foto1
foto1
foto1
foto1
foto1
ช่วงนี้อากาศแปรปรวนนะครับ ฤดูหนาวแต่ร้อน และมีฝนตกกระจายทั่วประเทศเลยทีเดียว และตอนนี้ก็ฤดูเก็บเกี่ยวของชาวนาซึ่งไม่ได้เก็บเกี่ยวด้วยมือแบบดั้งเดิมแล้ว แต่หันมาใช้รถเกี่ยวข้าวแทนซึ่งทำได้รวดเร็วกว่ามากๆ แต่ก็มีปัญหาตามมาคือข้าวเปลือกมันยังไม่แห้งเก็บเข้ายุ้งฉางไม่ได้ ต้องมีการตากแดดให้แห้งก่อนสัก 2-3 วัน พอมีฝนมาแบบนี้ก็แย่เลย บางรายก็เอาไปตากบนถนนหนทางซึ่งอันตรายมากๆ อย่าหาทำเด้อพี่น้อง มันผิดกฎหมาย...😭🙏😁

: Our Sponsor ::

adv200x300 2

: Facebook Likebox ::

: Administrator ::

mail webmaster

: My Web Site ::

krumontree200x75
easyhome banner
ppor 200x75
isangate net200x75

e mil

No. of Page View

paya supasit

ju juคันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า

        ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ##

looktung morlum artists

mon rue dee 01มลฤดี พรหมจักร

นางมลฤดี พรหมจักร หรือ นางมลฤดี บุญรถ เดิมชื่อว่า อินทหวา พรหมจักร เกิดเมื่อปีพุทธศักราช 2497 ปีมะเมีย ที่บ้านนาคำ ตำบลฟ้าฮ่วน อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี บิดาเป็นนักบวช ส่วนมารดาประกอบอาชีพทำนา เมื่อสำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก็ได้ช่วยครอบครัวทำไร่ทำนา และเลี้ยงวัว-เลี้ยงควายตามวิถีของเด็กชนบท ที่ไม่มีโอกาสได้เข้าศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น

แต่ในความที่เป็นคนชื่นชอบในหมอลำ ซึ่งเป็นสื่อพื้นบ้านที่สามารถหารับฟังได้ทางสื่อวิทยุในสมัยนั้น  โดยเฉพาะอิทธิพลของหมอลำ อังคนางค์ คุณไชย และฉวีวรรณ ดำเนิน ทำให้สาวส่ำน้อยที่ชื่อ อินทหวา พรหมจักร มีความใฝ่ฝันที่ยากจะเป็นหมอลำบ้าง จึงฝึกฝนการลำด้วยตนเองจากการฟังหมอลำทางสถานีวิทยุ

จนเมื่อ หมอลำสมพงษ์ (จำนามสกุลไม่ได้) ซึ่งเป็นหมอลำในหมู่บ้าน คิดจะตั้งคณะหมอลำขึ้นมา เพราะเห็นว่ามีหนุ่ม-สาวในหมู่บ้านหลายคน มีน้ำเสียงดี รวมถึง อินทหวา พรหมจักร ด้วย หลังจากการตั้งคณะจึงได้ไปเชิญให้ หมอลำคำนึง (จำนามสกุลไม่ได้) มาช่วยสอนการฟ้อนการรำให้ ซึ่งถือเป็นครูคนแรกของหมอลำอินทหวา ได้พัฒนาทักษะในการลำจนเป็นที่น่าพอใจของครู จึงได้รับบทแสดงเป็นเรื่องแรก คือ เรื่อง “นางในโรงแก้ว” และได้รับบทนางเอกประจำคณะ “สมพงษ์ศิลป์” ซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง 16 ปี ได้เปลี่ยนชื่อใหม่ในวงการเป็น มลฤดี พรหมจักร รับบทนางเอกต่อมาจนถึงอายุ 27 ปี หมอลำคณะสมพงษ์ศิลป์ ก็ได้แยกย้ายกันไปเพราะต่างคนต่างก็มีครอบครัว

mon rue dee 02

หลังจากนั้น หมอลำมลฤดี จึงได้ออกไปร่วมแสดงกับคณะหมอลำอื่นๆ เรื่อยมา จนกระทั่งอาจารย์สมาน (ไม่ทราบนามสกุล) แห่งบ้านนาแวง ตำบลนาแวง อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี ได้มาเห็นฝีมือในการลำ จึงได้นำตัวไปฝากกับ คณะหมอลำทองลำ เพ็งดี ซึ่งเวลานั้นหมอลำคณะนี้อยู่ในช่วงขาลง แต่มลฤดีก็ได้รวมกับคณะของ ทองคำ เพ็งดี และ ฉวีวรรณ ดำเนิน ฟันฝ่าอุปสรรคเรื่อยมา จนสามารถมีโอกาสนำกลอนลำที่ตนเองแต่งขึ้นเป็นครั้งแรก จากคำแนะนำของ ทองคำ เพ็งดี บันทึกเสียงในสังกัด บริษัทเสียงสยาม ในรูปแบบการลำภูไท ในชุด “สาวนักเรียนตำตอ"

มลฤดี พรหมจักร : ตำนานสาวนักเรียนตำตอ "ราชินีลำภูไท"

จนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากมหาชนผู้รับฟัง ทำให้ชื่อเสียงของ มลฤดี พรหมจักร เป็นที่รู้จักนับตั้งแต่นั้นจนถึงปัจจุบัน และมีโอกาสบันทึกเสียงอีกหลายชุดทั้ง ลำภูไท ลำผญาย่อย ลำตังหวาย ลำคอนสะหวัน ฯลฯ จึงนับว่าเป็นศิลปินอีสานที่มีความสามารถในการขับลำท้องถิ่น และเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นได้เป็นอย่างดี

  • นางมลฤดี พรหมจักร จึงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็น ศิลปินมรดกอีสาน สาขาศิลปะการแสดง (ขับลำท้องถิ่น) ประจำปีพุทธศักราช 2550 จาก มหาวิทยาลัยขอนแก่น

mon rue dee 03

ออกผลงานลำล่องลำชุด "วิญญานแม่" (ตำนานบุญข้าวประดับดิน) ได้โด่งดังและนิยมสูงสุดอีกรอบ คุณแม่มลฤดี พรหมจักร เป็นศิลปินที่ทำคุณประโยชน์ช่วยเหลือสังคมมาตลอด เช่นงานถ่ายทอดศิลปะการร้องลำให้กับหน่วยงาน หรือสถาบันการศึกษาต่างๆ ตลอดมา

วิญญาณแม่ (บุญข้าวประดับดิน) : มลฤดี พรหมจักร 

จนมาถึงช่วงกลางปี พ.ศ. 2551 ได้ทราบว่าตนเองป่วยเป็นโรคมะเร็งหลังโพรงจมูก ได้เข้ารับรักษากับหมอเฉพาะทางมาเป็นเวลานานหลายสิบปี ถึงปี พ.ศ. 2562 ได้ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ และเป็นอัมพฤกษ์ซีกซ้าย จึงต้องงดการรับงานแสดงหมอลำไว้ก่อน เพื่อหยุดพักรักษาตัวเรื่อยมา

mon rue dee 04

จนกระทั่งได้เสียชีวิตลงอย่างสงบ เมื่อวันศุกร์ที่ 29 กรกฏาคม 2565 เวลา 13.06 นาที ณ บ้านโบกม่วง หมู่ 6 ตำบลนาแวง อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี สิริรวมอายุได้ 68 ปี

mon rue dee 05

ทีมงานเว็บไซต์ประตูสู่อีสาน ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว 'พรหมจักร' ด้วยครับ

redline

backled1

isan word tip

isangate net 345x250

ppor blog 345x250

adv 345x200 1

นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)