คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
ศิลปการฟ้อนรำของชาวอีสาน มีหลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละถิ่น ตามอิทธิพลของกลุ่มชนพื้นเมืองในละแวกนั้นๆ เช่น ทางอีสานใต้ก็จะมีอิทธิพลของเขมรปะปนอยู่มาก ทางด้านเหนือก็มีอิทธิพลจากทางล้านช้าง ทางสกลนคร นครพนม มุกดาหารก็มีชนเผ่าพื้นเมืองในถิ่นนั้นเช่น ย้อ โซ้ ภูไท อย่างไรก็ตามเราก็พอจะจำแนกการฟ้อนออกเป็นประเภทต่างๆ ได้ดังนี้
การฟ้อนศิลปาชีพ นับเนื่องได้ว่า พัฒนาขึ้นมาจากการประชุมของยูเนสโก (UNESCO) เมื่อราวปี พ.ศ. 2513 เพื่อที่จะส่งเสริมและฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมประจำภาคในท้องถิ่นต่างๆ จึงได้มีการนำเอาการประกอบอาชีพต่างๆ มาจัดทำเป้นชุดฟ้อนขึ้น การฟ้อนศิลปาชีพนี้จะสะท้อนให้เห็นขั้นตอนในการประกอบอาชีพนั้นๆ
ชุดฟ้อนศิลปาชีพ นี้มีการแสดงในหลายภาค เช่น ในภาคเหนือก็มี ฟ้อนสาวไหม จ้องบ่อสร้าง ในภาคตะวันออกก็มี ระบำข้าวหลามหนองมน ระบำพัดพนัสนิคม ระบำทอผ้า ระบำศิลปาชีพ ส่วนในภาคใต้มีระบำสิลปาชีพที่มีชื่อเสียงมาก คือ ระบำปาเต๊ะ ระบำทำตาลบ้านระโนด ระบำร่อนแร่ ระบำปั้นหม้อ ส่วนในภาคอีสานก็เช่นเดียวกัน มีการประดิษฐ์ระบำศิลปาชีพขึ้นมาในหลายๆ รูปแบบด้วยกัน ซึ่งระบำศิลปาชีพของอีสานนั้น จะเน้นให้เห็นถึงอาชีพหลักของชาวอีสานนั้นก็คืออาชีพการทอผ้า
ชาวอีสานส่วนใหญ่มีอาชีพทางเกษตรกรรม โดยเฉพาะการทำนา เพราะฉะนั้นหลังฤดูการเก็บเกี่ยว ชาวอีสานก็จะว่างจากการทำงานก็จะทำอาชีพรอง เช่น การทอผ้า การจักสาน การทอเสื่อ ฯลฯ ซึ่งพอจะทำให้มีรายได้เสริมเพิ่มขึ้นได้ อาชีพรองที่ชาวอีสานทำกันในแทบทุกจังหวัดของภาคอีสาน คือ การทอผ้า ดังนั้นชุดฟ้อนของภาคอีสานจึงมีชุดฟ้อนศิลปาชีพ ที่เกี่ยวกับการทอผ้ามากที่สุด เช่น รำตำหูกผูกขิด เซิ้งสาวไหม ฟ้อนเก็บฝ้าย ฟ้อนเข็นฝ้าย และฟ้อนแพรวา ฟ้อนอาชีพจึงเป็นการอนุรักษ์อาชีพของชาวอีสาน และเป็นการเผยแพร่ให้คนในท้องถิ่นอื่น เห็นความสำคัญของหัตถกรรมพื้นบ้านอีกด้วย ฟ้อนศิลปาชีพอีสานมีหลายชุดด้วยกัน
ฟ้อนเข็นฝ้าย - เซิ้งสาวไหม - ฟ้อนแพรวา - เซิ้งข้าวปุ้น | รำบ้านประโดก - เซิ้งปลาจ่อม - เซิ้งแหย่ไข่มดแดง - เรือมศรีผไทสมันต์
การทอผ้าขิด เป็นเรื่องที่มีความยุ่งยากซับซ้อนเป็นอย่างมาก ต้องใช้ความพยายามอย่างสูงในการทอผ้าขิด ชาวอีสานจึงถือว่าผ้าขิด เป็นของสูงจะใช้ในพิธีสำคัญๆ เท่านั้น เช่น พิธีแต่งงาน เป็นต้น อุปกรณ์ที่สำคัญในการทอผ้าลายขิด
ขบวนการในการเตรียมฝ้ายก่อนทอ
ลายขิด มีอยู่มากมายแต่แบ่งออกเป็นลายใหญ่ๆ ได้ 4 ประเภท คือ ขิดลายสัตว์ ขิดลายพันธุ์ไม้ ขิดลายสิ่งของ เครื่องใช้ และขิดลายเบ็ดเตล็ด
การแสดงชุด "รำต่ำหูกผูกขิด" เป็นการแสดงให้เห็นขั้นตอนต่างๆ ในการทอผ้าลายขิด ตั้งแต่เริ่มเก็บฝ้าย การกวักฝ้าย การค้นหูก การปั่นด้าย จนกระทั่งทอเป็นผืน
เครื่องแต่งกาย ผู้แสดงหญิงล้วน เสื้อแขนกระบอกคอกลมนุ่งซิ่น ใช้ผ้าผูกเอว เกล้ามวยทัดดอกไม้
เครื่องดนตรี ใช้ดนตรีพื้นเมืองอีสาน ใช้ลายลำเพลิน และทำนองเซิ้ง
ชาวบ้านแพง อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม มีอาชีพหลักในการทำนา ส่วนอาชีพรองที่ทำชื่อเสียงให้กับหมู่บ้านคือ การทอเสื่อกก "กก" หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ไหล ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญในการทอเสื่อนั้น ชาวบ้านแพงจะปลูกเอง โดยนำหน่อกกไปปลูกบนผักตบชวาที่นำมามัดรวมกันเป็นเกาะ ลอยน้ำกลบด้วยดินโคลน และหาไม้ค้ำไว้ไม่ให้ผักตบชวาลอยไปตามน้ำ การปลูกลักษณะนี้จะได้กกที่มีความสมบูรณ์ มีคุณภาพดีและสามารถเก็บเกี่ยวกกได้ตลอดทั้งปี
เมื่อกกโตเต็มที่ไม่แก่หรืออ่อนเกินไป ชาวบ้านใช้เคียวเกี่ยวกกโดยเกี่ยวลำต้นจนติดดินให้เหลือตอสั้นที่สุด เมื่อได้มาแล้วก็คัดขนาด นำไป "สอย" คือการจักกกให้เป็นเส้นๆ โดยใช้มีดตอก เอาเฉพาะเปลือกข้างนอกให้มีเนื้อสีขาวๆ ข้างในติดเล็กน้อย นำไปตากจนแห้ง แล้วนำไปย้อมสีและตากแดดอีกครั้ง ก่อนนำไปทอเป็นผืน โดยใช้คนสองคน คนหนึ่งทำหน้าที่สอดกกทีละเส้นให้เส้นหัวและเส้นหางกกสลับกันไป อีกคนหนึ่งจะเป็นคนกระแทกฟึมให้เส้นกกชิดกันแน่น เมื่อเส็จแล้วก็นำไป "ไพ" คือการพับเก็บริมเสื่อทั้งสองข้างให้เรียบร้อยสวยงาม
ฟ้อนทอเสือบ้านแพง ได้แรงบันดาลใจมาจากอาชีพการทอเสื่อของชาวบ้านแพง ซึ่งวิทยาลัยคณาสวัสดิ์ โดยอาจารย์พัชราภรณ์ จันทร์เหลือง และอาจารย์สนอง จิตรโคกกรวด เป็นผู้คิดค้นท่ารำเป็นชุดฟ้อนขึ้น ต่อมาอาจารย์ชัชวาลย์ วงษ์ประเสริฐ (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาสารคาม) ได้ร่วมปรับปรุงชุดฟ้อนให้สวยงามยิ่งขึ้น และเปลี่ยนทำนองเพลงเป็นลาวแพนน้อย และเพิ่มทำนองลำเพลินและเซิ้งบั้งไฟเข้าไปในปี พ.ศ. 2531 เพื่อให้ดนตรีประกอบมีสีสันทั้งเร็วและช้า
การแสดงชุด "ฟ้อนทอเสือบ้านแพง" ท่าฟ้อนก็ประดิษฐ์ดัดแปลงมาจาก การนำกกไปปลูก เกี่ยวกก สอยกก (หรือจักกก) นำกกไปตาก พรมน้ำกก ย้อมสีกก ตากกก ต่ำกก (หรือทอกก) จนเป็นผืน
เครื่องแต่งกาย ผู้แสดงหญิงล้วน ห่มผ้าแถบสีสด จับจีบหน้าอกด้านซ้าย นุ่งผ้าถุงยาวสีพื้นมีเชิง คาดเอวด้วยผ้าขิด ผมเกล้ามวยติดดอกไม้สีเหลือง
เครื่องดนตรี ใช้ดนตรีพื้นเมืองอีสาน ประกอบกัน 3 ทำนองคือ ทำนองเพลงลาวแพนน้อย ทั้งจังหวะช้าและเร็ว ลายลำเพลินและลายเซิ้งบั้งไฟ
รำทอเสื่อกกบ้านแพง อำเภอโกสุมพิสัย
ฟ้อนเข็นฝ้าย - เซิ้งสาวไหม - ฟ้อนแพรวา - เซิ้งข้าวปุ้น | รำบ้านประโดก - เซิ้งปลาจ่อม - เซิ้งแหย่ไข่มดแดง - เรือมศรีผไทสมันต์
คลิกไปอ่าน การฟ้อนเพื่อความสนุกสนานรื่นเริง
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)