คันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ## |
ความทวย เป็นปริศนาหรือปัญหาที่บรรพบุรุษชาวอีสานจินตนาการจากรูปลักษณ์ของสิ่งต่างๆ นั้น แล้วตั้งเป็นปริศนาหรือปัญหาขึ้น ด้วยภูมิปัญญาของตน เพื่อให้ลูกหลานคิดเทียบเคียงแล้วทาย เช่น
จึงได้แต่เสียดายในการสูญหายของ ความทวย หนทางที่จะบันทึกไว้ให้ลูกหลานได้รู้ ได้ทราบเป็นตำนานสืบไปก็โดยการถ่ายทอดบนเว็บไซต์นี้
โอ๋ยน้อท่านเอ้ย
ข้าน้อยสิเด็ดดอกไม้สามดอกไว้ถวาย
ดอกหนึ่งเทียมกั่วกายสูงกั่วชายสองช่วง
บัดยามค่วงลงน้ำบ่สูงเพียงตุ้มหม่อง
ให้เจ้าทายไวว่องลองเบิ่งว่าดอกหยัง
ดอกสองต่ำสูงบ่ฮู้หมื่นพันแสนร้อย
ดอกสองนี่ดอกหน่อยมีหลายคนซุบ้าน
บัดยามบานเกินโพดตัดดอกหน่อยต้นบ่ตัด
ให้ลองวัดปัญญาทายท้าว่าดอกหยัง
ดอกสามยามเฮาเอิ้นดอกหน่วยว่าต่างกัน
บัดเอาผ้ามาปั้นบัดได้อยู่ในเฮือนนอน
อย่าสิว่าโพดถ่อนต้นเกิดฮอดนรก
สามดอกยกมาแล้วลองทายเบิ่งว่าดอกหยัง
ดอกแรกเพิ่นทวยไว้ว่าดอกได๋คิดไปแหน่
เห็นพ่อแก่เพิ่นตากไว้บัดยามหิ้วปลาค่อข่อง
แผ่ห้อยไว้เทิงจั่วเล้าหลังจากเซาขึ้นจากหนอง
ดอกนี่ว่าบ่ขัดข้อง ทวยเพิ่นว่าดอกแหนั่น แนวเอาไว้หากิน
ดอกสองเห็นอยู่หลายล้น หลายคนทวยบ่ผิด
คนบ่คิด เหมิดทางใจ จั่งค่อยได้ถามกู้
ร้อยละสิบซาวห้า สามสิบกะยอมอยู่
ตัดดอกกู้ ตรอมป่วยไข้ จ๊ะแม่นหลายน้อดอกเบี้ย
ดอกสามเฉลยออกดอกบักงิ้วหน่วยบักหนุ่น
มากหลายคุณประโยชน์เหลือจนล้นล้ำ
ผิดเมียลูก ตายตกนรก ชดใช้กรรม
ปีนงิ้วซ้ำ หนามแทงหน่อเนื้อ เจ็บปวดทรมาน ซั่นแหล้ววววววววววววว
ดอกแห
ดอกเบี้ย
ดอกงิ้ว
รู้จักความทวย | ลักษณะของความทวย | ประเภทของความทวย | ความทวยเรียงตามอักษร
คำว่า "ทวย" ในภาษาของคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือคนอีสาน มีความหมายเป็น 2 อย่าง ทั้งเป็นปริศนาหรือปัญหา และเป็นทั้งคำทำนายหรือคำแก้ ทั้งนี้แล้วแต่สถานะที่ใช้ เช่น
คำว่า ทวย ในตัวอย่างทั้งสองข้อ จึงมีความหมายเท่ากับคำว่า ทำนายหรือไข
แต่คำว่า ความทวย ที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้จะหมายถึง ปัญหา หรือ ปริศนา ตามความหมายที่หนึ่งเท่านั้น
คำทวย
รู้จักความทวย | ลักษณะของความทวย | ประเภทของความทวย | ความทวยเรียงตามอักษร
สามัคคีกันไว้ |
|
คนเฮานี้ ต้องเผิ่งอาศัยกัน คือดังปลาอาศัยน้ำ น้ำกะเผิ่งวังปลา ปลาอาศัยวังเวิน จึ่งล่องลอยนาน้ำ ทามอาศัยห้วย งัวควยอาศัยแอก ตาแฮกอาศัยไก่ต้ม จึงโดนตุ้มจากคอน คือดังคอนอาศัยไม้ นกใส่อาศัยโกน คนกะอาศัยคน เผิ่งกันโดยด้าม คามอาศัยหม้อ หมอมออาศัยส่อง ฆ้องอาศัยไม้ฆ้อน ตีต้องจึงค่อยดัง |
|
สามัคคีกันไว้ คือข้าวเหนียวนึ่งใหม่ อย่าได้เพแตกม้าง คือน้ำถืกข้าวเหนียว สามัคคีกันไว้ คือฝนแสนห่า ตกลงมาจากฟ้า ไหลโฮมโห่งอยู่หนอง |
ตกฤดูเดือนอ้าย สายลมมาหนาวหน่วง เฮามาพากันค้ำ ทำบุญตักบาตร |
เดือนนี้ตกหว่างช่วง สังโฆเจ้าเพิ่นเข้ากรรม ปริวาสซ่อยยู้ ซูค้ำศาสนา |
ฮอดเดือนสองอย่าฟ้าวซ้า ข้าวใหม่ปลามัน เชิญเจ้ามาโฮมเต้า อย่าพากันขี้ถี่ |
ให้เฮามาโฮมกัน แต่งบุญประทายข้าว บุญคุณลานตั้งแต่กี้ พากันให้ฮักษา |
ฮอดเดือนสามท้องฟ้า ปลอดโปร่งสดใส่ เหลียวเห็นซุมสาวน้อย พากันปั้นข้าวจี่ พ่องกะบีบข้าวปุ้น ตกแต่งอาหาร |
ไปทางใด๋เห็นแต่คนใจบุญ ซะแซวเป็นคุ้ม เฮือนละสี่ห้าปั้น พอได้เข้าใส่บุญ มีเทิงหวานและคาว หนุ่มสาวมาโฮมต้อม |
ให้คอยซอมไปทางหน้า เดือนสิมาเป็นเดือนสี่ ขวางเขตบ้าน ย่านถิ่นดินอีสาน ตกหว่างตอนคนตั้ง ใจฟังวอนวี่ มีเพียงปีละครั้ง ให้เฮาซ่อยกันสาน |
หลังจากบุญข้าวจี่ สิมีบุญพระเวสเจ้าเฮาสิได้แต่งทาน สุขสำราญเหลือหลาย ม่วนมิ่งกะเลยต้อน ตอนกัณหาชาลี สิพากพ่อแม่แก้วคนสิให้นั่งฟัง จัดเป็นงานประเพณี ให้คนรุ่นหลังฮู้ |
ตกฤดูเดือนห้า สายลมบ่มาผ่าน เดือนนี้บ่ได้ช้า ปีใหม่มาเถิง เต่าสิถามหาบุ้น คนบุญสิมาปล่อย เดือนนี้ม่วนจ้นๆ คนกะหลั่งมาหลาย |
เห็นแต่ดอกจาน บานแย้มเต็มทั่วท่งนา ให้พากันทำบุญ ปล่อยปลาลงน้ำ นกสิงอย ง่ายไม้คอยถ้าตั้งแต่ฝน เอาพระทรายมากอง ก่อเป็นเจดีย์ไว้ |
ฮอดเดือนหกเสียงฟ้า ไขบอกข่าวทางคน สายตามองเห็นแล้ว ในใจกะให้ม่วน เห็นปลาข่าว ปลาซิวปลานิลปลากะเดิด เดือนนี้เหมิดโทษฮ้าย บ่มีเรื่องเลิงหลง เห็นแต่สิใส่เน้น วันเพ็ญสิบห้าค่ำ ไผกะยิ้มเป้ยๆ ลงวัดเวียนเทียน |
มีแต่ฝนกับลม ส่งเสียงกึกก้อง ส่วนว่าเขียดอีโม้ ลำเกี้ยวใส่ผู้สาว แล่นหยอกล้อ กันเล่นเหลือหลาย อัศดงดวงอาทิตย์ ค่ำลงปลายไม้ วิสาขะเลิศล้ำ ชาวบ้านบ่อยู่เสย ได้เวียนมาเถิง นพคุณคลองเค้า |
เดือนเจ็ดเผาความฮ้าย อันตรายบ่มาผ่าน บุญสิมาซ่อยค้ำ ซูส่งราศรี ตั้งแต่คนเฮาได้ เคยได้ยินแต่ปางก่อน |
นิมนต์พระขึ้นบ้าน เล็งเป้าเข้าสู่ธรรม บารมีผลทาน สิไล่มารเลยพ้น บุญชำฮะสละความเดือดฮ้อน เมืองบ้านสิซุมเย็น |
จันทร์เพ็ญแจ้ง ทอแสงใสสง่า เดือนนี้สงฆ์เพิ่นยั้ง เข้าอยู่จำพรรษา เฮามาพากันเข้า ทำบุญพร้อมพร่ำ เดือนแปดคล้อย เห็นลมทั่งใบเสียว กบเพิ่นนอนคอยถ้า ฝนลงมาสิได้ม่วน |
เดือนแปดมาฮอดแล้ว สิแววขึ้นลึ่นหลัง ภาวนาอบรม ข่มใจสู่แลงเช้า ถวายผ้าอาบน้ำ ให้ยาท่านเพิ่นใช้สอย เหลืยวเห็นฝูงปลาขาว แล่นมาโฮมต้อม ลงเล่นน้ำ โซะซะซัวแซว |
เดือนเก้ามาฮอดแล้ว บ้านป่าขาดอน เถิงฤดูเดือนเก้า อีสานเฮาท้องถิ่น พ้นจากมารหยาบฮ้าย พากันอยู่เป็นสุข มีแต่สดใสจ้นๆ คนจนแสนม่วน ขวางเขตบ้าน ย้านป่านาหวาย |
เห็นนกเขางอยคอน ส่งเสียงหาซู้ เคยได้ยินประดับดิน ทานฮอดทอดถวาย โพยภัยทุกข์ อย่าผ่านผายมาใกล้ ต่างกะชวนพี่น้อง ลงโต้งแต่งทาน |
เถิงเดือนสิบสิก่นมันมาต้ม พ่องกะคนต่าน้อย ลงห้วยฮ่องนา ข้าวสากลงไปวัด ให้หมู่สังโฆเจ้า ซุบบักมี้ กะมาพร้อมพร่ำกัน |
พ่องกะงมกอข้าว หาเทากำลังอ่อน เดือนนี้บ่ได้ช้า พากันแต่งทานถง มีลาบเทา พร้อมหมกดักแด้ของดีคั่วกุดจี่ |
เดือนสิบเอ็ดว่านั้น หัวลมอ่วยโซยหนาวสาแล้ว ได้ยินเสียงลมต้อง ปลายสำสาอยู่เวิ่นๆ นกแจนแวนออกฮ้อง หาคู่ผสมพันธ์ ฝูงปลาขาวลงโฮมต้อน ผู้สาวนอนขึ้ค้านตื่น ฟังเสียงฟ้าฮ้องตุ้ม เอิ้นสั่งฤดูฝน เดิกออนซอนจันทร์ใสแจ้ง ทอแสงใสสง่า บัดนี้แล้ววัดสิเป็นกำพร้า บ่มีพระสิมานอน ได้ยินเสียงกลองโย้น วันเพ็ญสิบห้าค่ำ |
ยามผู้สาวสิขาลาย ผู้ชายสิขาเกลี้ยง หมาจอกเอิ้นสั่งซู้ กะปูหม่นเข้าฝั่งหนอง ควายบักเทิกตกมัน แล่ต่ำแต่ต่อพร้าว ปลาดุกบื่นค่อนสิแจ้ง หันหน้าเข้าใส่หลุม ฝูงหมู่คนลงเลาะ ไฮ่นาปลาข่อน ออกพรรษาห่อข้าวต้ม ลมล่อแต่หมู่ปลา มาออนซอนแต่ทายก ไล่แต่งัวเข้ามาเลี้ยง พระสิลาแม่ออกค้ำ ไตรมาสสิสั่งลา |
เหลียวขึ้นเบิ่งท้องฟ้า เห็นแต่ว่าวเดือนสิบสอง พอสมควรหาผ้า กฐินทานมาทอด |
ลมคะนองโชยพัด งายงมกะเลยมั่น ตลอดเดือนหนึ่งพุ้น หาได้ดั่งประสงค์ |
คลิกอ่านต่อ ความทวย
คลิกอ่านต่อ ผญาปัญหาภาษิต
ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)