foto1
foto1
foto1
foto1
foto1
ช่วงนี้อากาศปรวนแปรไปทั่วโลก บ้างก็มีพายุรุนแรง แผ่นดินไหว ฝนตก น้ำท่วม ดินพังทลาย จนไร้ที่อยู่ บ้านเฮากะต่างภาคต่างกะพ้อไปคนละแนว บ้างก็ฝนตกจนน้ำท่วม บ้างก็แล้งจนพืชผลแห้งตาย กระจายเป็นหย่อมๆ แบบบ้านเพิ่นท่วมแป๋ตาย นาใกล้ๆ กันนี้ผัดบ่มีน้ำจนดินแห้ง อีหยังว่ะ! นี่ละเขาว่าโลกวิปริตย้อนพวกเฮามนุษย์เป็นผู้ทำลายของแทร่ ตอนนี้ทางภาคเหนือกำลังท่วมหนัก ข่าวว่าภาคอีสานบ้านเฮาก็เตรียมตัวไว้เลย พายุกำลังมาแล้ว ...😭🙏😁

: Our Sponsor ::

adv200x300 2

: Facebook Likebox ::

: Administrator ::

mail webmaster

: My Web Site ::

krumontree200x75
easyhome banner
ppor 200x75
isangate net200x75

e mil

No. of Page View

paya supasit

ju juคันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า

        ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ##

art local people

เพลงฮิตอมตะนิรันดร์กาล "ลำน้ำพอง" ที่เปิดผ่าคาราโอเกะขึ้นมาแล้ว เป็นต้องแย่งไมโครโฟนร้องกันเลยทีเดียว ใครๆ ก็รู้ว่านี่เพลงของ "หยาด นภาลัย" แต่มีใครสักกี่คนที่รู้ว่า พระเอกในมิวสิกวีดิโอทุกเพลงของ หยาด นภาลัย นั้น ไม่ใช่ตัวจริงเสียงจริงแม้สักนิดเดียว เป็นเพียงผู้แสดงแทนที่ชื่อ "สมมาตร​ ไพรหิรัญ" เท่านั้นเอง

ลำน้ำพอง - หยาด นภาลัย ชุด ลำน้ำพอง

แต่ก็แสดงในทุกมิวสิกวีดิโอเพลงของ หยาด นภาลัย หลายร้อยเพลง จนเป็นภาพจำของใครหลายคนไปแล้ว วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับเขา ตัวจริง เสียงจริงกัน

yaad napalai 1หยาด นภาลัย

ตำนานเสียงอมตะ "หยาด​ นภาลัย" เขาคือใครทำไมจากลูกอีสาน​ อยากเป็นนักร้องลูกทุ่ง​ไฉนมุ่งไปสู่ลูกกรุง​ เจ้าของเสียงนุ่มลุ่มลึกมีเสน่ห์​ ตำนานเพลงอมตะ "ลำน้ำพอง" โดยมีชื่อจริง “หยาดฟ้า กาลวิบูลย์” เกิดเมื่อ 17 สิงหาคม พศ. 2490​ เป็นชาวตำบลแชแล​ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “สุริยพงศ์ กาลวิบูลย์” มีพี่น้อง 18 คน (หยาดป็นบุตรคนสุดท้อง) ของคุณพ่อเสมา และคุณแม่อ่อนจันทร์ กาลวิบูลย์ มีอาชีพทำนา ด้านชีวิตครอบครัว​ นายสุริยพงศ์ กาลวิบูลย์ สมรสกับ​ นางพัชรีย์รัตน์ (อุไร) กาลวิบูลย์ มีบุตรด้วยกัน 2 คน คนแรกเป็นผู้ชาย ชื่อ ปุณณรัตน์ กาลวิบูลย์ (ท็อป) คนที่ 2 เป็นผู้หญิง ชื่อ ชมพูนุช กาลวิบูลย์ (เชอรี่)

เรื่องเล่าเมื่อตอนสมัยยังเป็นเด็ก แม่เล่าว่า เขาได้ตายแล้วฟื้นถึง 2 ครั้ง ทางครอบครัวจึงต้องขออนุญาตกับหลวงพ่อที่วัด ให้มามาบวชเป็นสามเณรเมื่ออายุได้ 7 ขวบจึงได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งภาษาไทย บาลี และภาษาอังกฤษที่วัดในบ้านเกิด จนมีความแตกฉาน ต่อมาเมื่ออายุได้ 10 ปี จนจบชั้น ป.4 จึงได้ลาสิกขา เพื่อเรียนต่อชั้น ม.ศ.1 ที่โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ในเมืองอุดรธานี และเมื่อจบชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 ด้วยความที่ใฝ่เรียนจึงขออนุญาตทางบ้านมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ แต่ไม่มีใครเห็นด้วย

เขาจึงตัดสินใจหนีเข้ากรุงเทพฯ มาเพียงคนเดียว หางานทำและได้โอกาสร้องเพลงในร้านอาหารชื่อ "พรดีไลท์" ติดกับถนนเพชรบุรีตัดใหม่ (ปัจจุบันปิดกิจการแล้ว) ด้วยน้ำเสียงร้องที่คล้ายคลึงกับ​ ชรินทร์ นันทนาคร นักร้องลูกกรุงผู้โด่งดังในยุคนั้น

yaad napalai 5 

ต่อมาได้ไปสมัครทำงานอยู่กับวงดนตรี “จุฬารัตน์” ของ​ ครูมงคล อมาตยกุล ทำหน้าที่เป็นเด็กแบกกลองในวง ร่วมยุคสมัยเดียวกันกับ “พนม นพพร” “สรวง สันติ” และมีโอกาสขึ้นร้องคั่นเวลา โดยมีครูเพลงเช่น ครูไพบูลย์ บุตรขัน ครูมงคล อมาตยกุล พร ภิรมย์ และ นคร ถนอมทรัพย์ เป็นคนแนะนำ เรื่ิองการแต่งเพลงให้ โดยใช้นามปากกาว่า “หยาด นภาลัย” หยาดก็ได้บันทึกเสียงเป็นครั้งแรกในเพลงชื่อ "วันพระไม่มีเว้น" เมื่อปี พ.ศ. 2513 โดยใช้ชื่อนักร้องในครั้งนั้นว่า “ประสพชัย กาลวิบูลย์” แต่เพลงแรกในชีวิตของเขาก็ไม่ประสบความสำเร็จ ด้วยน้ำเสียงที่คล้ายกับชรินทร์ นันทนาครเป็นอย่างมาก

ต่อมาเมื่อวงดนตรี​ จุฬารัตน์ ยุบวง​ จากนั้นเขาได้ย้ายไปอยู่กับวงดนตรี “เพ็ญศรี พุ่มชูศรี” ไม่นานก็ลาออก ด้วยตัวเขาเองมีประสบการณ์การแต่งเพลงลูกทุ่ง ลูกกรุง ในระดับที่น่าพอใจ จึงออกอัลบั้มชุดแรก​ แบบทำเอง ขายเอง ในปี พ.ศ. 2513 คือ หนองหานวิมานร้าง และลำน้ำพอง ในปี พ.ศ. 2521 แต่ไม่ดัง จนในชุดต่อๆ มา คือ พระลอคนใหม่ ในปี พ.ศ. 2524 และลำน้ำพอง ขับร้องโดย นรินทร์ พันธนาคร เมื่อปี พ.ศ. 2527 ช่วงนี้ได้แต่งเพลงชื่อ "สาวน้ำพองสะอื้น" ให้ ดาวใจ ไพจิตร ขับร้องแก้ เพลงจึงเริ่มโด่งดังติดหูคนฟังโดยทำผลงานกับค่าย "โรต้า เทปและแผ่นเสียง"

เขาเคยใช้ชื่อนักร้องหลายชื่อ เช่น ประสพชัย กาลวิบูลย์ และ นรินทร์ พันธนาคร จนต่อมากลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับชื่อนี้ เพราะพ้องกับชื่อของ ชรินทร์ นันทนาคร จนในที่สุดจึงต้องเปลี่ยนเป็น นรินทร์ นภาลัย และต่อมาจึงหันมาใช้ หยาด นภาลัย ที่ ครูนคร ถนอมทรัพย์ ตั้งให้​

จนต่อมาในปี พ.ศ. 2530 ค่ายโรต้าได้ปิดตัวลง หยาด นภาลัย ก็ได้ไปเข้าร่วมในสังกัดค่ายเพลงพีจีเอ็ม (PGM) ได้เป็นศิลปินคนแรกของทางค่ายนี้อีกด้วย และได้นำเพลงดังต่างๆ ที่หยาดได้เคยร้องอยู่นั้น นำมาร้องใหม่ ทำใหม่​ในโปรเจ็ค​ต์​ “อมตะเงินล้าน” มีเพลงเด่นๆ เช่น “ลำน้ำพอง” และบทเพลงเก่าที่เคยดังมาก่อนแล้วมาทำใหม่ ดนตรีใหม่ โดยให้ หนุ่ม ภูไท เป็นผู้เรียบเรียงเสียงดนตรี

yaad sommart

มีผลงานมาตั้งแต่ชุดที่ 1 - 51 ถึอว่ามากที่สุด ในขณะที่อยู่ในสังกัดพีจีเอ็ม แต่ตัวคนร้อง​ หยาด​ นภาลัย​ กลับไม่ได้โชว์หน้าตาออกมิวสิควิดีโอในทุกเพลงด้วยตนเองเพราะเนื่องจากติดปัญหากับทางค่ายต้นสังกัดเดิม​ๆ ของเขา ต้องใช้แค่นักแสดงที่ชื่อ​ "สมมาตร ไพรหิรัญ" มาแสดงเป็นพระเอกในมิวสิกวีดีโอ​ แทนเสียงร้องทำให้คนดูจินตนาการถึงเจ้าของเสียงนุ่มๆ ลึกๆ อมตะๆ​ ผ่านพระเอกมิวสิกวีดีโอ​ ซึ่งรับบทโดย​ "สมมาตร​ ไพรหิรัญ" และทุกเพลงพระเอกต้องเป็นนักแสดงท่านนี้เท่านั้น​ จนคนดูเข้าใจผิดคิดว่า​ สมมาตร​ ไพรหิรัญ​ คือ​ หยาด​ นภาลัย จนในที่สุดเขาก็หมดสัญญากับทางค่าย

ต่อมาในปี 2540 หยาด นภาลัย ได้บันทึกเสียงเพลงอีกครั้งในชื่อชุด "กล่อมกรุง" โดยนำเพลงเก่าของนักร้องรุ่นพี่ อย่าง ชรินทร์ นันทนาคร, สุเทพ วงศ์กำแหง, ธานินทร์ อินทรเทพ,ฯลฯ อาทิเพลง เรือนแพ, ท่าฉลอม, แสนแสบ และอีกหลายเพลงจนประสบผลสำเร็จ

ช่วงท้ายชีวิต​ หยาด นภาลัย ยังมีเรื่องราวดราม่า​อีกมากมายของศิลปินอาวุโสท่านนี้ ระหว่างตัวเขากับบริษัทค่ายเพลงที่เคยร่วมงานกันมาก่อน จนเป็นข่าวและหมดสัญญาแล้ว (ก็เรื่องลิขสิทธิ์เพลงที่ไม่ชัดเจนในอดีตนั่นแหละ) ประเด็นที่น่าเห็นใจคุณหยาดก็คือ แกไม่มีสิทธิ์รับงานโชว์ตัว หรือมีรายได้ทางอื่นเหมือนนักร้องทั่วไปเลย เนื่องจากทางค่ายระบุในสัญญาว่า จะต้องไม่เปิดเผยหน้าตา (สาเหตุที่ในมิวสิกวีดิโอต้องเป็นคุณสมมาตร ก็น่าจะประเด็นนี้ด้วยมั๊ง) ทำให้เกิดมีปัญหาความเครียดสะสมมากขึ้น รวมทั้งป่วยเป็นโรคเบาหวาน และกลายเป็นอัมพฤกษ์ ตั้งแต่ปี​ พ.ศ. 2540 เป็นต้นมา รักษาตัวนอนป่วยอยู่นานถึง 13 ปี​ ติดเตียง พูดไม่ได้มา 5 ปี​ จนวาระสุดท้ายของชีวิต หยาด​ นภาลัย ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 จากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน และเส้นเลือดในสมองแตก รวมอายุได้ 63 ปี

yaad napalai 4

หนุ่ม ภูไท ผู้เรียบเรียงเสียงประสาน และนักแต่งเพลงคู่ใจ “หยาด นภาลัย” ได้กล่าวถึงเขาว่า "เรื่องที่แกล้มลงป่วยเพราะแกไปร้องเพลงอยู่ แล้วก็ล้มในห้องน้ำแล้วไม่ได้เอาไปส่งโรงพยาบาล กินยาหม้อสมุนไพร ถ้าเอาไปส่งโรงพยาบาลคงหาย ผมจะคอยดูว่าคนที่เอาไปร้องเพลงเนี่ยจะมามั๊ย ล้มแล้วแกเดินไม่ได้เลย ป่วยล้มหมอนนอนเสื่อมาเป็นสิบๆ ปี และแกอาภัพหลายอย่าง เช่น เรื่องรูปร่าง เพราะว่ามีแต่คนอยากได้นักร้องหล่อๆ ถ้าไม่หล่อเขาไม่ให้ออกในทีวี ความน้อยเนื้อต่ำใจมันมีมาก แกเป็นคนเก็บกดแกไม่พูด กลุ้มก็เอาเหล้ามากินจบ

เป็นนักร้องที่น่าสงสารมาก ชุดแรกที่ผมทำให้มีหลายเพลง ลำน้ำพอง น้ำพองสะอื้น อยู่แต่ละบริษัท ทำกับหลายบริษัท ซึ่งบริษัทที่มีการโกงฟ้องกัน โดนยึดตึก เพราะอ้างว่าเบิกเงินเกิน ผมคิดว่าไม่น่าทำกันได้ ผมเศร้าใจเหลือเกิน ซึ่งเพลงที่ผมทำให้กับหยาดตอนนี้ก็ยังเอาเพลงไปวางขายอยู่

ที่ผ่านมาหยาดเขาไม่ออกต่อหน้าสื่อ เพราะบริษัทคิดว่า ถ้าเขาออกไปแล้วคนจะไม่ซื้อ หน้าตาแกก็ไม่ใช่ขี้เหร่หรอก แต่ว่ามุมมองคนมันมองคนละอย่าง จุดด้อยแกมีเยอะเลยไม่อยากให้ออกต่อหน้าสื่อ สมัยนี้ไม่มีแล้วนักร้องระดับนี้แล้ว เขาร้องเพลงดีมากแต่ละเพลงที่ร้องใส่อารมณ์เยอะมาก เพลงที่จะเพราะได้ ดีได้ จะมีแต่ดนตรีไม่ใช่นะ มันต้องประสานกันดนตรีดี ร้องดีอันดับแรกมันอยู่ที่อารมณ์เพลง แต่แกก็ไม่ค่อยจะเข้าในวงการเท่าไหร่ ซึ่งลิขสิทธิ์เพลงตอนนี้อยู่ที่ภรรยาแล้ว แต่ใครจะเอาผมก็ขายได้"

yaad napalai 2yaad napalai 3

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ปี ​2514 จนถึงปี 2541​ รวมผลงานเพลงที่เป็นผู้แต่งและร้องเอาไว้มีไม่ต่ำกว่า 500เพลง หยาด​ นภาลัย​ เคยปั้นคนอื่นๆ เป็นศิลปินอีกด้วย คือนิตยา นภาลัย ก้อง นภาลัย และ พร นภาลัย

นายสุริยพงศ์ กาลวิบูลย์ หรือ “หยาด นภาลัย” ได้รับการเชิดชูเกียรติ รางวัลศิลปินผู้สร้างสรรค์ “อมรศิลปินมรดกอีสาน” สาขาศิลปะการแสดง (นักร้องเพลงลูกกรุง) พ.ศ. 2562 จาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น

สมมาตร ไพรหิรัญ คอนเสิร์ตจากใจถึงใจ รำลึกถึง หยาด นภาลัย

isan word tip

isangate net 345x250

ppor blog 345x250

adv 345x200 1

นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)