หลาน ให้ได้กินได้ทานอย่าให้ขาด อย่าได้เขินเป็นหาด อย่าได้ขาดเป็นวัง อย่าได้พังเพห่าง อย่า ได้ว่างเว้นหนี ให้ข้าวฮวงยาวพอศอก ให้ต้นข้าวสูงออกพอวา ให้เต็มนาท่งใหญ่ สัตว์น้อยใหญ่อย่า ได้มาราวี นกตัวดีอย่าบินผ่าน นกจาบปากก่านอย่ามาวน ขอให้ได้เลี้ยงลูกหลาน ตราบต่อเท่าอายุ เข้าห้าพันวัสสาก็ข้าเทอญฯ ภะ สะ ภะ โภชะนัง มะหาลาภัง สุขัง โหตุ สาธุ
หลังจากสูตรขวัญนาแล้ว ให้ทำน้ำมนต์รดนา คาถาว่า ดังนี้
กก กอ ดอ ดก ท่านว่า ข้าวบ่มีโรค บ่เป็นบั่ว หมากดกดั้วงามดี ดีนักแล
ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อเศรษฐีมาสู่ เข้ามาอยู่ในเคหา เผิ่นป่อนมาให้เกิด ผู้ประเสริฐ มาอยู่นำ พระจอมธรรมแก้วแก่น ใสป่านแว่นกุมาร สามสิบสองประการครบถ้วน งามทุกส่วนกายา เทวดาเผิ่นบอก เผิ่นให้ออกจากครรภ์ คือดั่งพระจอมธรรม์เสด็จด่วน งามทุกส่วนลัคนา มาจาก เทวดาสวรรค์ฟ้า ลูกหน่อหล้ามาอยู่นำ สุดงามขำแก้วกิ่ง มาเป็นมิ่งขวัญตา เจ้าลงมาแถนหล่อ เจ้าคือหน่ออินทรา เจ้าจั่งมาฮ่วมห้อง มาสู่ท้องมารดา อุปมาจั่งยุพราช ฤทธีอาจเหลือหลาย สม เป็นชาย-สตรีเพศ งามวิเศษดั่งพระราม หูตางามคิ้วคาดโก่ง เอวองค์ส่งวิสุกรรม คนแนมนำบ่ได้ ขาด งามองอาจดั่งพระพรหม คีงขาวกลมพอปานเสี่ยน สมองเลี่ยนไหลไว คืออันใด๋เจ้ากะป่อง เจ้ากะค่องคือโกษาปาน คือสั่งหนุมานโตอาจ มีอำนาจดั่งพระนารายณ์ บริวารมีหลายดั่งทวยเทพ บนฟ้า งามใบหน้าดั่งพระอุมา งามสองตานางงามกะบ่ท่อ ลูกของพ่อกับแม่คูณเฮือน ใสปานเดือน บ่มีเมฆ ให้เป็นเอกในเมืองคน อย่าเป็นคนจนอนาถ อย่าได้ขาดเงินทอง ให้เนืองนองอออั่ง
ให้ได้นั่งเป็นพระยา ให้ได้มามีอำนาจ ได้ปราสาทสามหลังอยู่ในวังเฮืองฮุ่ง ให้พ้นพุ่งเกิน คน อย่ามีจนจักหยาด มีอำนาจครองเมือง จงมีเสียงเว้าม่วน ให้คนด่วนมาฟัง คึดอีหยังให้สมมาตร ให้เจ้าได้สมปรารถนา เป็นชาวไฮ่ชาวนาให้หมานข้าว เฮ็ดใส่เล้าเต็มเยีย บ่มีเสียอออั่ง ให้ได้นั่งเป็น เศรษฐีให้เจ้ามีเงินล้าน ให้มีบ้านปานวัง อยากได้หยังกะให้ได้ มีบ่าวไพร่พอแสน ให้มีสร้อยมีแหวน และม้าว ก้าวไปเหนือให้เจ้าใหญ่ ก้าวไปใต้ให้เจ้าดี ให้ได้มีคนบอก ก้าวขาไปตะวันออกให้เจ้าพ้อ ไหเงินไหคำ ก้าวไปตะวันตกให้มีคนนำแหนแห่ ให้มีแต่บริวาร มีสมภารเหลือหลาก อย่าอึดอยาก แนวใด๋ ตนโตใสหายพยาธิ์ ขาวสะอาดดั่งนางวิสาขา มีปัญญาดั่งศรีปราชญ์ ให้ฉลาดดั่งเจ้าศรี- ธนญชัย ให้เจ้าไวปานม้ามณีกาบ มีคนกราบพอแสน มีคนแหนคนแห่ ให้ลื่นพ่อลื่นแม่สมภาร เป็น อาจารย์นักปราชญ์ เป็นอำมาตย์อยู่ในวัง บ่อึดหยังจักอย่าง ใต้ตะหล่างเฮือนซาน มีข้าวสารเต็มไถ่ ม่บ่าวไพร่ทาษาและทาษี มีของดีเหลือหลาก ทั้งเมี่ยงหมากและอาหาร มีอาคารพร้อมเตียงตั่ง มี บ่อนนั่งเป็นไพฑูรย์ มีคนหนุนส่อซ้อง มีพี่น้องหลั่งมาโฮม
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปอยู่ค้างทางไกลกะให้ต่าว ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไป เที่ยวเล่นวังเวินเต๋อเติ่น ขวัญเจ้าเพลินแล่นเล่นวังนี้ให้ด่วนมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญแข่งมาอยู่ แข่งลีลา ขวัญขามาอยู่ขาลีล้าย อย่าได้ย้ายหนีไป ให้เจ้ามาสามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย แม่เจ้า ไปไฮ่สิเอาไข่มาหา คันพ่อเจ้าไปนาสิเอาปลามาป้อน ว่ามาเยอขวัญเอย ว่าให้มาสามื้อนี้วันนี้ แม่เจ้าผูกอู่สายไหม มาไวๆ อย่าช้า แม่ผูกถ้าให้เจ้ามานอนสา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเมา เล่นในดงหงส์ห่าน ให้เจ้ากลับต่าวบ้านมาถ่อนแม่มา พ่ออยู่ถ้ากล้วยบ่มสุกเหลือง แม่เอาเฟืองไฟ หวานเหว่อนาวทั้งพร้าว ให้เจ้าไววาฟ้าวมากินนำแม่ ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปเมาเล่นนำ กาเล็นกระฮอกป่า ขวัญเจ้าไปท่าน้ำชมเล่นหมู่ปลา กะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ขวัญเจ้าไปเมาเล่นฮิม ทะเลน้ำเป็นป่อง ทะเลฟองฝ่าคลื่นอย่ายืนจ้องให้ต่าวมา ขวัญหูให้เจ้ากลับคืนมา ขวัญตาให้เจ้า ต่าว อย่าอยู่อ่าวทะเลวน
ว่ามาเยอขวัญเอย แม่เจ้าได้บักทัน พ่อเจ้าได้บักจันท์หอมหื่นเฮ้า แม่เจ้าได้ปั้นข้าวบ่าย ปลาขาว ว่ามาเยอขวัญเอย แม่เจ้าต่ำแพรลาย พ่อเจ้าพายเงินล้านคอยอยู่บ้านบ่หนีป๋า ว่ามาเยอ ขวัญเอย มาอยู่เฮือนหลังใหญ่มุงสังกะสี เฮือนมุงดีคาดฟ้า พวกแม่ป้าและพ่อลุง พากันมามุงส่อง ตาส่องป่องแนมทาง ถ้าอี่นางบักหล่า เจ้าอย่าช้ามาไวๆ มากินไข่นกทา มากินขาไก่โอก อยู่เต็มโตก ของหวาน เต็มพาพานหมากไม้ เอามาใส่เฟืองไฟ อยากอันใด๋ฮอดหมากเขียบ สวรรค์เปรียบบ่มี ปาน ว่ามาเยอขวัญเอย ม้าสีลานพ่อสิซื้อให้ขี่ ออกจากที่ไปมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้ อยู่ดอมกา ขวัญเจ้าอย่าได้อยู่นาท่ง ขวัญเจ้าอย่าได้ส่งไปไกล มาไวๆ แม่คึดฮอด พ่ออยากกอด นอนซม มากินนมนำแม่ เจ้าอย่าแว่ไปไกล มาไวๆ ลูกแม่ ยามแดดแก่ตาเว็นแดง มาพักแฮงนำแม่ ว่ามาเยอขวัญเอย มากินอ่อมอู๋ปลาแม่สิป้อน แดดแห่งฮ้อนอย่าไปใส มาไวๆ แม่สิอุ้ม แม่สิตุ้มเอา ขวัญ ว่ามาเยอขวัญเอย ให้เจ้ามาสามื้อนี้วันนี้ เอหิ ตาตะ สะกะ เคหัง อาคัจฉาหิ สาธุ
เอหิ ตาตะ อาคัจฉาหิ ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปในไพรหนาให้เจ้าต่าว ขวัญเจ้าถึก จ่องน้าวมนต์ข่อยสิส่อยปลด ปลดออกแล้วให้เจ้ามานำทางคนถ่อง มานำป่องคนเทียว ให้เจ้ามา มื้อนี้วันนี้ ใหญ่เพียงตอเจ้าอย่าได้หัก ใหญ่เพียงหลักเจ้าอย่าได้โค่น เจ้าอย่าหม่นเหมือนตอง เจ้า อย่าหมองเหมือนเถ้า เจ้าอย่าเศร้าเสียศรี ให้มีอายุมั่นยืน อายุวัณโณ สุขัง พะลัง สาธุฯ
โอมพระเวสสันดรเจ้า ให้ชาลีลำบากทั้งกัณหาพร่ำพร้อมหิวให้อยากนม พระหากทาน ทอดให้พราหมณ์ถ่อยชุยชะกา มันกะพาสองแพงเที่ยวดงในด้าว มันกะบายเอาแส้ตีหลังสองอ่อน ทั้งลากน้อยดึงทื้นแก่ไป ทุกข์ยากไห้หิวหอดในมะโน ยามพราหมณ์นอนกะผูกแขนโยงไว้ ทรมาน ให้บุตตาสองอ่อน จนว่าเทพท่อนไท้ในด้าวส่อยชู บุญซุกยู้ไปสู่ประเชไชย องค์พระยาบุรมไถ่เอา สองน้อย สอยวอยหน้าสององค์หมดลำบาก บ่ได้อึดอยากไฮ้คือแท้แต่หลัง ขอให้ศรีแจ่มเจ้าน้อย อ่อนจอมขวัญ เจ้าจงมีความสุขดั่งเดียวโดยด้าม หวิดกรรมแล้วหวิดเวรทุกอย่าง หวิดเคราะห์ แล้วเมือหน้าอยู่เกษม อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง สาธุฯ
เกวียน เป็นพาหนะรุ่นแรกที่ทำขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางไปมา และการขนสัมภาระสิ่งของ มิใช่จะเป็นพาหนะของคนธรรมดาสามัญเท่านั้น พระราชามหากษัตริย์ก็ใช้เป็นพาหนะ แต่เรียก ราชยานบ้าง เกวียนคำบ้าง ราชรถบ้าง ซึ่งก็คือเกวียนนั่นเอง การสู่ขวัญเกวียนก็คือ การสอนให้คนทำเกวียนรักษาเกวียน และใช้เกวียนให้เป็น เพราะเกวียนเป็นเสมือนเพื่อนร่วมสุขร่วมทุกข์ในการเดินทางของคนอีสาน ถ้าทำไม่เป็น รักษาไม่เป็นแล้ว ก็ไม่มีเพื่อนร่วมเดินทาง ตนก็จะประสบกับความลำบากตรากตรำ การสู่ขวัญเกวียนเป็นกุศโลบายอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งส่อแสดงให้เห็นความเฉลียวฉลาดของคนอีสาน คำสูตรขวัญเกวียนมีดังนี้
ศรี ศรี ขึ้นดิถีปีใหม่ ข้าผู้ใหญ่ถ่ายราศรี พระภูมีสุริเยศ ถึงฤดูเขตเดือนสาม นางโสม งามเกวียนแก้ว อาบน้ำแล้วจึงลาพร ลมพัดวอนแห้งแล้ว เอาพาแก้วเบิกคูณขวัญ บรบวรพลูพัน และหมากจีบ ใบกล้วยตีบเฮ็ดบายศรี มีทั้งหวีและต่างแก้ว งามลวดแล้วเอามาแยง ของหอมแพง และแป้งป่น งามเลิศล้นปลอกแขน มีทั้งแหวนและสายสร้อย ฝูงตูข่อยจั่งมาหา มีมาลาแลดอกไม้ หามาไว้ใส่บูชา มีผลาและไก่ต้ม มีของส้มและเผือกมัน มากวนกันถวายแก่ พ่อและแม่มาโฮม เอาแขนโจมพาโตก ขอเผิ่งโชคคูณขวัญ ว่า ศรี ศรี สิทธิพระพร เกษรหอมห่วงเฮ้า ข่อยจักเชิญ จอมเจ้าเกวียนคำ ทั้งกงกำและดุมแอก ทั้งทวยแปรกและคานหลัง ทั้งประทุนและหนังผูก เฮ็ดให้ ถูกอยู่หัวเกวียน
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปขนไม้ในดงเดินยาก ขวัญเจ้าไปขนหญ้าแฝกมุงหนา ขวัญเจ้าไปขนหญ้าคามุงถี่ ก็ให้มามื้อนี้วันนี้ ขวัญเจ้าไปรับจ้างขนข้าวในฉาง ขวัญเจ้าไปรับจ้าง ขนทรายและดินจี่ ขวัญเจ้าไปอยู่ที่ทางไกลกะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย ให้คืนมาสถาน เฮาอยู่ อย่าไปอยู่แกมหมู่ไม้แนวเหง้าป่งใบ ขวัญทวกให้มาอยู่ทวกทั้งสอง ขวัญคานให้มาอยู่คาน ล่างง่าง อย่าได้ห่างไปไกล อย่าไปใสขวัญแก้ว ว่ามาเยอขวัญเอย มื้อนี้แม่นมือดี ข้าจักทำบายศรี เกวียนแก้ว ทำขวัญแล้วให้เจ้าค่ำคูณเฮือน ถึงฤดูเดือนขวบเข้า ให้เจ้าฮักบ่าไว้ยังงัวควาย ให้สบาย ดีบ่ยาก ลำบากให้เจ้าค่อยเพียรอด ทางมันคดต้นไม้ใหญ่ขวางทาง ฮากไม้วางขวางหน้าอย่าได้ล้ม หักตะแคง
ว่ามาเยอขวัญเอย ให้มาสามื้อนี้วันนี้ ให้เจ้ามีแฮงดั่งราชรถ ให้งามงดคงทน ใส่คนหนัก กะให้ได้ บรรทุกไม้พันลำ ให้ไปนำทางแล่น ไปดินแก่น ดินทราย บ่พองายให้ฮอดบ้าน บ่ได้ย้าน กำลังมี เป็นเกวียนดีแสนประเสริฐ เจ้ามาเกิดเป็นมุงคุล เกวียนมีบุญฮ้อยเล่ม ว่ามาเยอขวัญเอย อย่าได้ค่นหักพัง ใส่อีหยังกะให้ได้ เอาไม้ลำงาม เก่งกว่าเกวียนท้าวคันทะนามแก่ไม้ แก่ไม้ไผ่และ ไม้บง สมประสงค์จิตจ่อ เกวียนมูลพ่ออยู่หลายปี มีรังสีเฮืองฮุ่ง ฝูงตูข้าให้อยู่เย็น ความบ่ดีอย่าได้ เห็น ความเคราะห์เข็ญอย่าได้พ้อ ให้เทียมหน่อรถพระอินทร์ ไชยะตุ ภะวัง ไชยะมังคะละ มะหา มุงคุล สาธุฯ
นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โสตถิ เต โหตุ สัพพะทา
ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะวาจาว่า พระรัตนตรัยเจ้าเป็นที่พึ่งของเฮา เฮาบ่เอาอันใดเป็นที่พึ่ง ด้วยสัจจะวาจานี้ขอเกวียน (รถ) จงไปมาสวัสดีมีสุขีไปมาฮอด อยู่ตลอดบ่มีภัย ความจัญไรอย่า ได้พ้อ ให้พ้อแต่ลาภาหนุนกันมาพร้อมพรั่ง อั่งๆ ขึ้นคือน้ำ น้ำแม่นะที มะอะอุ อุ อะ มะ นะ ชา ลิ ติ สาธุ
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)