คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อขับหนีเคราะห์อันฮ้าย มื้อหยับย้ายเวรกรรม มื้อหน่อธรรม เผิ่นผาบแพ้ มื้อเผิ่นแก้เสนียดจัญไร มื้อนี้แม่นมื้อพระมาลัยมาโปรด มื้อละโกรธละความหลง มื้อ พระลงไปทางหลุ่ม ช่วยให้ชุ่มทั้งซุมแซง พระฤทธีแฮงแก่กล้า ไปเบิ่งหน้าพระยามาร อดสงสารบ่ได้ พระจึงใช้พระคาถา ว่า
อมพระเพลิง อมพระพาย อมพระนารายณ์ผู้มีเดช พระยาเวสสุวรรณ มาร่วมกันพอหมู่ ให้มาอยู่ซูซม พระบรมโลกธาตุ มีง้าวอาจบังตนกู ฆ่าผีฆ่าพลายคอขาด ฆ่ามารโตฉลาดตายจุ่ม ตายกอง แขนทั้งสองให้คงที่ อย่าได้หนีจากที่จงคืนมา พระราชาจอมราชผู้องอาจเทวัญ มารวมกัน เสกเป่า ให้โรคเก่าหายหนี ให้เจ้าดีคือเก่า ให้เจ้าต่าวแข็งแรง จงมีแฮงมาเถิด บุญเจ้าเกิดคืนมา ทางหยูกยาก็ให้ถืก จั่งหาฤกษ์มาเวียน ป่วยปีเดือนให้หายขาด ทางพยาธิ์ให้หายหนี สองพันปีอย่า มาผ่า ให้คนว่าเจ้าแข็งแรง เจ้ามีแฮงดั่งพระยาช้าง ให้เจ้าย่างไปไกล มาไว ๆ คล่องแคล่ว เบิ๊ดเข็ญ แล้วเคราะห์หนีหาย อันตรายอย่ามาอยู่ในกาย จงหายสามื้อนี้วันนี้
ขวัญเจ้าไปไกลกะให้มา ขวัญไปนากะให้ต่าว ขวัญอยู่อ่าวนะทีทอง ขวัญไปปองเป็นเจ้า หลงไปเว้าอยู่ในคอ ลมวอยๆ ให้เจ้าต่าว อย่าโอ้อ่าวนำเขา ขวัญอยู่เลาป่าอ้อ ขวัญไปพ้อไหเงินไห คำ ขวัญไปนำไก่ต่อ ขวัญไปหล่อเงินฮาง ขวัญไปทางเมืองหมั้น ขวัญเจ้าไปอยู่ชั้นปราสาทดอมผี กะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญคิ้วก็ให้มา ขวัญสองตาใสส่อง ขวัญแอกยน่องตีนขา กะให้มามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญหูอยู่กับหู ขวัญบุญชูอย่าหนีหง่าย อย่าปีนป่ายสองขา เดิน อย่ามัวเพลินอยู่นำป่า
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญคิ้วและขวัญผม ขวัญนมและแขนศอก อย่าได้ออกหนีไกล ว่ามา เยอขวัญเอย อย่าไปใส ขวัญหลังและขวัญไหล่ ให้ได้นุ่งผ้าใหม่ขวัญแอว เอาซุมแซวฮีบกลับต่าว ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าไปไกลให้เขาว่า ขวัญอยู่บ่าแบกไหคำ ขวัญปานดำแบกไหเหล้า ตื่นฮุ่งเช้าขวัญมาหา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าหลงไปก้ำนำหวางเมยมั่ง ขวัญเจ้าไปนั่งเล่นชม พั่วดอกกระยอม ขวัญเจ้าไปซอมซู้หวังมาซูอยู่เช้าค่ำ ขวัญเจ้านำหมู่ช้างสารฮ้ายอยู่ดง ขวัญเจ้า ลงไปเล่นน้ำเขาพวกกะเหรี่ยง ขวัญเจ้าไปอยู่เบื้องเมืองแม้วหมู่แกว ขวัญเจ้าไปแถวพุ้นเมืองภูซุน ไซง่อน ขวัญเจ้าไปเลาท้างทางพุ้นอย่าแหว่ ขวัญเจ้าไปทางพุ้นหนองกระแสร์แสนย่าน แม่น้ำน่าน บ่อนสุทโธนาคน้ำเป็นเจ้าอย่าไป ขวัญเจ้าหลงไปถ้ำหนองหาญนางไอ่ บ่อนผาแดงไล่ฆ่าตีม้าผ่าฟัน
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปพายฆ้องจูมคำมะละแม่ง ขวัญเจ้าแยงส่องเล่นเห็นแก้ว หน่วยใส เจ้าอย่าได้ซมอยู่นานดน คือสีทนหลงทางขาดเขินผืนผ้า ป๋าโตไว้มะโนราหนีจาก แสน ลำบากป่วยไข้ไพรพุ้นด่านเขา ขวัญหน่อเจ้าให้ผันเผ่นเวนคืน ว่ามาเยอขวัญเอย ชวัญเจ้ากลับมา แล้วให้มาอยู่ซุมแซง เซามีแฮงเหงื่อไคลไหลย้อย ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญสองข้างขาแขนเคยย่าง บาดนี้โรคห่างฮ้ายหนีพ่ายให้ต่าวมา ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าได้มัวเมาเล่นนำเขาคนละเผ่า ขวัญของข่อยและเจ้าเฮานั้นต่างเขา อย่าไปเว้านำหมู่ผีพาย อย่าไปผายนำผีตาแฮก ผีเหลียวไม้ สิแดกตาผี ไม้ฤาษีฤทธิ์แก่กล้า
ว่ามาเยอขวัญเอย เจ้าอย่าลงเป็นหาด เจ้าอย่าได้ขาดเขินวัง ให้มาอยู่เฮือนหลังใหญ่ มาเลี้ยงไก่บักแดงบักลาย มากินงายนำพ่อนำแม่ นำเฒ่าแก่ปู่ย่าลุงตา มาเฮ็ดนาเอาเข้าใส่เล้า มา นั่งเว้านำหมู่นำกอง มาหาเงินหาทองขายปลาขายข้าว ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าอย่าไปไกลลง ไทยไปล่าง ขวัญเจ้าย่างนำคนอย่าไปดนให้ต่าว ได้ยินข่าวให้มาเฮือน ป่วยปีเดือนกะหายขาด โตพยาธิ์จัญไร เผิ่นเอาไปสับปาด โตพยาธิ์พาเป็นทั้งเคราะห์เข็ญมาหาเผิ่นไล่ เอาไปใส่ไฟสุม เอา ไปคุมฝังแน่น บัดนี้แหล่นทินลิน ทินลิน พระยาอินทร์เทิงฟ้า สั่งให้ว่าหายโรคา เป็นพระยานาหมื่น สุขล้นลื่นมีแฮง โตแข็งแรงหายขาด เมิ๊ดพยาธิ์ในโต
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญปากกะให้มาอยู่ปาก ขวัญหน้าผากและฮูดัง อย่าไปหยังขวัญ อยู่ท่ง อย่าได้จ่งมานำกัน ขวัญฟันกะมาอยู่ฟัน อย่าไปหลื่น ขวัญลิ้นกะให้มาอยู่ลิ้นลีลาน อย่าอยู่ นานหายป่วย ให้เจ้าอ่วยมาไว ๆ อย่าไปไกลหลายโยชน์ อย่ามีโทษมาหา ขวัญตาและขวัญคิ้ว กะให้มาอยู่คิ้วสองทาง ขวัญคางกะให้มาอยู่คางสามื้อนี้วันนี้ ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญส่วงน้อย หง่อนต่อคอเอ็นกะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ขวัญเลือดและขวัญลม กะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ขวัญท้องน้อย และสายบือ ขวัญนิ้วมือแหวนสุบใส่ แหวนวงใหม่ใสเมียง ๆ เอามาเฮียงมะณีโชติ งามเหลือโพด ธำมะรงค์ งามสมทรงเจ้าตกแต่ง แก้มแป่งแส่งขวัญมาเยอ ขวัญหัวใจและตับปอด จงมากอดใน กายา ขวัญจงมาหายพยาธิ์ อย่าได้คลาดไปไกล อย่าได้ลัยเหินห่าง มาอยู่หว่างในทรวง
ว่ามาเยอขวัญเอย มาฮอดแล้วให้เจ้าอยู่แสนสบาย หายโพยภัยทุกข์โสก วิปโยคทุกข์ หนักหนา เจ้าเป็นมาหายขาดแคล้ว ใสดั่งแก้วไพฑูรย์ เป็นมุงคุลมื้อนี้ ไม้เท้าซี้พยาธิ์หาย พยาธิ์ตาย เอาปลายแหย่ อยู่นำพ่อแม่อย่าได้หนี สามพันปีให้เจ้าหมั่นปานสุเมรุราช ให้เจ้าอาชญ์ดั่งเอราวัณ ดั่งพระจันทร์นวลผ่อง ให้เจ้าค่องคือหลัง ให้เจ้ายังคือเก่า ให้สมเผ่างามงอน คนออนซอนผุดผ่อง คิงเจ้าค่องหายโรคา แนวมันมาทำภายในและภายนอก ว่ามาเยอขวัญเอย ให้มาอยู่กับเนื้อกับคีง ในมื้อนี้วันนี้ อุ อะ มุมะ มูลมา ทีมายุโก โหตุ สัพพะทา อะเนกา อันตะรายาปิ วินัสสันตุ สาธุฯ
อมพระพุทโธ พระพุทธัง ลมพัดต้องใบไม้หน่วงหนาวมาแล้ว ตกเมื่อยามเดือนหก ฝนตก ลงจ้น ๆ ขวัญเจ้าสิไปอยู่ซ้นหลังคาเฮือนไม้ป้องหล่อ ไผเดนอสิมาปั้นถ้าให้ปลาปิ้งป่อนใส่มือ พอมา ฮอดเดือนห้าเมษายนต้นปีใหม่ ฝนตกฮำป่าไม้ ขวัญหล้าให้ต่าวมา ขวัญแข่งให้มาอยู่แข่งลีลา ขวัญขาให้มาอยู่ขาลีล้อย ขวัญท้องน้อยและฮาวนม ขวัญคอกลมและคิ้วก่อง ขวัญส้นหน่องและ ฮาวแขน ขวัญเหมิดโตนวลละใหม่ ให้มาอยู่ในเนื้อและฮาวคีงสามื้อนี้วันนี้ ฝนตกเจ้าอย่าด่วนไป หน้า ฟ้าฮ้องเจ้าอย่าด่วนไปไกล ให้เจ้ากลับมาสามื้อนี้วันนี้เดี๋ยวนี้ มาฮอดแล้วกูจักใส่กระแจขวัญ นะผูก โมมัด พุทยัด ธาอุด ยะปีด สัพพะทุกขา สัพพะภะยา สัพพะโรคา วินาสสันตุ สาธุ
การทำพิธีเชิญขวัญคู่บ่าวสาว เรียก สู่ขวัญแต่งงาน ตามประเพณีของอีสาน ชายหญิงที่จะเป็นผัวเมียกันนั้น จะต้องทำพิธีสู่ขวัญเพื่อเป็นการผูกมัดกันในระหว่างชายหญิง และเป็นการประกาศให้ญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายรับทราบ การเลือกคู่ครองนั้นพ่อแม่มักจะสอนเสมอๆ ว่า ให้เลือกเอาคนเสมอกัน คือ เสมอกันโดยชาติ เสมอกันโดยศาสนา เสมอกันโดยจารีตประเพณี ถ้าเอาคนต่างชาติ ศาสนา ต่างจารีตประเพณี จะได้รับความทุกข์ยากลำบาก เวลาบ้านเมืองเป็นมะโล้นโต้นเต้นเกิดรบราฆ่าฟันกัน ยิ่งจะเป็นทุกข์หนัก
พ่อแม่สอนว่า ผัวเมียนี้คนเดียวโดยฮีต สุขทุกข์ยังอยู่ย้าวถนอมตุ้มต่อกัน ถ้าชาติศาสนาจารีตประเพณีเดียวกัน ถึงจะตกทุกข์ได้ยากก็จะทนุถนอมเลี้ยงดูกัน ไม่มีการดูถูกเหยียดหยามกัน การเลือกคู่ครองเป็นเรื่องสำคัญนัก เปรียบเสมือนการปลูกเรือน ปลูกเรือนผิดคิดจนเรือนทะลาย เอาเมียผิดคิดจนเมียตาย (สมัยปัจจุบัน อาจไม่เป็นเช่นนี้แล้ว เพราะเห็นมีเขยข้าวนอกนาในอีสานเยอะแยะ)
การสู่ขวัญในการแต่งงานนอกจากเหตุผลดังกล่าวแล้ว ยังเป็นการบอกสอนคู่แต่งงานให้รู้สึกสำนึกว่า ต่อแต่นี้ไป เราจะได้เป็นพ่อเป็นแม่คนแล้ว จะต้องรีบสร้างหลักปักฐานให้มั่นคง เพื่อให้ลูกหลานที่เกิดมาได้รับความสะดวกสบาย ทั้งการกินอยู่ การศึกษาเล่าเรียน ในอนาคตข้างหน้า การสู่ขวัญแต่งงานจึงเป็นประเพณีที่ดีงามอีกประเพณีหนึ่งของชาวอีสาน
ศรี ศรี มื้อนี้แม่นมื้อดี มื้อเศรษฐีอะมุตตะโชค โตกใบนี้แหม่นโตกไม้จันทน์ ขันอันนี้ แหม่นขันวิเศษ ผู้เหนือเกษป่อนลงมา เทวดาเอามาสู่ เอามาอยู่ในเคหา สองสามีภรรยาจักได้เกิด พระอินทรเปิดส่องพระแจ พระพรหมแลเผยพระโอษฐ์ ว่ามื้อนี้หายโทษทั้งมวล บรบวรทุกอย่าง ผู้เป็นช่างแต่งพาขวัญ มีทั้งมวนหมากเหมี่ยง พาขวัญเที่ยงใบศรี งามแสนดีเจ็ดชั้น แถนพ่อปั้น แต่งมานำ มีเงินคำพันไถ่ เอามาใส่พาขวัญ บรบวรถ่วนถี่ งามเอาหนี่จั่งเมืองแมน
ฝ้ายผูกแขนห้อยระย้า มาจากฟ้าเมืองพรหม มาเชยชมสององค์อ่อน เข้าบ่อนนอนหมูน หมอน สองเนานอนแขนก่าย ทั้งสองฝ่ายตกลง สองอนงค์ลูกของแม่ มาแหนแห่เฮือนหอ โคตรวงศ์ ยอขันโตก ถึกโฉลกเหลือตา ยกลงมาตั้งใส่ ขันโตกใหญ่ทองคำ เพชรมานำพลอยต่อ นิลมาก่อ ประดับนำ เงินและคำเต็มถาด หลายแสนบาทสินดอง เอามาฮองตกแต่ง บ่ได้แบ่งปันไผ สองหัวใจ มาอยู่ฮ่วม มาอยู่ร่วมเป็นหนึ่งแผ่นทอง คนทั้งสองสมเผ่า เป็นคู่เก่านำมา สองขวัญตามาพบพ้อ จั่งให้พ่อมาขอ จั่งได้ยอขันหมาก ไขคำปากว่าตกลง สมประสงค์ทั้งสองฝ่าย เอาขาก่ายเมียแพง
ผู้เป็นผัวอย่าแข็งคำเว้า เห็นพ่อเฒ่าแม่เฒ่าให้ยำเกรง ผู้เป็นเขยอย่าเสงเสียงปาก อย่า ไปถากคำจา คันไปไฮ่กะให้มา คันไปนากะให้ต่าว ฝั้นเชือกข่าวงัวควาย อยาตื่นสายลุกยาก อย่าได้ ปากเกินตัว ผู้เป็นผัวให้ฮักเมียจนแก่ ให้คือแม่ของโต อย่าพาโลเลาะบ้าน อย่าขี้คร้านนอนเว็น อย่า ไปเห็นสาวแก่ อย่าไปแก่กว่าวงศ์ อย่าไปโกงใส่โคตร อย่าเว้าโพดคันเห็น เฮ็ดบ่เป็นให้ถามไถ่ อย่า ไปใหญ่กว่าลุง อย่าไปสูงกว่าป้า อย่าไปด่าวงศ์วาน อย่าไปพาลพี่น้อง อย่าไปฟ้องซุมแซง
ผู้เป็นเมียอย่าแข็งปากเว้า ตื่นแต่เช้าก่อนผัวโต อย่าเสียงโวสุยเสียด อย่าไปเคียดไววา คันไปไฮ่กะ ฮีบมา คันไปนากะฮีบต่าว เห็นผู้บ่าวอย่าแซนแลน แซนแลน ยินเสียงแคนอย่าไปฟ้อน อย่าไปย้อนใส่เสียง กลอง อย่าจองหองใส่ปู่ย่า อย่าไปด่าอาวอา คันไปมาให้คมเขี่ยม อย่าให้เสื่อม ซุมแซง อย่าไปแฮงฟืดฟาด อย่า ประมาทปู่ย่าโต อย่าไปโสความเก่า อย่าไปเล่าความเดิม อย่าไป เสริมผู้อื่น อย่าไปตื่นเสียงคน อย่าไปวนของ เผิ่น คันเผิ่นเอิ้นจั่งขาน คันเผิ่นวานจั่งส่อย
ให้ไปค่อยมาค่อย เห็นโคตรเห็นวงศ์ อย่าไปโกงเถียงพ่อเถียงแม่ เห็นคนแก่ปากเว้าจาไข อย่าจัญไร ป้อยผีป้อยห่า อย่าไปด่าพี่น้องทั้งผัว อย่าเมามัวสุราเบี้ยโบก ยามขึ้นโคกหาฟืนหาตอง อย่าเสียงหองร้องเพลง แอ๋นแอ่น อย่าได้แล่นป๋าหมู่ป๋าฝูง คันเห็นลุงให้ว่ากะบาด อย่าได้ขาดความ เว้าขานไข ไปทางได๋อย่าได้ช้า คันเห็นป้าให้ว่าคือลุง อย่าหัวสูงไปหมอบมาหมอบ อย่าว่าปอบผีห่า ผีภู อย่าซูลูเอาของบ่อบอก อย่ากลับกลอกปู่ ย่าวงศา ยามไปมาให้วนเวียนแว่ ฮักคือพ่อคือแม่ปู่ย่า ของโต อย่าพาโลต๋อแหลหลอนหลอก อย่าไปบอกใช้สิ่งเอาของ ผิดูธรรมนองครองของลูกใภ้ กว่าสิได้ลูกเผิ่นมาแยง อย่าเว้าแข็งคำหวานโอนอ่อน
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญสองเจ้าให้มาถ่อนมาอยู่นำกัน อย่าไปปนคนธรรพ์ในป่า อย่าไป ท่าน้ำหลากไหลแฮง อย่าไปแยงผาชันพันยอด ว่ามาเยอขวัญเอย สองเจ้าจ่งมากอดเป็นมิ่งสาย แนน เอาสองแขนจับกันไว้แน่น ขวัญเจ้าแล่นไปไกล ขวัญเจ้าไปในป่า ขวัญเจ้าหนีลงท่าไปเฮือ ขวัญเจ้าไปเมืองเหนือและเมืองลุ่ม ขวัยเจ้าไปอยู่พุ่มเฟือยหนาม ขวัญเจ้าไปนาทามนาฮ่อง ขวัญ เจ้าไปหลงป่องทางมา ขวัญเจ้าไปตามหาสาวบ่าว ขวัญบ่ต่าวคืนมา ขวัญไปคาอยู่ในเงื้อม อยู่ใน เหลื่อมผาชัน กะให้มาสามื้อนี้วันนี้
ขวัญเจ้าไปอยู่ลี้เมืองหงสา ขวัญบ่มาอยู่พม่า ขวัญไปค้าอยู่เมาะลำเลิง ขวัญไปเหิงบ่ต่าว กะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ขวัญเจ้าไปอยู่ถ้ำเมืองแกวไม้ล้มแบ่ง ขวัญเจ้าไปแห่งแห้งทางก้ำฝ่ายเขมร กะให้มาสามื้อนี้วันนี้ ขวัญเจ้าไปทางก้ำเมืองเชียงตุงจีนตาด ขวัญเจ้าไปชมตลาดกว้างกวางตุ้ง ให้ดุ่งมา ขวัญเจ้าไปหาค้นแพรลาย ๆ พายถงย่าม เห็นงาม ๆ อย่าได้ใกล้ไปแล้วให้ต่าวมา ว่ามา เยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไปทางใต้เมืองสุไหงตัดท่ง เมืองเบตงอยู่หย่อน ๆ อย่านอนค้างให้ต่าวมา
ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญแข่งให้เจ้าย่างลีลา ขวัญขาให้เจ้ามาลีล้าย ๆ มานอนนำอ้าย ผู้เป็นผัว มากินนัวจ้ำป่น ผัวพาก่นขุดตอ ผัวพายอเงินล้าน มาอยู่บ้านดอมกัน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญสองเจ้าเฮ็วพะลันมาด่วน พากันชวนฮ่วมห้องนอนซ้อนหน่วยหมอน มาอยู่ซ้อนซอนห่มลม หนาว ว่ามาเยอขวัญเอย เมียนอนต่ำ ผัวให้นอนสูง เตียงไม้ยูงพ่อแม่แต่งไว้ เผิ่นแต่งให้ม่านใส่ทั้ง สอง หมอนมาฮองเฮียงกันเป็นคู่ เผิ่นให้อยู่นำกันอย่าหนี หลายนานปีจนแก่จนเฒ่า ขวัญหมู่เจ้าให้ แล่นมาเยอ
ว่ามาเยอขวัญเอย มาอยู่เฮือนหลังใหญ่ เผิ่นปลูกใส่เป็นเฮือนหอ เผิ่นปลูกยอเป็นของ อ่อน ปลูกไว้ก่อนคอยบุตตา พากันมาอย่าชักช้า มาอยู่ห่มเฮือนงาม มาอยู่ผามหลังอาจ แม่ปูสาด ทั้งหมอนลาย ของกินหลายเหลือหลาก บ่อึดอยากแนวใด๋ ว่ามาเยอขวัญเอย มาไว ๆ มาหาพ่อ มาหาแม่ พวกเฒ่าแก่อาวอาเผิ่นกะมาคอยอยู่ มาฮอดปู่คอยหลาน ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าไป อย่าอยู่นาน อย่าไปพาลกับหมู่ จงมาอยู่ดอมกัน จวงจันท์หอมตกแต่ง กาบบัวแบ่งอยู่ซอนลอน ตาออนซอนเตียงตั่ง มีบ่อนนั่งเซามีแฮง คอยจอมแพงสองหน่อ ปานแถนหล่อแถนลอ มาโฮงหอ อย่าได้ช้า ทั้งช้างม้าแลงัวควาย ตาเว็นสวยมันสิฮ้อน ให้มาก่อนอย่าไปไกล อย่าไปใสตาเว็นค่ำ ตกใต้ต่ำมัวเมา
ว่ามาเยอขวัญเอย จงมาเซานำพ่อ จงมาก่อแบ่งสาน มาอยู่ซานอย่าห่าง อยู่ตะหล่าง เฮือนโต ว่ามาเยอขวัญเอย มาเชยชมในห้องเตียงทองบ่อนเผิ่นแต่ง สองจอมแพงให้ต่าวโค้ง มา ถ่อนอย่าสุนาน จงสำราญด้วยคาถาว่า อเนกเตโช ไชยะตุ ภะวัง ไชยะมังคะลัง สุขังพะลัง อาวาหะ วิวาโห สุมังคะโล โหตุ สาธุฯ
สู่ขวัญงานเเต่ง - พ่อสาลี บ้านคำบอน อำเภอสว่างเเดนดิน จังหวัดสกลนคร
การทำพิธีเชิญขวัญพระสงฆ์ เรียก สู่ขวัญพระสงฆ์ พระสงฆ์เป็นแก้วดวงหนึ่งในแก้ว 3 ดวง แก้ว 3 ดวง คือ พระพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ พระสงฆ์ถือเป็นแก้วที่สำคัญดวงหนึ่ง เพราะนำพระพุทธศาสนามาแล้วเทศน์อบรมสั่งสอนให้ชาวพุทธรู้จักบาป บุญ คุณ โทษ ประโยชน์ มิใช่ประโยชน์ บางคนเข้าใจว่าพระสงฆ์ไม่จำเป็นต้องสู่ขวัญให้ เพราะท่านหนีจากสิ่งเหล่านี้ไปแล้ว ความจริงพระสงฆ์ก็เป็นพระของพวกเรา เป็นลูกหลานของพวกเรา เราไม่ยกย่องลูกหลานของเรา เราจะไปยกย่องใคร
พระสงฆ์ส่วนหนึ่งท่านก็เป็นชาวโลก เกิดอยู่ในโลก ลาภยศ สรรเสริญ สุข เป็นของที่คนอยู่ในโลกจะพึงได้จะพึงมี เมื่อเป็นเช่นนี้ทำไมท่านจึงไม่ได้รับสิ่งที่ชาวโลกเขาได้เขามี พระพุทธเจ้าพระองค์เป็นพระบรมศาสดาของชาวพุทธ มีนักปราชญ์ราชบัณฑิตถวายพระนามพระองค์ว่า เป็นพระสัมมาสัมพุทธบ้าง พระอรหันตสัมมาสัมพุทธบ้าง และพระนามต่างๆ นับไม่ถ้วน พระนามที่ถวายนั้นพระองค์ทรงรับ เพราะเป็นความจริง
แต่ที่สำคัญที่สุดคือพระองค์ไม่ยึดมั่นถือมั่น ถือเป็นเรื่องของโลกธรรม ใครที่เกิดขึ้นมาในโลกนี้แล้ว มีไหมที่ไม่ต้องการลาภ ไม่ต้องการยศ ไม่ต้องการสรรเสริญ ไม่ต้องการความสุข ลองถามดู การสู่ขวัญพระสงฆ์ให้มีกำลังใจในการบำเพ็ญศาสนกิจ เป็นกุศโลบายของชาวอีสานที่น่าสรรเสริญอย่างหนึ่ง.
ศรี ศรี สิทธิพระพรบวรอติเรก อเนกเตโช มโหฬฤกษ์ อธึกอัทธา อตุลคุณ พหุลเตโช ไชยะมังคะลัง สุรินทร์ อินทร์พรหม ยมยักษา สุนักขัตตา สุมังคะลา อุตตะมะโชค อุตตะมะโยค อุตตะมะดีถี อุตตะมะนาที มะหาสักขีพิลาส ด้วยอำนาจอันฤาชา อันฝูงข้าทั้งหลายหมายมาก้ม เกษา ให้ได้อยู่ในเพศสมณาคุณ เป็นดั่งบุญไขขอบ มากราบหมอบวันทา ญาติกามาพอหมู่ มา โฮมอยู่วันทา ทั้งอุบาสิกา อุบาสกยกขันโตก พาขวัญโชคนำมาแปลง นำมาแยงหลิงต่อ
ลูกหลานพ่อบวชเป็นสงฆ์ ถ้วนทุกองค์งามสะอาด ผิวผุดผาดผ่องใสสี ถือศีลดีครบบ่ขาด เป็นนักปราชญ์อาจารย์ เป็นสมภารน้อยหน่อ ผู้สืบต่อพระคัมภีร์ เป็นผู้มีบุญมาก ศีลหลายหลาก ตามทำนอง ถือตามครองครัดเคร่ง ขอให้เก่งทางธรรม จงจดจำเป็นยอดไปตลอดพรรษา ดั่งคงคา ไหลหลั่ง ให้เจ้านั่งเทศนา มีปัญญาล้ำเลิศ แสนประเสริฐเหลือหลาย อธิบายพระธรรมนำโชค ทาง โลกแลทางธรรม จงนำคำพระเจ้า เป็นหน่อเหง้ามีปัญญา ทรงวัสสาอย่าท้อถอยเฒ่า แผ่ผลเท่า ทรงสุตตนิกาย สูตรทั้งหลายอันล้ำยิ่ง จบทุกสิ่งวินัยธรรม ไขเป็นคำแจ้งจอด เท่าฮอดมหาปัฏฐาน มีทั้งลังกาวุตโตทัยไขเฮืองราช ให้เป็นอาชญ์มั่นเทียระฆา
ฝูงข้าทั้งหลายพร้อมกันมาถวายบูชา แก่สมเด็จสังฆราชามหาราชครู ภิกษุสามเณรเจ้า ดังนี้ ฝูงข้าจึงได้ปรารถนาต่าง ๆ บางผ่องปรารถนาเอาเข้าของมวลมาก สมบัติหลากโลกีย์ เป็น เศรษฐีมีรัตนะเนืองนอง เงินกองคำม้ามิ่ง นับด้วยสิ่งอสงไขย์ บางผ่องปรารถนาเป็นพระยาจักร- วัตติราช ขอให้ชนะขาดผาบแพ้ทวีปชมพู บางผ่องปรารถนา เถิงสัพพัญญุตัญญาณ นำสัตว์เข้าสู่ นิพพานอันวิเศษ บางผ่องปรารถนาเป็นพระปัจเจกโพธิญาณอันล้ำยิ่ง พ้นจากสิ่งสงสาร บางผ่อง ปรารถนาเป็นพระอรหันต์เป็นที่แล้ว อย่าให้แคล้วคำปรารถนา ขอจงให้อุดมสัมฤทธิ์ จงประสิทธิ์ แก่ฝูงข้าทั้งหลาย
จัตตาโร ธัมมา วุฒิธรรมทั้งหลายอย่าได้ห่าง อย่าได้ต่าง อย่าได้เขินเป็นหาด อย่าได้ ขาดเขินวัง จงสมหวังอานันต์เนก ให้เป็นเอกในศาสนา ให้รักษาพระธรรมพระสูตร ให้ได้พูดแก่คน ทั้งหลาย ให้ขยายพระธรรมตรัสแก่ ให้ได้แผ่พระธรรมวินัย จงอย่าลัยพุทธศาสน์ ไปประกาศแก่คน ทั้งหลาย ไปขยายทั่วชมพูทวีป ว่ามาเยอขวัญเอย ขวัญเจ้าจงมาอยู่ในอาราม ขวัญเจ้าจ่งมางาม ในศีลธรรมองอาจ อย่าได้ขาดเสียสี อย่าได้มีหมองหม่น อย่าได้โค่นเพพัง ให้เจ้าฝังเป็นแก่น ให้ เจ้าแน่นดั่งศิลาแรง ให้เจ้าแข็งดังหินแสนก้อน อย่าได้ย้อนถอนเป็นดั่งเขาพระสุเมรุ บ่อเหงี่ยง ให้ เจ้าเที่ยงดั่งตาซิง ให้เจ้าอิงพระพุทธ อย่าได้ทรุดเอนเอียง ให้เจ้าสูงเพียงฟ้า ให้เจ้างามทั่วหล้า แดนไตร
ไปทางใดมีผู้แห่ ให้เป็นแก่ในศาสนา ให้สมปรารถนาในคำสอนพระพุทธเจ้า ทุกค่ำเช้า ภิกขาจาร อย่าหันเหศีลออก กิเลสลอกหนีหาย สมความหมายทุกอย่าง อย่าได้ห่างพระวินัย จงสดใสในธรรมเลิศ จงประเสริฐในศาสนา ขอจงให้อุดมด้วยจตุพรพิธพรชัยทั้งสี่ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ อโรคยาอันถ้วนห้า ปฏิภาณอันถ้วนหก อธิปไตยะอันถ้วนเจ็ด จงเสด็จลงมารักษา ยังขันธสันดานแห่งเจ้าอาวาส และภิกษุสามเณรเจ้า ตราบต่อเท่าเข้าสู่พระนิรพานทุกตน ทุกองค์ ก็ข้าเทอญ
ฮ้ายกวาดหนี ดีกวาดเข้ามาใส่ ให้เจ้าไต่ ตามธรรม อยู่ในครองธรรมของพระเจ้า ทุกค่ำเช้าให้เจ้าอยู่สวัสดี ให้เจ้ามีชัยและผาบแพ้ กิเลสฮ้าย ฝูงหมู่พญามาร ขออย่าได้มาพาลและบังเบียด ขอให้พระคุรเจ้าจงมีอายุมั่นขวัญยืน ให้เป็นผืนฉัตร กั้ง เป็นที่ยั้งที่เผิ่งแก่ชาวพุทธทั้งหลาย ให้ได้ดังพระคาถาว่า
โส อัตถะลัทโธ สุขิโต วิรุฬโห พุทธสาสะเน อะโรโค สุขิโต โหหิ สะหะ สัพเพหิ ญาตีภิ สาธุ
การทำพิธีเชิญขวัญพระพุทธรูป เรียก สู่ขวัญพระพุทธรูป พระพุทธรูปท่านมีจิตใจหรือ ทำไมเราจึงสู่ขวัญให้ท่าน เมื่อเราสู่ขวัญให้ท่านแล้วท่านจะดีใจหรือไม่ ปัญหาเหล่านี้เป็นความข้องใจของชาวพุทธบางคน การนับถือพระพุทธศาสนานั้น ถ้าเราไม่นับถือพระบรมศาสดาผู้เป็นเจ้าของพระพุทธศาสนา เราจะไปนับถือใคร ใครเป็นผู้สอนให้เรารู้จักบาป บุญ คุณ โทษ ประโยชน์ มิใช่ประโยชน์ ใครเป็นผู้สอนให้เรารู้จักมนุษยโลก เทวโลก พรหมโลก และนิพพาน พระพุทธเจ้าพระองค์เดียวเป็นคนสอนอย่างนี้
ภาพนี้เมื่อคราวที่ครูมนตรี - ครูสุวิมล โคตรคันทา และครอบครัว น้อมถวายพระพุทธรูปองค์ประธานวัดบ้านตาติด
เมื่อเราได้ความรู้จากท่านแล้วควรจะรู้จักคุณของท่าน ถึงท่านจะนิพพานไปนานแล้ว แต่ก็ยังมีพระพุทธรูปเป็นตัวแทนอยู่ ดังนั้นคนโบราณอีสานที่นับถือพระพุทธศาสนา เมื่อถึงเทศกาลเดือนห้าของทุกปี ชาวอีสานทุกวัดจะนำพระพุทธรูปลงมาให้ญาติโยมหดสรง เป็นเวลานานถึงหนึ่งเดือน คือตั้งแต่วันขึ้นหนึ่งค่ำเดือนห้าเป็นต้นไป เมื่อครบกำหนดแล้วก็ทำการสู่ขวัญพระพุทธรูป คือเป็นการประกาศให้ชาวพุทธทุกคนทราบว่า นี่คือพระพุทธรูปซึ่งเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า เรามาหดสรง มาเคารพสักการะบูชาตัวแทนของพระองค์
การกราบการไหว้การสักการะบูชาด้วยดอกไม้ของหอมเป็นอามิสบูชา การประพฤติตนตามคำสอนของพระองค์คือ ละชั่วทำดี และทำใจให้ผ่องใส เป็นการปฏิบัติบูชา มีอานิสสงส์มาก ทำให้ผู้ประพฤติปฏิบัติตามได้รับความสุขกายสบายใจ การสู่ขวัญพระพุทธรูปของชาวอีสานเป็นอามิสบูชา และปฏิบัติบูชาตรงตามคำสอนของพระพุทธองค์โดยแท้.
ภาพนี้เมื่อคราวที่ครูมนตรี - ครูสุวิมล โคตรคันทา และครอบครัว น้อมถวายพระพุทธรูปองค์ประธานวัดบ้านตาติด
ศรี ศรี ปีเดือนแกมถึงเขต พระสุริเยศเข้าสู่ราศรี ผิจ๊กปุน เป็นปี เป็นเดือน เป็นวัน มื้อนี้แม่นมื้อ ......... (ให้บอกวัน, เดือน, ปี ปัจจุบัน) วันนี้เป็นวันมหามงคลอันวิเศษ ฝูงข้าทั้งหลาย ยอมือถวายใส่เกษเกล้า นบพระเจ้า ตนมีรัศมีรังษี ถึงเดือนปีมาไต่เต้า องค์พระเจ้าจึงเสด็จลีลา มีวรรณางามสพาส ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย พร้อมกันมากราบไหว้บูชา ฝูงข้าทั้งหลายเอากันมา ขัดลูปไล้ เพื่ออยากได้ดังคำมักคำปรารถนาแห่งฝูงข้าทั้งหลาย บ่ได้มีใจทึบหนา จึงได้ก้มกราบ บาทบาทา ไหว้พระเจ้าตนลือชาเฮืองโลก เพื่ออยากให้สมโชคดั่งคำปรารถนา บ่ได้คลาดแคล้ว ขอให้แล้วยังคำมักคำปรารถนา
ฝูงข้าทั้งหลายบ่มีใจทึบหนาด้วยโทษ ทั้งกริ้วโกรธโกรธา ฝูงข้าทั้งหลายจึงเอากันมา บายศรีสมโภชพระแก้วเจ้า ทั้งผู้เฒ่าและปานกลาง ทั้งสาวฮามและเด็กน้อย เขามีใจชื่นช้อย เลื่อมใสดี ฝูงข้าทั้งหลายจึงได้มาขัดสีสรงเกษ ตามอุปเทศผู้หวังผล ฝูงข้าทั้งหลายยังได้กระทำ เพียรสร้างกุศลหลายหลาก จึงได้มาอุปฐากเจ้าทรงธรรม ผู้ได้นำคำสอนผายโผด สัตว์โลกให้พ้น จากโอฆะสงสาร ขอให้เถิงนิรพานอันล้ำเลิศ ฝูงข้าทั้งหลายบ่ได้เหมิดเสี่ยงความยินดี ต่อพระชินศรี ตนเป็นเค้า เป็นเจ้าแก่คน และเทวดาทั้งหลาย ตนมีรัศมีอันฮุ่งเฮืองบ่เศร้า ตราบต่อเท่า 5 พระ พันวัสสา
ฝูงข้าทั้งหลายยังปรารถนาต่างๆ บางผ่องปรารถนาเอาสมบัติอันมาก สมบัติหลากโลกีย์ เป็นเศรษฐีมูลมั่ง นับด้วยชั่งอสงไขย บางผ่องปรารถนาเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช ขอให้ได้ผาบแพ้ ในทวีปทั้ง 4 คัณนา บางผ่องปรารถนาเป็นอินทาธิราช ตนเป็นอาชญ์แก่เทวดาทั้งหลาย บางผ่อง ปรารถนาเป็นพระปัจเจกโพธิญาณอันล้ำยิ่ง ข้ามพ้นทุกสิ่งในโอฆะสงสาร บางผ่องปรารถนาเอา พระสัพพัญญุตตัญญาณอันล้ำเลิศ นำสัตว์ผู้ประเสริฐสู่นิรพาน บางผ่องปรารถนาเถิงอรหันตา มรรคญาณผายผ่อง หมดบาปแล้วแจ้งส่องดั่งคำมักคำปรารถนา ฝูงข้าฯทั้งหลายจงสัมฤทธิ์สวัสดี อยู่ทุกเมื่อ ด้วยความเชื่อพุทธคุณ
จัตตาโร ธัมมา วุฒิธรรม 4 ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ จงเจริญในขันธสันดาน แห่งฝูงข้าฯ ตราบต่อเท้าเข้าสู่เมืองแก้ว กล่าวแล้วคือว่า มหานีรพานทุกตนทุกคน ก็ข้าเทอญ นิพพานะ ปัจจัยโยโหตุ สาธุ สะทา ติฏฐะตุ พุทธะรูปัง สาวกานัง ปะติฏฐะกัง สาธุฯ
ภาพนี้เมื่อคราวที่ครูมนตรี - ครูสุวิมล โคตรคันทา และครอบครัว น้อมถวายพระพุทธรูปองค์ประธานวัดบ้านตาติด
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)