foto1
foto1
foto1
foto1
foto1
ช่วงนี้อากาศปรวนแปรไปทั่วโลก บ้างก็มีพายุรุนแรง แผ่นดินไหว ฝนตก น้ำท่วม ดินพังทลาย จนไร้ที่อยู่ บ้านเฮากะต่างภาคต่างกะพ้อไปคนละแนว บ้างก็ฝนตกจนน้ำท่วม บ้างก็แล้งจนพืชผลแห้งตาย กระจายเป็นหย่อมๆ แบบบ้านเพิ่นท่วมแป๋ตาย นาใกล้ๆ กันนี้ผัดบ่มีน้ำจนดินแห้ง อีหยังว่ะ! นี่ละเขาว่าโลกวิปริตย้อนพวกเฮามนุษย์เป็นผู้ทำลายของแทร่ ตอนนี้ทางภาคเหนือกำลังท่วมหนัก ข่าวว่าภาคอีสานบ้านเฮาก็เตรียมตัวไว้เลย พายุกำลังมาแล้ว ...😭🙏😁

: Our Sponsor ::

adv200x300 2

: Facebook Likebox ::

: Administrator ::

mail webmaster

: My Web Site ::

krumontree200x75
easyhome banner
ppor 200x75
isangate net200x75

e mil

No. of Page View

paya supasit

ju juคันเจ้าได้ขี่ซ้างกั้งฮ่มเป็นพระยา อย่าได้ลืมคนทุกข์ผู้ขี่ควายคอนกล้า

        ## ถ้าได้ดิบได้ดีหรือได้เป็นใหญ่แล้ว ก็อย่าได้ลืมผู้คนรอบข้าง @อย่าลืมบุญคุณคนที่เคยเอื้อเฟื้อเรา ##

song word

ารเรียนรู้ภาษาอีสานจากเพลง น่าจะเป็นหนทางที่ผู้เรียนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะได้ยินสำเนียงเสียงอีสานจากนักร้อง บางเพลงก็ยังเรียนรู้ความหมายของคำได้ จากละครในมิวสิกวีดิโอได้อีกด้วย ตามคำขอครับสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเพลงอีสานแต่ฟังแล้วเข้าใจความหมายได้ไม่หมด ก็ทำให้ความรู้สึกซาบซึ้งในดนตรีนั้นลดน้อยลง อยากจะทราบเนื้อหาเพลงใด ของนักร้องคนใด ก็บอกกันมาครับ ส่งอีเมล์ไปที่ webmaster (@) isangate.com จะได้นำมาเสนอเป็นลำดับต่อไป ขอแจ้งให้ทราบว่า ผู้จัดทำไม่ได้มีความต้องการโปรโมทเพลงนักร้องคนใด ค่ายใดทั้งสิ้น เพลงที่ถูกคัดเลือกมานำเสนอ จะต้องมีภาษาอีสานแทรกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่แฟนเพลงบางท่านอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ฟังแล้วม่วนแต่บ่เข้าใจ จึงจะได้รับการคัดเลือกมาลงในหน้านี้ครับ

 

ดั่งดวงตะเว็น

ขับร้อง : ไมค์ ภิรมย์พร 
คำร้อง/ทำนอง : อาทิตย์ ศรีสุข 
เรียบเรียง : จิระวัฒน์ ปานพุ่ม 

 

                     คำว่าบ่เป็นหยัง คือคำที่คนผิดหวังเฮามักใช้
                    
(คำว่าไม่เป็นไร คือคำที่คนผิดหวังเรามักใช้กัน)
          เปล่งวาจาออกมายามได๋ กะเฮ็ดให้หาย คลายความอุกอั่ง
           (เปล่งวาจาออกมาเมื่อใด ก็ทำให้หาย คลายความกลุ้มใจ)
          เจอปัญหาที่คาดบ่เถิงให้แนมเบิ่งสายน้ำเป็นโตอย่าง
           (เจอปัญหาที่คาดไม่ถึง ให้มองดูสายน้ำเป็นตัวอย่าง)
          พ้อทางตันมากั้นมาขวาง แต่น้ำยังมีทางให้ไป
         
(พบทางตันมากั้นมาขวาง แต่สายน้ำก็ยังมีหนทางไหลไป)

                  * ดวงตะเว็น ยังขึ้น ทางทิศตะเว็นออก
                      (พระอาทิตย์ ยังขึ้นทางทิศตะวันออก)
         ปัญหาในทุกทุกอย่าง กะยังมีทางออก
          (ปัญหาในทุกทุกอย่าง ก็ยังมีทางออก)
         ใจโทรมโทรม ที่เคยช้ำชอก สู้เด้อ น้อง
          (ใจโทรมโทรมที่เคยช้ำชอก สู้ต่อไปนะน้อง)
         หากความเหงาเพิ่มพูน อยู่บนความเดียวดาย
          (หากความเหงาเพิ่มพูน อยู่บนความเดียวดาย)
         ที่เพิ่งสุดท้ายกะคือโตเจ้าของ
          (ที่พึ่งสุดท้ายก็คือตัวเจ้าของ)
         พักแล้วสู้ใหม่ ดั่งในทุกเช้า แสงยังส่อง
          (พักแล้วสู้ใหม่ ดั่งในทุกเช้าที่แสงยังส่อง)
         ฮู้หน้าที่เจ้าของ ดั่งดวงตะเว็น
        
(รู้หน้าที่ตัวเอง ดั่งดวงตะวัน)

                     บ่มีต้นไม้ต้นได๋ ที่บ่เคยใบร่วงหล่น
                        (ไม่มีต้นไม้ต้นใด ที่ไม่เคยมีใบร่วงหล่น)
         เช่นเดียวกับคนทุกคน
          (เช่นเดียวกับคนทุกคน)
         ที่ต้องผจญเจอความผิดหวัง
          (ที่ต้องผจญกับความผิดหวัง)
         เข้มแข็ง เข้มแข็ง เด้อน้อง บ่ว่า สิเกิดอิหยัง
          (เข้มแข็งเอาไว้นะน้อง ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไร)
         อดสาสู้หายใจอยู่ อย่าถอยหลังให้คนส่า เด้อ
         (อดทนสู้เมื่อหายใจอยู่ อย่าถอยหลังให้คนเขาถากถางเยาะเย้ย นะ)

                     (ซ้ำ * ดนตรี... และ *, *)

         ฮู้หน้าที่เจ้าของ ดั่งดวงตะเว็น
        
(รู้หน้าที่ตัวเอง ดั่งดวงตะวัน)

 

มีคำภาษาอีสานที่น่าสนใจดังนี้

บ่เป็นหยัง = ไม่เป็นไร
ยามใด๋ = เมื่อใด
อุกอั่ง = กลุ้มใจ, คับแค้นใจ
แนมเบิ่ง = มองดู, เพ่ง, ดู
ดวงตะเว็น = พระอาทิตย์, ดวงตะวัน
ฮู้ = รู้, รู้จัก
อิหยัง = อะไร
เฮา = เรา, พวกเรา
กะ = ก็
บ่ = ไม่
โตอย่าง = ตัวอย่าง
ตะเว็น = ตะวัน
เจ้าของ = ตนเอง, ตัวเอง
อดสา = อดทน
มัก = ชอบ
เฮ็ด = ทำ, กระทำ
เถิง = ถึง
พ้อ = พบ, เจอ
โต = ตัว
สิ = จะ
ส่า = ร่ำลือ, กล่าวถึง (มักจะทางไม่ดี)

 

 

ดั่งดวงตะเว็น (ดังดวงอาทิตย์) เพลงให้กำลังใจสู้ไม่ท้อไม่ถอยในภาวะลำบากเช่นนี้ ของนักร้องขวัญใจผู้ใช้แรงงาน ไมค์ ภิรมย์พร ที่เข้ากับสถานการณ์ที่ยากลำบากในภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 หลายคนตกงาน ไม่มีงานทำ รายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต การหวนกลับบ้านเกิดเพื่อพลิกฟื้นผืนดินในบ้านเกิดก็ยังเป็นหนทางหนึ่งที่สามารถทำได้อยู่นะ แต่... ต้องเป็นเกษตรกร ที่ทำเกษตรกรรมยุคใหม่ใช้สมองให้มากขึ้น [ คลิกไปอ่านที่นี่ ]

mike 18

กลับมาบ้านนาเฮากันเด้อ

redline

backled1

 

song word

ารเรียนรู้ภาษาอีสานจากเพลง น่าจะเป็นหนทางที่ผู้เรียนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะได้ยินสำเนียงเสียงอีสานจากนักร้อง บางเพลงก็ยังเรียนรู้ความหมายของคำได้ จากละครในมิวสิกวีดิโอได้อีกด้วย ตามคำขอครับสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเพลงอีสานแต่ฟังแล้วเข้าใจความหมายได้ไม่หมด ก็ทำให้ความรู้สึกซาบซึ้งในดนตรีนั้นลดน้อยลง อยากจะทราบเนื้อหาเพลงใด ของนักร้องคนใด ก็บอกกันมาครับ ส่งอีเมล์ไปที่ webmaster (@) isangate.com จะได้นำมาเสนอเป็นลำดับต่อไป ขอแจ้งให้ทราบว่า ผู้จัดทำไม่ได้มีความต้องการโปรโมทเพลงนักร้องคนใด ค่ายใดทั้งสิ้น เพลงที่ถูกคัดเลือกมานำเสนอ จะต้องมีภาษาอีสานแทรกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่แฟนเพลงบางท่านอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ฟังแล้วม่วนแต่บ่เข้าใจ จึงจะได้รับการคัดเลือกมาลงในหน้านี้ครับ

 

แรงก้อนสุดท้าย

คำร้อง/ทำนอง : สลา คุณวุฒิ 
ขับร้อง : มนต์แคน แก่นคูน 

 

                      คุยกับเม็ดเหงื่อทุกเมื่อยามล้า
                     
(คุยกับเม็ดเหงื่อทุกเมื่อยามล้า)
          ปลอบใจน้ำตาที่มันแอบไหลในบางคราว
            (ปลอบใจน้ำตาที่มันแอบไหลในบางคราว)
          สำรวจความจำในทุกพื้นที่ใจเรา
            (สำรวจความจำในทุกพื้นที่ใจเรา)
          เจอแต่รอยเท้าของความผิดหวัง
          
(เจอแต่รอยเท้าของความผิดหวัง)

                      ตรงนี้เมืองใหญ่ไม่ใช่บ้านเฮา
                        (ตรงนี้เมืองใหญ่ไม่ใช่บ้านเรา)
          ต้องเสียค่าเช่าด้วยเหงื่อด้วยเหงาด้วยกำลัง
           (ต้องเสียค่าเช่าด้วยเหงื่อด้วยเหงาด้วยกำลัง)
          คำว่าสักวันไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง
           (คำว่าสักวันไม่เคยเห็นสักครั้ง)
          เราจะกลับหลังย้อนรอยเมื่อวาน หรือดันทุรังสู้ไป
         
(เราจะกลับหลังย้อนรอยเมื่อวาน หรือดันทุรังสู้ไป)

                      บ่อยากสิเอากระดูกกลับบ้าน
                        (ไม่อยากจะเอากระดูกกลับบ้าน)
          แต่อยากสิเอาความฝันกลับนา
           (แต่อยากจะเอาความฝันกลับนา)
          กลับบ้านในวันที่มีแรงฟันฝ่า
           (กลับบ้านในวันที่มีแรงฟันฝ่า)
          กลับไปหาอ้อมกอดของใจ
           (กลับไปหาอ้อมกอดของใจ)
          ปรับขนาดความฝันให้เล็กลง ให้มันตรงกับที่เราทำได้
           (ปรับขนาดความฝันให้เล็กลง ให้มันตรงกับที่เราทำได้)
          เก็บแรงก้อนสุดท้าย กลับไปหา ไปกอดความสุขใจที่บ้านเฮา
         
(เก็บแรงก้อนสุดท้าย กลับไปหา ไปกอดความสุขใจที่บ้านเรา)

                      เสียงแคนลายเศร้าเอิ้นเฮาคืนบ้าน
                         (เสียงแคนลายเศร้าเรียกเราคืนกลับบ้าน)
          ดอกติ้วดอกจานอ้อมกอดถิ่นฐานยังคอยเรา
           (ดอกติ้วดอกจานอ้อมกอดถิ่นฐานยังคอยเรา)
          บ้านนอกยังสวยถ้าไม่หวังรวยแข่งใครเขา
            (บ้านนอกยังสวยถ้าไม่หวังรวยแข่งกับใครเขา)
          ขอดเก็บแรงเรา ย้อนคืนบ้านนา ซ่อมฝันสร้างชีวิตใหม่
         
(ออมเก็บแรงของเรา ย้อนคืนบ้านนา ซ่อมฝันสร้างชีวิตใหม่)

                      บ่อยากสิเอากระดูกกลับบ้าน
                         (ไม่อยากจะเอากระดูกกลับบ้าน)
           แต่อยากสิเอาความฝันกลับนา
            (แต่อยากจะเอาความฝันกลับนา)
           กลับบ้านในวันที่มีแรงฟันฝ่า
             (กลับบ้านในวันที่มีแรงฟันฝ่า)
           กลับไปหาอ้อมกอดของใจ
            (กลับไปหาอ้อมกอดของใจ)
           ปรับขนาดความฝันให้เล็กลง ให้มันตรงกับที่เราทำได้
            (ปรับขนาดความฝันให้เล็กลง ให้มันตรงกับที่เราทำได้)
           เก็บแรงก้อนสุดท้าย กลับไปหา ไปกอดความสุขใจที่บ้านเฮา
          
(เก็บแรงก้อนสุดท้าย กลับไปหา ไปกอดความสุขใจที่บ้านเรา)

           อยู่แบบเราๆ ความสุขราคาบ่แพง
          
(อยู่แบบเราๆ ความสุขราคาไม่แพง)

 

มีคำภาษาอีสานที่น่าสนใจดังนี้

เฮา = เรา
เอิ้น = เรียก, เรียกร้อง

บ่ = ไม่
ขอด = ขมวด, เก็บออม

สิ = จะ


 

 

monkan 14

เพลง "แรงก้อนสุดท้าย" ของ มนต์แคน แก่นคูณ เพลงนี้มีคำภาษ๋าอีสานไม่กี่คำ แต่อาวทิดหมูก็อยากนำเสนอ เพราะหวนนึกถึงตอนที่เคยไปขายแรง แบกความหวังไปเมืองกรุงมุ่งขายแรงงาน หวังจะได้มีทุนรอนกลับมาจุนเจือทางบ้าน พอมีเงินเก็บบ้างเพื่อมาสู่ขอคนเคยฮักมาร่วมสร้างชีวิตด้วยกัน เป็นความฝันอันยิ่งใหญ่ แต่... สุดท้ายก็ล้มเหลว ไม่ได้มีเงินทองมากมายดังที่หวัง แถมยังชอกช้ำที่ตลอดเวลาที่ทุ่มเทไปนับสิบปีนั้น คนฮักก็ตีจากไปหาหนุ่มลูกกำนันผู้ร่ำรวยไปเสียแล้ว เพลงนี้เป็นบทเรียนสอนใจได้ว่า ถ้าเรามีแรงแล้วทุ่มเทให้กับท้องทุ่งนาที่บ้าน เราก็มีโอกาสลืมตาอ้าปาก มีสุขได้เพราะบ้านไม่ต้องเช่า ข้าวไม่ต้องซื้อ พืชผัก ปูปลา มีให้หากินได้อย่างเป็นสุข กลับบ้านเราเถิดนะก่อนที่จะหมดแรงไปเสียก่อน

 

redline

backled1

 

song word

ารเรียนรู้ภาษาอีสานจากเพลง น่าจะเป็นหนทางที่ผู้เรียนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะได้ยินสำเนียงเสียงอีสานจากนักร้อง บางเพลงก็ยังเรียนรู้ความหมายของคำได้ จากละครในมิวสิกวีดิโอได้อีกด้วย ตามคำขอครับสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเพลงอีสานแต่ฟังแล้วเข้าใจความหมายได้ไม่หมด ก็ทำให้ความรู้สึกซาบซึ้งในดนตรีนั้นลดน้อยลง อยากจะทราบเนื้อหาเพลงใด ของนักร้องคนใด ก็บอกกันมาครับ ส่งอีเมล์ไปที่ webmaster (@) isangate.com จะได้นำมาเสนอเป็นลำดับต่อไป ขอแจ้งให้ทราบว่า ผู้จัดทำไม่ได้มีความต้องการโปรโมทเพลงนักร้องคนใด ค่ายใดทั้งสิ้น เพลงที่ถูกคัดเลือกมานำเสนอ จะต้องมีภาษาอีสานแทรกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่แฟนเพลงบางท่านอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ฟังแล้วม่วนแต่บ่เข้าใจ จึงจะได้รับการคัดเลือกมาลงในหน้านี้ครับ

 

หึย...

คำร้อง/ทำนอง : นริศ อรัญรุตม์  
ขับร้อง : ไผ่ พงศธร - ต่าย อรทัย  

 

                       (ไผ่) เพิ่นเพิ่น เฟสเพิ่นหมู่เต็มล่ะบ้อ รับแอดเฮาแนได้บ่
                                  (เธอๆ FB เธอเพื่อนเต็มหรือยัง รับเราเป็นเพื่อนได้ไหม)
                               โปรไฟล์คืองามแท้น้อ เฮาอยากแชทนำหลายหลาย
                              
(รูปโปรไฟล์ช่างสวยจริงหนอ เราอยากแชทด้วยจังเลย)
                      (ต่าย) หนีแนะ ไผงามกะไปกดไลค์ แบบนี้เซื่อใจบ่ได้
                                   (ไปไกลๆ เลย ใครสวยก็ไปกดไลค์ แบบนี้เชื่อใจไม่ได้)
                               ไปแชทกับสาวอื่นไป ซังหลายผู้ซายขี้ดื้อ
                                   (ไปแชทกับสาวอื่นไป เกลียดมากผู้ชายซุกซน)
                        (ไผ่) เฮาบ่แม่นคนหลายใจดอก แค่มักเว้ามักหยอกซือซือ
                                   (เราไม่ใช่คนหลายใจนะ แค่ชอบพูดหยอกล้อเฉยๆ)
                                ถ้าได้ฮักกับเพิ่นทุกมื้อ สาบานสิบ่นอกใจ
                                    (ถ้าได้รักกับเธอทุกวัน สาบานจะไม่นอกใจ)

                      (ต่าย) หึย.. จั่งแม่นเพิ่นปากเป็นเนาะ เทียวเอาคำหวานมาล่อ
                                   (แหม.. ปากหวานจริงนะ ชอบเอาความหวานมาล่อ)
                               จักสิเซื่อได้บ่น้อ เฮาย่านเพิ่นบ่จริงใจ
                                   (จะเชื่อได้ไหมหนอ เรากลัวเธอไม่จริงใจ)
                       (ไผ่) หึย.. จั่งแม่นเพิ่นเว้าบาปหลาย เฮาบ่ได้มาตั๋วไผ
                                  (แหม.. อย่าใส่ร้ายเขานะ เราไม่เคยโกหกใคร)
                               เฮามีแต่ความจริงใจ บ่เซื่อกะลองฮักเบิ่ง
                                  (เรามีแต่ความจริงใจ ไม่เชื่อก็ลองรักดู)
                      (ต่าย) หึยไผสิไป เซื่อใจ
                               
(แหม.. ใครจะไปเชื่อใจ)

                        (ไผ่) เพิ่นเพิ่น มีไผไปส่งล่ะบ้อ กลับบ้านบ่ย่านบ่น้อ
                                   (เธอๆ มีใครไปส่งหรือยัง เดินทางกลับบ้านไม่กลัวเหรอ)
                               เฮาขอไปส่งได้บ่.. มืดๆ มันอันตราย
                                   (เราขอไปส่งได้ไหม มืดๆ มันอันตราย)
                      (ต่าย) หนีแนะ เฮากลับผู้เดียวเองได้..บ้านเฮานั้นอยู่บ่ไกล
                                   (ไกลๆ เลย เรากลับคนเดียวเองได้ บ้านก็อยู่ไม่ไกล)
                               ไปส่งสาวอื่นพุ้นไป ซังหลายผู้ซายขี้ดื้อ
                               
(ไปส่งสาวคนอื่นไป๊ เกลียดนักผู้ชายซุกซน)

                   ** (ไผ่) เฮาบ่แม่นคนหลายใจดอก แค่มักเว้ามักหยอกซือซือ
                                  (เราไม่ใช่คนหลายใจนะ แค่ชอบพูดหยอกล้อเฉยๆ)
                               ถ้าได้ฮักกับเพิ่นทุกมื้อ สาบานสิบ่นอกใจ
                                   (ถ้าได้รักกับเธอทุกวัน สาบานจะไม่นอกใจ)
                     (ต่าย) หึย.. จั่งแม่นเพิ่นปากเป็นเนาะ เทียวเอาคำหวานมาล่อ
                                  (แหม.. ปากหวานจริงนะ ชอบเอาความหวานมาล่อ)
                               จักสิเซื่อได้บ่น้อ เฮาย่านเพิ่นบ่จริงใจ
                                  (จะเชื่อได้ไหมหนอ เรากลัวเธอไม่จริงใจ)
                        (ไผ่) หึย.. จั่งแม่นเพิ่นเว้าบาปหลาย เฮาบ่ได้มาตั๋วไผ
                                   (แหม.. อย่าใส่ร้ายเขานะ เราไม่เคยโกหกใคร)
                               เฮามีแต่ความจริงใจ บ่เซื่อกะลองฮักเบิ่ง
                                   (เรามีแต่ความจริงใจ ไม่เชื่อก็ลองรักดู)
                      (ต่าย) หึยไผสิไป เซื่อใจ
                               
(แหม.. ใครจะไปเชื่อใจ)

                                          (ดนตรี... ซ้ำ ** )

 

มีคำภาษาอีสานที่น่าสนใจดังนี้

เพิ่น = เธอ (เรียกด้วยความสนิทสนม)
เฮา = เรา (แทนคนพูด)
นำหลายหลาย = ด้วยมากๆ
ซัง = เกลียด, ไม่ถูกใจ
มักเว้า = ชอบพูด, ช่างพูด
มื้อ = วัน (เวลา)
ปากเป็น = พูดหวาน, หลอกล่อ
บาปหลาย = ใส่ร้าย
หมู่ = เพื่อน
ได้บ่ = ได้ไหม
หนีแนะ = ไปให้ไกลๆ
ขี้ดื้อ = ซุกซน, เจ้าเล่ห์
มักหยอก = ชอบหยอกล้อ
บ่ = ไม่ (ปฏิเสธ)
ย่าน = กลัว
ตั๋ว = โกหก
ล่ะบ้อ = หรือยัง
งามแท้น้อ = สวยจริงๆ
ไผ = ใคร
บ่แม่น = ไม่ใช่
ซือซือ = เฉยๆ
จั่งแม่น = ช่าง, อย่างนั้น
เว้า = พูด (เจรจา)
พุ้น = โน่น

 

 

pai tai huey

หึย เพลงรักโต้ตอบของสาวๆ หนุ่มๆ อีสานที่น่ารัก น่าเอ็นดู ขับร้องโดย ต่าย อรทัย คู่กับ ไผ่ พงศธร จัดให้ตามคำขอที่มีมาอย่างมากมาย ด้วยความสงสัยในชื่อเพลงนี่แหละ ซึ่งแม้แต่คนที่เกิดและเติบโตในภาคอีสานบางคนก็ไม่เข้าใจว่า "หึย" แปลว่าอิหยัง? ให้ดูภาพประกอบที่หน้าตาเด็กน้อยนั่นจะแสดงความหมายออกมาเต็มๆ เลย "หึย" เป็นคำอุทาน ที่มีความหมายคล้ายกับภาษาไทยกลาง เป็นคำอุทานว่า "แหม" "ใช่เหรอ" จริงๆ มันแปลความได้หลายอย่างตามบริบทในขณะนั้น เช่น "หึย..จั่งแม่นเพิ่นเว้าบาปหลาย" ความหมาย แหม... อย่าใส่ร้ายเขานะ! นั่นเอง

 

redline

backled1

 

song word

ารเรียนรู้ภาษาอีสานจากเพลง น่าจะเป็นหนทางที่ผู้เรียนจะเข้าใจได้ง่ายกว่า เพราะได้ยินสำเนียงเสียงอีสานจากนักร้อง บางเพลงก็ยังเรียนรู้ความหมายของคำได้ จากละครในมิวสิกวีดิโอได้อีกด้วย ตามคำขอครับสำหรับแฟนๆ ที่ชอบเพลงอีสานแต่ฟังแล้วเข้าใจความหมายได้ไม่หมด ก็ทำให้ความรู้สึกซาบซึ้งในดนตรีนั้นลดน้อยลง อยากจะทราบเนื้อหาเพลงใด ของนักร้องคนใด ก็บอกกันมาครับ ส่งอีเมล์ไปที่ webmaster (@) isangate.com จะได้นำมาเสนอเป็นลำดับต่อไป ขอแจ้งให้ทราบว่า ผู้จัดทำไม่ได้มีความต้องการโปรโมทเพลงนักร้องคนใด ค่ายใดทั้งสิ้น เพลงที่ถูกคัดเลือกมานำเสนอ จะต้องมีภาษาอีสานแทรกอยู่จำนวนหนึ่ง ที่แฟนเพลงบางท่านอาจไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง ฟังแล้วม่วนแต่บ่เข้าใจ จึงจะได้รับการคัดเลือกมาลงในหน้านี้ครับ

 

ยังฮักไผได้อีกบ่

คำร้อง/ทำนอง : ภานุวัฒน์ วิเศษวงษา
ขับร้อง : มนต์แคน แก่นคูน, มีนตรา อินทิรา

 

             (มนต์แคน) ดีกรีที่เทลงแก้ว บอกอ้ายเทแล้วบ่เอาโซดา
                               (เหล้าที่เทลงแก้ว แล้วบอกพี่ไม่ต้องมีโซดา)
            เจ้าบอกสิเอาน้ำตา ใส่แทนโซดาลองเบิ่งจั๊กคืน
             (น้องบอกจะเอาน้ำตา ใส่แทนโซดาดูซิสักคืน)
            เห็นเจ้านั่งเศร้าคนเดียว หมู่เขามาเที่ยวม่วนแตกวื้นๆ
             (เห็นน้องนั่งเศร้าคนเดียว เพื่อนๆ เขามาเที่ยวสนุกสนาน)
            มาติดต่อกันหลายคืน นั่งโต๊ะประจำทำใจทุกที
            (มาติดต่อกันหลายคืน นั่งโต๊ะประจำทำใจทุกที)

                          หลายเทืออ้ายได้ยากนำ ยามเจ้ากลับบ้านบ่ไหว
                             (หลายครั้งที่พี่ต้องได้ลำบาก ช่วยน้องตอนกลับบ้านไม่ไหว)
             เห็นแล้วหลูโตน จนอดบ่ได้อีหลี
              (เห็นแล้วสงสาร จนอดใจช่วยเหลือไม่ได้)
             ให้คนบ่ฮัก ให้เขาเบิ่ดคัก แล้วบ้อ...หัวใจ
               (ให้ใจกับคนไม่รัก ให้เขาหมดหัวใจแล้วใช่ไหม...)
             เจ้าจังมานั่งฮ้องไห้ สิเป็นสิตายปานนี้
             (น้องถึงมานั่งร้องไห้ จะเป็นจะตายปานนี้)

                          บ่เป็นตาส่วง บ่เป็นตาซื่น จั๊กหน่อยแนตี๊
                             (ไม่มีโอกาสสร่าง สดชื่น บ้างสักหน่อยหรือคนดี)
             มันส่อยได้อยู่บ้อดีกรี ใจเจ้ามื้อนี้ ยังฮักไผอีกได้บ่
             (มันช่วยได้หรือดีกรี ใจน้องวันนี้ ยังรักใครอีกได้ไหม)

              (มีนตรา) ยังบ่มีทางอื่นให้ใจฟื้นคืนมาได้เลย
                             (ยังไม่มีทางอื่นทำให้ใจฟื้นคืนมาได้เลย)
             ให้เขาเบิ่ดใจเขายังถิ่มน้องเสย
               (ให้เขาหมดใจ เขาก็ยังทอดทิ้งน้องได้เลย)
              อ้ายเอ๋ยใจน้องพังคักอิหลี
              (พี่เอยใจน้องนั้นพังไปแล้วจริงๆ)

                           ให้คนบ่ฮักให้เขาเบิ่ดคัก อยู่อ้ายหัวใจ
                               (ให้ใจกับคนไม่รัก ให้เขาไปหมดหัวใจ)
              แต่สิ่งที่เขาคืนให้ กะจั่งอ้ายเห็นวันนี้
                (แต่สิ่งที่เขาคืนให้ ก็อย่างที่พี่ได้เห็นในวันนี้)
              ขอบคุณอ้ายหลาย น้องฮู้สึกได้ในความหวังดี
                (ขอบคุณพี่มากจริงๆ น้องรู้สึกได้ในความหวังดี)
              จักส่อยได้หรือบ่ดีกรี แค่ยังบ่มีวีธี ซ่อมใจดวงนี้ใช้ต่อ
               (ไม่รู้จะช่วยได้หรือไม่กับดีกรี แต่ก็ยังไม่มีวิธีซ่อมแซมดวงใจนี้ใช้ต่อ)

            (มนต์แคน) ** ให้คนบ่ฮัก ให้เขาเบิ่ดคัก แล้วบ้อ...หัวใจ
                                  (ให้คนไม่รัก ให้เขาหมดไปแล้วหรือ หัวใจ)
              เจ้าจังมานั่งฮ้องไห้ (สิ่งที่เขาคืนให้) สิเป็นสิตายปานนี้
                (น้องถึงมานั่งร้องไห้ (สิ่งที่เขาคืนให้) จะเป็นจะตายปานนี้)
              บ่เป็นตาส่วง บ่เป็นตาซื่น จักหน่อยแนตี๊
                (ไม่มีโอกาสสร่าง สดชื่น บ้างสักหน่อยหรือคนดี)
              มันส่อยได้อยู่บ้อดีกรี (ส่อยได้หรือบ่ดีกรี) ใจเจ้ามื้อนี้ ยังฮักไผอีกได้บ่
              (มันช่วยได้หรือดีกรี  (ช่วยได้หรือไม่ดีกรี) ใจน้องวันนี้ ยังรักใครอีกได้ไหม)
              คงบ่อยากเป็นจังซี้ดอกหนอ อ้ายเข้าใจ... คะสั้น ฮักอ้ายได้บ่
              (คงไม่อยากเป็นแบบนี้ดอกหนอ พี่เข้าใจ ถ้างั้น รักพี่ได้ไหม?)

                                           (ดนตรี ... ซ้ำ ** )

มีคำภาษาอีสานที่น่าสนใจดังนี้

อ้าย = พี่ (ชาย)
ลองเบิ่ง = ลองดู
แตกวื้นๆ = สนุกสนาน, เจี๊ยวจ๊าว
หลูโตน = สงสาร, เห็นใจ
บ้อ = หรือ
ตาส่วง = สร่าง, ห่างหาย
แนตี๊ = แน่หรือ
ฮักไผ = รักใคร
กะจั่ง = ก็อย่าง
บ่ = ไม่
จั๊กคืน = สักคืน
เทือ = ครั้ง (จำนวน)
อีหลี = จริงๆ
จัง = จึง
ตาซื่น = สดชื่น
ส่อย = ช่วย
ถิ่ม = ทอดทิ้ง
ฮู้สึก = รู้สึก
สิ = จะ
หมู่เขา = เพื่อนๆ
ยากนำ = ลำบากด้วย
เบิ่ดคัก = หมดสิ้น
ฮ้องไห้ = ร้องไห้
จั๊กหน่อย = สักหน่อย
มื้อ = วัน
เสย = ไม่ใยดี
คะสั้น = ถ้าอย่างนั้น

 

 

monkan 13

เพลงรักซึ้งๆ ร้องคู่กันของ มนต์แคน แก่นคูณ และ มินตรา อินทิรา เรื่องราวของหญิงสาวหัวใจสลายที่ใช้เหล้าดับทุกข์ จากการที่ถูกชายคนรักทอดทิ้ง ผ่านชายหนุ่มที่คอยเฝ้ามองช่วยเหลือในทุกๆ วัน เฝ้าถามว่า เหล้าช่วยได้ไหม? ถ้าไม่ได้ก็ให้พี่ชวยสมานหัวใจให้เถอะนะ ความหมายของเพลงจากคำในภาษาลาว(อีสาน) คงช่วยให้ทุกท่านฟังเพลงได้ไพเราะและเข้าใจความหมายได้มากยิ่งขึ้น ม่วนกันได้เลยครับ สนใจอยากทราบความหมายเพลงใดขอมาผ่านทางแฟนเพจ Facebook ของเรา หรือทางอีเมล์ได้ครับ

 

redline

backled1

 

isan word tip

isangate net 345x250

ppor blog 345x250

adv 345x200 1

นโยบายความเป็นส่วนตัว Our Policy

ยินดีต้อนรับสู่ประตูอีสานบ้านเฮา เว็บไซต์ของเรา ใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น อ่านนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Policy) และนโยบายคุกกี้ (Cookie Policy)